xs
xsm
sm
md
lg

ผู้การ ตร.โคราชชี้คนขับหลับใน เหตุรถตู้มรณะชนไฟไหม้ดับ 11 ศพ ส่ง รพ.ตำรวจพิสูจน์อัตลักษณ์หมดแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้การตำรวจโคราชชี้คนขับหลับใน เหตุรถตู้มรณะชนราวเหล็กกั้นตกร่องถนนไฟลุกท่วมคลอกดับ 11 ศพ และไม่พบรอยเบรก ส่วนไฟไหม้เกิดจากรถพลิกคว่ำน้ำมันรั่วและเกิดประกายไฟลุกไหม้ เร่งรวบรวมพยานหลักฐานสรุปคดี พร้อมหนุนญาติฟ้องแพ่งบริษัทเจ้าของรถตู้ ล่าสุดส่งร่าง 11 รายไปตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ที่ รพ.ตำรวจหมดแล้วพร้อมญาติ

วันนี้ (23 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีอุบัติเหตุรถตู้โดยสารเสียหลักพุ่งชนราวเหล็กกั้นทางและตกร่องกลาง ถนนมิตรภาพ ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ช่วงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 100-99 บ้านมอจะบก ตำบลมิตรภาพ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา จนเกิดไฟลุกไหม้ท่วมรถตู้ทั้งคัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอก 11 ราย และมีผู้รอดชีวิต 1 ราย ตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น


ล่าสุดบ่ายวันนี้ พล.ต.ต.อิทธิพล นาคคำ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา เปิดเผยว่า จากการสอบสวนปากคำพยานที่รอดชีวิต พยานแวดล้อม และพยานหลักฐานในเบื้องต้นยังไม่พบว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับบุคคลอื่น ทั้งเรื่องของการขับรถเฉี่ยวชนหรือขับรถตัดหน้ากัน นอกจากนี้ยังไม่พบร่องรอยของการเบรกรถบริเวณจุดเกิดเหตุ รวมทั้งเรื่องของการตรวจสอบระบบ GPS ก็ไม่พบว่ารถตู้คันเกิดเหตุขับด้วยความเร็วแต่อย่างใด ขณะเกิดเหตุรถตู้ขับมาด้วยความเร็ว 87 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น ทำให้คาดว่าอุบัติเหตุครั้งนี้อาจจะเกิดจากการที่คนขับหลับใน อย่างไรก็ตาม จะต้องรอผลการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง ถึงจะสรุปสาเหตุที่แน่ชัดได้ว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจากสาเหตุอะไร


ส่วนสาเหตุของไฟไหม้รถตู้เบื้องต้นคาดว่า เกิดจากการที่รถตู้เสียหลักพลิกคว่ำแล้วเกิดมีน้ำมันเชื้อเพลิงรั่วไหลออกมา ประกอบกับรถตู้เดินทางมาเป็นระยะเวลานาน ทำให้เกิดความร้อนจนเกิดประกายไฟ เป็นสาเหตุให้เกิดไฟลุกท่วมรถตู้ ซึ่ง จากการตรวจสอบถังแก๊ส CNG จำนวน 3 ถังที่ติดตั้งบนรถตู้ เจ้าหน้าที่ไม่พบร่องรอยความผิดปกติ และรอยแตกร้าวแต่อย่างใด

สำหรับร่างผู้เสียชีวิตที่ถูกไฟคลอกทั้ง 11 ราย ขณะนี้ได้ส่งไปตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ครบทั้งหมดแล้ว ซึ่งทางญาติผู้เสียชีวิตทุกรายก็ได้เดินทางไปพร้อมกัน เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้เก็บตัวอย่าง DNA นำไปตรวจเปรียบเทียบ และจะได้สะดวกในการรับศพกลับไปดำเนินการตามประเพณีต่อไป

อย่างไรก็ตาม หากญาติผู้เสียชีวิตจะเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่ง ในกรณีดังกล่าวจากบริษัทเจ้าของรถนั้น เป็นเรื่องการดำเนินการของทางญาติ ส่วนตำรวจพร้อมให้ข้อมูลและสำนวนคดี แต่เบื้องต้นทราบว่าทางประกันได้มีการเยียวยาแล้ว


ขณะที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ตำรวจภูธรภาค 3 โดยตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมกรณีเหตุการณ์รถตู้ชนราวเหล็กกั้นพุ่งตกร่องกลางถนนเกิดไฟลุกไหม้ทั้งคันมีผู้เสียชีวิต 11 ราย บาดเจ็บ 1 รายดังกล่าว ว่า รถยนต์ตู้คัน เกิดเหตุ ทะเบียน 30-1178 อำนาจเจริญ อยู่ในความครอบครองของ นายมนตรี โพธารินทร์ ราษฎร จ.อำนาจเจริญ จดทะเบียนเป็นรถยนต์โดยสารไม่ประจำทางในนาม หจก.มนตรีทรัพย์เจริญ

จัดทำประกันภัย ประเภท 3+ กับ บริษัท มิตรแท้ประกันภัย และมีเครื่องส่งสัญญาณ GPS ติดตั้งอยู่ด้วย ก่อนเกิดเหตุได้รับการว่าจ้างจากกลุ่มผู้โดยสารซึ่งเป็นราษฎร ต.คงบัง อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ และใกล้เคียงให้ไปส่งที่ กทม., จ.นนทบุรี สำหรับผู้บาดเจ็บคือนาย ธนชิต กิ่งแก้ว จะเดินทางไป จ.นครปฐม โดยมีนายวันชัย เสวาพบ เป็นผู้ขับขี่ พร้อมด้วยผู้โดยสารที่เสียชีวิตอีก 10 ราย


จนกระทั่งวันที่ 23 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 21.30 น. รถตู้คันดังกล่าวขณะที่กำลังวิ่งมาด้วยความเร็ว 87 กม./ชม. ได้เสียหลักพุ่งชนการ์ดเรลได้รับความเสียหาย และได้มีไฟลุกท่วมทั่วทั้งคัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 11 ราย รวมถึงผู้ขับขี่ด้วย ส่วนรายชื่อผู้เสียชีวิตนั้นจำเป็นต้องรอผลการตรวจยืนยันเอกลักษณ์บุคคลจากสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ อีกครั้งหนึ่ง


จากนั้น พ.ต.อ.โกศล พรมสิทธิ์ ผกก.ศพฐ.3 พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจาก ศพฐ.3, นายรังสฤษดิ์ วรสีหะ จากขนส่งจังหวัดนครราชสีมา ได้เดินทางมาร่วมตรวจสภาพรถยนต์คันเกิดเหตุแล้ว และได้มี น.ส.มณี ไวยภาศ ผอ.สำนักงาน คปภ.จ.นครราชสีมา ได้เดินทางมาพบญาติผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต พร้อมชี้แจงสิทธิประโยชน์จากบริษัทประกันภัยตามกรมธรรมให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตรายละ 1,100,000 บาท, ผู้ขับขี่ 335,000 บาท และผู้บาดเจ็บตามค่าใช้จ่ายที่รักษาจริงและพนักงานสอบสวนได้สอบสวนปากคำ นายธนชิต กิ่งแก้ว พยานผู้บาดเจ็บไว้แล้ว จะได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อสอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุดังกล่าวต่อไป


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ช่วงเช้าของวันเดียวกันนี้ ที่โรงพยาบาลสีคิ้ว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ขบวนรถกู้ภัยของมูลนิธิพุทธธรรมการกุศล (ฮุก 31) นครราชสีมา ทยอยเดินทางเข้ามารับร่างผู้เสียชีวิตเพื่อนำส่งสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ยืนยันตัวบุคคลด้วยการตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับญาติของผู้เสียชีวิต โดยญาติของผู้เสียชีวิตทั้งหมดต่างเดินทางไปยังสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจหมดแล้ว

นายบรรพรต เกิดแก้ว เจ้าหน้าที่กู้ภัยฮุก 31 นครราชสีมา หัวหน้าชุดที่นำร่างของผู้เสียชีวิตไปส่งยังโรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า วันนี้มูลนิธิพุทธธรรมการกุศล (ฮุก 31) นครราชสีมา ได้นำรถฉุกเฉินทั้งหมด 5 คันเพื่อมารับร่างของผู้เสียชีวิตจากโรงพยาบาลสีคิ้วไปส่งยังสถาบันนิติเวชวิทยา  โรงพยาบาลตำรวจ โดยจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง


ด้าน พ.ต.อ.ยงยศ พลเดช ผกก.สภ.สีคิ้ว กล่าวถึงความคืบหน้าทางคดีว่า ขณะนี้ทางคดีความยังต้องรอผลตรวจจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานของตำรวจภูธรภาค 3 ก่อน และยังต้องรอสรุปผลตรวจรถจากสำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา เพื่อยืนยันถึงสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุจนเกิดเพลิงลุกไหม้ แต่ข้อมูลเบื้องต้นจากสำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมาทราบว่าเป็นรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิง 2 ระบบ คือ ระบบน้ำมันและระบบแก๊ส โดยถังที่บรรจุก๊าซ CNG ไม่พบร่องรอยแตกร้าวหรือความเสียหายที่เกิดจากการชนแต่อย่างใด

ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้รถตู้คาดว่าเกิดจากการชนจนทำให้มีน้ำมันเชื้อเพลิงรั่วซึมออกมา ประกอบกับรถตู้ได้เสียดสีกับการ์ดเลนจนเกิดประกายไฟ ทำให้เกิดเพลิงไหม้ในที่สุด






กำลังโหลดความคิดเห็น