xs
xsm
sm
md
lg

รมว.คลังถึงกับปลื้มมาก! สินค้าโอทอปศรีสะเกษโกยยอดขายกว่า 6,000 ล้าน-เปิดศูนย์ OTOP ซื้อขายออนไลน์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศรีสะเกษ - “อาคม” รมว.คลังถึงกับปลื้มมาก! เผยสินค้าโอทอป จ.ศรีสะเกษ โกยยอดขายกว่า 6,000 ล้าน สินค้าประเภทผ้าทำจำหน่ายได้ถึง 978 ล้าน พร้อม เปิด “ศูนย์ OTOP” เป็นศูนย์กลางรับออเดอร์ออนไลน์ซื้อขายอย่างครบวงจร รับมือยุคโควิด-19 ระบาด ภายใต้แนวคิด “มาหน้าร้านเราขาย สั่งออนไลน์เราส่ง”

วันนี้ (7 ก.พ. ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณศูนย์ OTOP จ.ศรีสะเกษ อ.เมืองฯ จ.ศรีสะเกษ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปเป็นประธานเปิด “ศูนย์ OTOP จ.ศรีสะเกษ” โดยมีนายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นผู้กล่าวรายงาน และมีนายสำรวย เกษกุล นายวิชัย ตั้งคำเจริญ นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต รองผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ พล.ต.ต.สันติ เหล่าประทาย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ศรีสะเกษ นายวิทยา วิรารัตน์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ นายจรินทร์ รอบการ พัฒนาการจังหวัดศรีสะเกษ และหัวหน้าส่วนราชการ นำกลุ่มผู้ผลิตผู้ประกอบการโอทอป จ.ศรีสะเกษ ให้การต้อนรับ และร่วมจำหน่ายสินค้า OTOP เป็นจำนวนมาก


นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า จ.ศรีสะเกษ ได้ดำเนินการส่งเสริมสนับสนุนการผลิตและจำหน่ายสินค้า OTOP เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก แก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ ภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และสืบสาน รักษา ต่อยอด ให้ชุมชนเข้มแข็ง พึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน ในการขับเคลื่อนงาน จ.ศรีสะเกษ ได้มีการพัฒนาคุณภาพมาตรฐาน และการสร้างแบรนด์สินค้าใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค เช่น การฝึกอบรมทักษะการแส่ว การนำวัสดุธรรมชาติมาย้อมผ้า ภายใต้แนวคิด “ศรีสะเกษธานี ผ้าศรี...แส่ว”

การจำหน่ายสินค้า OTOP ของ จ.ศรีสะเกษ ในปี 2563 มียอดการจำหน่ายจำนวน 6,125,553,509 บาท โดยสินค้าประเภทผ้ามีเป้าหมายการจำหน่าย 1 พันล้านบาท จำหน่ายได้ 978,342,747 บาท และในปี 2564 ได้นำยุทธศาสตร์การพัฒนา ย้อม ทอ แส่ว ออกแบบ แปรรูปและจำหน่าย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายพันล้านบาท โดยใช้ศูนย์ OTOP เป็นสถานที่บริการนักท่องเที่ยวทั้งภายในและภายนอกจังหวัด รวมถึงเป็นสถานที่รับคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ทางออนไลน์ และเป็นที่รวบรวมการซื้อขายออนไลน์อีกช่องทางหนึ่ง


นายวัฒนากล่าวต่อว่า การดำเนินงานมีการบูรณาการขับเคลื่อนกับทุกภาคส่วนทุกกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ รวมถึงการนำนโยบายของรัฐบาลมาใช้ในระบบการซื้อขาย เช่น โครงการช้อปดีมีคืน โครงการคนละครึ่ง และโครงการไทยชนะ ซึ่งทำให้ยอดการผลิตและจำหน่ายสินค้า OTOP ทุกประเภทมีการหมุนเวียนซื้อ-ขายลดลงเพียงเล็กน้อยแม้ว่าจะอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ศูนย์ OTOP จ.ศรีสะเกษ จึงทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการซื้อขายสินค้า OTOP ของ จ.ศรีสะเกษ อย่างครบวงจร โดยเปิดให้บริการประชาชนผู้สนใจทั่วไป ภายใต้แนวคิด “มาหน้าร้านเราขาย สั่งออนไลน์เราส่ง” อันเป็นการสร้างช่องทางการกระจายสินค้า เพื่อเพิ่มมูลค่าและรายได้ให้แก่พี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษอย่างยั่งยืน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่ากระทรวงการคลัง กล่าวว่า นับว่าเป็นความสำเร็จที่น่าชื่นชมเป็นอย่างมาก ที่ยอดการจำหน่ายสินค้า OTOP จ.ศรีสะเกษ มียอดการจำหน่ายสูงถึง 6,125,553,509 บาท ทำให้เศรษฐกิจของ จ.ศรีสะเกษ ดีขึ้นมาก อีกทั้งมีการผลิตผ้าเบญจศรี ภายใต้แนวคิด “ศรีสะเกษธานี ผ้าศรี...แส่ว” จะเป็นการสร้างรายได้ให้แก่พี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษให้มีความอยู่ดีกินดี มีความสุข สนองนโนบายของรัฐบาลเป็นอย่างดียิ่ง


สำหรับโครงการเราชนะ มีการเข้าไปลงทะเบียนแล้วกว่า 2 ล้านราย ร้านค้าที่เข้าไปร่วมก็มีมาก ได้รับการตอบรับที่ดีมาก โครงการเราชนะ เราตั้งเป้าครอบคลุมเอาไว้ 31.1 ล้านคน ถ้าบวกโครงการประกันตนตามมาตรา 33 เข้ามาอีกประมาณกว่า 9 ล้านคน รวมแล้วจะประมาณ 41 ล้าน นั่นคือเป้าหมายในการครอบคลุมให้ทั่วถึง ส่วนร้านค้านั้นได้มีการหารือกับกระทรวงมหาดไทยที่จะมีการเชิญชวนร้านค้าเข้ามาให้ได้อีกประมาณ 1 ล้านราย

ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 นี้ รัฐบาลนำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคนเป็นอย่างมาก ขอฝากในเรื่องมาตรการการ์ดไม่ตก เนื่องจากว่าการแพร่ระบาดยังไม่จบ พื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงยังมีการตรวจเชิงลึกอยู่ จึงต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงคงจะต้องงดกิจกรรมในการเดินทาง เรื่องการเข้มงวดกับตนเองในเรื่องการสวมหน้ากากเมื่อออกไปในที่ชุมชน และหมั่นล้างมืออยู่เสมอจะเป็นการช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้










กำลังโหลดความคิดเห็น