สระแก้ว-ทหารไทย ลุยเก็บกู้ทุ่นระเบิดบ้านหนองหญ้าแก้ว แม้กัมพูชาขอให้ยุติ ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียด ขณะทหาร–สื่อกัมพูชาแห่สังเกตการณ์ โดยคาดว่าจะได้พื้นที่ปลอดภัยรวม38,256 ตารางเมตร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (10 ต.ค.) กองทัพภาคที่ 1 ร่วมกับกองกำลังบูรพา หน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เริ่มปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบริเวณพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ตามแผนปฏิบัติการที่ได้แจ้งต่อฝ่ายกัมพูชาล่วงหน้า ตามข้อตกลงจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC)ระหว่างไทย–กัมพูชา เพื่อเคลียร์พื้นที่ชายแดนให้ปลอดภัยจากวัตถุระเบิดตกค้างในอดีต
แต่กลับถูกฝั่งกัมพูชาทำหนังสือโต้ตอบขอให้ไทยชะลอหรือยุติการดำเนินการไว้ก่อน
อย่างไรก็ตาม กองทัพภาคที่ 1 ยืนยันเดินหน้าภารกิจตามแผนที่วางไว้ โดยมีการใช้รถเก็บกู้และเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจเข้าดำเนินการอย่างระมัดระวังในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด หลังทหารกัมพูชาและสื่อมวลชนฝั่งเขมรเดินทางมาปักหลักสังเกตการณ์จำนวนมาก โดยบางส่วนได้ใช้กล้องและโทรศัพท์มือถือบันทึกภาพและวิดีโอขณะทหารไทยปฏิบัติงาน
ส่วนชาวบ้านในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว เผยว่ารู้สึกโล่งใจที่ไทยเริ่มเก็บกู้ทุ่นระเบิดอย่างจริงจังหลังรอคอยมานาน เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเคยเกิดเหตุระเบิดจากทุ่นที่ยังหลงเหลือจากอดีต
สำหรับปฏิบัติการในวันนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญของกองทัพไทยในการสร้าง “เขตปลอดทุ่นระเบิด” ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา เพื่อให้พื้นที่ปลอดภัยสำหรับประชาชนในอนาคต
ขณะที่หัวหน้าคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวIOT-Thailandลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ตรวจแนวลวดหนามและการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบ้านหนองจาน–หนองหญ้าแก้ว โดยมี พลจัตวา ซัมซุล ริซัล บิน มูซา (Brigadier General Samsul Rizal bin Musa)ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารมาเลเซีย ประจำกรุงเทพฯ เป็นหัวหน้าคณะผู้
พร้อมคณะทูตทหารจากอีก4 ประเทศ
โดยฝ่ายไทยได้จัดกำลังจากกองร้อยควบคุมฝูงชน (คฝ.)1กองร้อย เข้าดูแลความเรียบร้อย พร้อมจัดชุดตรวจค้นวัตถุระเบิด4ชุด และใช้รถถากถางหุ้มเกราะD5เข้าปฏิบัติการตรวจค้นและเก็บกู้วัตถุระเบิดตกค้างในพื้นที่ คาดว่าจะได้พื้นที่ปลอดภัยรวม38,256
ตารางเมตร
และยังได้ลงพื้นที่บ้านวังมน อ.อรัญประเทศ เพื่อตรวจสอบบริเวณช่องทางที่เคยถูกใช้ในการลักลอบข้ามพรมแดน และเดินทางไปยังบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง เพื่อดูแนวลวดหนามและระบบป้องกันความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ไทย ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบ้านโจกเจย จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา
นอกจากนั้น คณะผู้สังเกตการณ์ IOT-Thailandได้รับฟังการชี้แจงจากกองทัพภาคที่1 ถึงขั้นตอนและเหตุผลของการดำเนินการ ซึ่งยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในอธิปไตยของไทย การเก็บกู้ทุ่นระเบิดเป็นไปตามกรอบกฎหมายไทยและหลักสากล เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดน