ศูนย์ข่าวศรีราชา- เจ้าของตู้คอนเทนเนอร์ตั้งบนทางระบายน้ำริมถนนเลียบทางรถไฟใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นำเอกสารสิทธิ์เช่าที่จากการรถไฟฯ แสดงต่อสื่อมวลชน ยืนยันดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายและไม่ใช่พื้นที่สาธารณะตามข่าว
จากกรณีที่มีประชาชนและผู้ใช้รถใช้ถนนใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่า มีกลุ่มนายทุน นำตู้คอนเทนเนอร์มาตั้งเรียงต่อกันบนแนวทางระบายน้ำสาธารณะบริเวณริมถนนเลียบทางรถไฟใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และมีการแบ่งล็อกให้เช่าทำการค้าจนหวั่นว่าจะส่งผลกระทบต่อการระบายน้ำและความสะดวกในการสัญจร
กระทั่ง เจ้าหน้าที่เมืองพัทยา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงจนพบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีการนำตู้คอนเทนเนอร์จำนวนหลายตู้มาวางในลักษณะคล้ายร้านค้าชั่วคราวตั้งขวางแนวทางระบายน้ำจริงเมืองพัทยา จึงเตรียมดำเนินคดีนายทุน พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ผังเมือง หาวิธีรื้อถอนนั้น
ล่าสุด นายรังษี จังธนสมบัติ ผู้ดูแลพื้นที่ได้นำเอกสารยืนยันสิทธิ์การเช่าที่จากการรถไฟแห่งประเทศไทย ชี้แจงต่อผู้สื่อข่าวว่าพร้อมบอกพื้นที่ดังกล่าวตนเองได้ทำสัญญาเช่ากับการรถไฟฯ ถูกต้องตามกฎหมาย และได้มีการถมดินเมื่อราว 3 ปีก่อน ซึ่งในช่วงเวลานั้น เจ้าหน้าที่เมืองพัทยา ได้เข้ามาพูดคุยและขอให้ขุดเปิดทางระบายน้ำ เพื่อป้องกันผลกระทบกับชุมชน
ตนเองจึงได้ทำการวางเสาคอนกรีตขนาดใหญ่รองรับไว้ด้านล่าง และจัดให้มีช่องทางน้ำไหลผ่านได้สูงกว่า 20 เซนติเมตร ก่อนจะนำตู้คอนเทนเนอร์วางเรียงไว้ด้านบน
" พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินที่เช่าจากการรถไฟทั้งหมด 2 แปลง ตั้งอยู่บริเวณเขาน้อย ซึ่งเดิมเคยเป็นแนวคลองที่เมืองพัทยาขุดไว้เพื่อระบายน้ำ และก่อนอนุญาตให้เช่าเจ้าหน้าที่การรถไฟก็ได้เข้ามาตรวจสอบแล้วว่าไม่ส่งผลกระทบต่อระบบระบายน้ำ และที่ผ่านมาทางเราก็ได้ประสานงานกับเมืองพัทยามาโดยตลอด"
ส่วนกรณีที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจเข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติควบคุมอาคารนั้น
นายรังษี ยืนยันว่า ตู้คอนเทนเนอร์ที่ตั้งอยู่เป็นทรัพย์สินส่วนตัวไม่ได้มีการต่อเติมโครงสร้างถาวร และไม่ได้ใช้เพื่อการค้าหรืออยู่อาศัยถาวร ยกเว้นเพียงตู้กัญชาหนึ่งตู้ที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขจังหวัดชลบุรีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
" เช่นเดียวกับกระแสข่าวที่มีกลุ่มนักข่าวบางราย เรียกรับเงินจำนวน 10,000 บาท เพื่อไม่ให้นำเสนอข่าวในเชิงลบ ก็ขอยืนยันว่ามีการเข้ามาพูดคุยจริง แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดเนื่องจากเราเองก็เคยเป็นอดีตนักข่าวเช่นกัน" นายรังษี กล่าว


