ศูนย์ข่าวศรีราชา - สุดสลด!! สาวใหญ่วัย 47 ปี พ่ายพิษโควิด-19 ลงทุนทำธุรกิจรับแลกเช็คจนถูกโกงล้มละลายสูญทั้งเงินและบ้านซ้ำเป็นหนี้เพิ่ม ตัดสินใจกรอกยาฆ่าตัวตายคู่แม่เฒ่าวัย 76 ปี ทิ้งจดหมายตัดพ้อชีวิต ด้าน ตร.เร่งตรวจพิสูจน์สาเหตุที่แท้จริง
เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ (20 มิ.ย.) พ.ต.ท.ธีทัต ตรุณจันทร์ สว.สอบสวน สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งว่ามีบุคคลเสียชีวิตอยู่ภายในร้านมุสตาฟา ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ เลขที่ 75 ม.8 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา ร่วมเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตอยู่ภายในห้องนอนประกอบด้วย นางทองคำ พรหมเมือง อายุ 76 ปี และ น.ส.ปทิตตา เศรษฐเตชกุล อายุ 47 ปี นอกจากนั้น ยังพบถ้วยอาหารและน้ำดื่ม รวมทั้งขวดน้ำพลาสติกที่มีน้ำสีขุ่นอีก 1 ขวด
จากการตรวจสอบภายในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือการรื้อค้น พบเพียงจดหมายลาตายถูกเขียนตัดพ้อเกี่ยวกับปัญหาทางการเงินที่สอดไว้ในกรมธรรม์ประกันชีวิต และยังระบุข้อความว่า
"ฝากดูแลแม่ด้วยนะ หนูคงต้องลาทุกคนแล้วจริงๆ เมื่อชีวิตมันถึงทางตัน เงิน งาน ทุกอย่างจบแล้ว ไม่มีเงินไม่มีงาน ชีวิตอยู่ไปอย่างไร้ค่า หนี้สินมากมายไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนให้เขา" เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถาม น.ส.ณิชาบูล เศรษฐเตชกุล อายุ 45 ปี ทราบว่า พี่สาวเคยบ่นถึงเรื่องความเครียดมานานกว่า 3 ปีแล้ว โดยเฉพาะปัญหาทางเศรษฐกิจในช่วงโควิด-19
"แต่ปัญหาหลักคือปัญหาเก่าๆ ที่เคยตัดสินใจทำธุรกิจรับซื้อเช็คและถูกโกงจนล้มละลาย หมดเงินหมดบ้านถึง 2 หลัง รวมกว่า 8 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ พี่สาวไม่เคยพูดถึงเรื่องจะคิดสั้นแต่อย่างใด ซึ่งปกติไม่ค่อยได้พูดคุยกันเพราะมีงานต้องรับผิดชอบ แต่ในทุกวันจะต้องมาดูแลแม่ที่บ้านหลังนี้ จนกระทั่งเมื่อช่วงบ่ายได้มาดูว่าแม่กินข้าวหรือยัง แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเข้ามาพบว่าแม่สิ้นใจเสียแล้ว ส่วนพี่สาวตัวเย็น และใบหน้าเริ่มเขียวจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าตรวสอบ" น.ส.ณิชาบูล กล่าว
ด้าน นางศุภานัน ทิมเที่ยง ผู้ใหญ่บ้าน ม.8 ต.โป่ง เผยว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.ปทิตตา มักจะบ่นว่าอยากฆ่าตัวตายและขอไม่ให้ตนเองอย่าเพิ่งทวงเงินที่เคยมาหยิบยืมกันไป ซึ่งตนเองยังปลอบใจว่าไม่เป็นไร
พร้อมยังบอกอีกว่า ที่ผ่านมาตนเองเคยเตือน น.ส.ปทิตตา เกี่ยวกับธุรกิจรับซื้อเช็คและพยายามห้ามปรามให้เลิกคิดเรื่องฆ่าตัวตาย และไม่คิดว่าจะทำเรื่องดังกล่าวจริง
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าผู้เสียชีวิตน่าจะกินยาฆ่าตัวตายแต่ยังไม่พบว่าเป็นยาชนิดใด และจะต้องรอผลการชันสูตรยืนยันอีกครั้งว่าผู้เสียชีวิตกินยาฆ่าตัวตายทั้งคู่หรือไม่
ส่วนสาเหตุการคิดสั้นคาดว่าน่าจะเกิดจากปัญหาการเงินของ น.ส.ปทิตตา ที่ผิดหวังกับธุรกิจที่ตนเองเลือกทำในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมทั้งการถูกโกงจนล้มละลาย กระทั่งเกิดความเครียดรุมเร้าจึงตัดสินดับชีวิตตัวเอง
