เชียงราย - บาดเจ็บจริงแล้ว.. “อาจารย์เฉลิมชัย” หลังประกาศวางมืองานวัดร่องขุ่น ออกควบ จยย.วิบากเที่ยวกับขบวนลูกศิษย์เพลิน ล่าสุดเอ็นเข่าฉีก ต้องพักยาว 6 สัปดาห์ แต่ยืนยันไม่เข็ด-ไม่ล้มโปรแกรมทัวร์อีสานต่อ บอกจะไปนั่งวาดภาพข้างถนน
วันนี้ (26 พ.ย. 65) นรินทร์ ทามาส ซึ่งเป็นลูกศิษย์คนสนิทของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงราย ได้เผยแพร่คลิปผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เป็นภาพของอาจารย์เฉลิมชัยที่ต้องสวมรัดหัวเข่าสำหรับผู้ป่วยเอาไว้ และบอกว่า..ขณะนี้ตนได้รับบาดเจ็บเอ็นหัวเข่าขาดต้องหยุดพักรักษาตัวเป็นเวลา 6 สัปดาห์
อาจารย์เฉลิมชัยระบุว่า สมน้ำหน้าตัวเอง เพราะอายุมากแล้วแต่ไม่ยอมอยู่บ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนประสบเหตุเอ็นหัวเข่าฉีกแต่หลังจากนั้นอีกเพียงประมาณ 1 สัปดาห์ก็กลับไปขี่รถจักรยานยนต์อีกทำให้เอ็นฉีกมากกว่าเดิม เมื่อไปตรวจหมอก็บอกให้หยุดพักเป็นเวลา 6 สัปดาห์ ทำให้ต้องอดขี่รถไปโดยปริยาย จึงสมน้ำหน้าตัวเอง
แต่บอกไว้ก่อนว่าตนชอบการขับขี่และเห็นว่า..นักรบต้องมีบาดแผลบ้างถ้าอยากสนุก รวมทั้งไม่ใช่ครั้งนี้ครั้งเดียวที่เจ็บ แต่เคยเจ็บมาตลอดจึงไม่ต้องเป็นห่วง เพราะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับตน ดังนั้นจะรอให้หายและจะสู้ต่อ จะเดินทางไปที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตามที่วางแผนไว้ด้วย
"เอฟซีครับไม่ได้พบกันนะแถบอีสาน แต่ยังไงก็จะไปอยู่เอารถยนต์ไปให้ลูกศิษย์ขับไป ไปนั่งวาดรูปเล่นๆ ตามข้างถนน พักผ่อน แล้วเจอกันอีกทีเดือนหน้า ปลายเดือนอย่างแน่นอน วิบากหรือทางเรียบเหมือนเดิม เอฟซีใจเย็นแล้วเจอกัน" อาจารย์เฉลิมชัยกล่าวอย่างคึกคักและยังคงมีท่าทีสดใสแม้จะได้รับบาดเจ็บดังกล่าว และยังคงยืนยันว่าจะไม่ยอมเป็นคนแก่ที่อยู่บ้านอย่างเด็ดขาด แต่จะวางแผนท่องเที่ยวด้วยรถจักรยานยนต์เช่นนี้ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่อาจารย์เฉลิมชัยซึ่งมีอายุ 67 ปีแล้ว ได้เคยประกาศว่าจะปล่อยวางจากงานที่วัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแล้ว และเมื่ออายุถึง 70 ปีก็จะวางมือจากงานทุกอย่างด้วย จากนั้นจะขับขี่รถจักยานยนต์ออกไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ พร้อมกับลูกศิษย์ที่ชื่นชอบการขับขี่เหมือนกันด้วย
และที่ผ่านมาอาจารย์เฉลิมชัยพร้อมลูกศิษย์หลายคนมักขับขี่รถจักรยานยนต์วิบากไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ เป็นกลุ่มๆ ทั้งบนภูเขาพื้นที่เชียงราย และภาคเหนือ จนเคยประสบเหตุรถล้มได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยมาแล้ว นอกจากนี้ยังเคยพากันควบจักรยานยนต์เดินทางเป็นขบวนไปยังกรุงเทพฯ และภาคกลางมาแล้วด้วย
