ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตำรวจเชียงใหม่ตามรวบหนุ่ม 30 คลั่งรัก หลังควงคัตเตอร์บุกถึงหน้าวิทยาลัยดังไล่แทง นศ.สาววัย 15 ได้รับบาดเจ็บแล้วหลบหนี แค้นเคยคบหาแต่พ่อแม่ฝ่ายหญิงกีดกันเพราะห่วงลูกยังอายุน้อย
วันนี้ (9 ก.ค. 63) พันตำรวจเอก ภูวนาถ ดวงดี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า วานนี้ (8 ก.ค. 63) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ นำโดย พ.ต.ท.มนัสชัย อินทร์เถื่อน รอง ผกก.สส.ฯ, พ.ต.ท.ตรีเพชร ป่าหวาย สว.สส.ฯ, พ.ต.ต.ชุวาพล ชัยสาร สว.สส.ฯ, ร.ต.อ.ไกรสร คำสอน รอง สว.สส.ฯ, ด.ต.เกียรติศักดิ์ หลักดี, ด.ต.สมทรัพย์ ดวงคำ, ด.ต.ภมรพล คำภีระปัญญา, ด.ต.พยุง ยศสมบัติ, ด.ต.ธฤต ดาวประกายเพชร, จ.ส.ต.จีรวัฒน์ แดงขา, ส.ต.ท.เทพฤทธิ์ ศิริบุญยืน และ ส.ต.ท.เบญจพงษ์ วงศ์เดช ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายปิติพงศ์ ชัยชนะ หรือดรีม อายุ 30 ปี อยู่บ้านหมู่ 4 ต.มะขามหลวง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ได้ที่บ้านพักในอำเภอสันป่าตอง พร้อมนำตัวไปตรวจยึดของกลางมีดคัตเตอร์ด้ามสีชมพู ความยาวประมาณ 15 ซม. จำนวน 1 เล่ม ได้ในห้องพัก ม.6 ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ แจ้งข้อกล่าวหาว่ามีความผิดฐาน "พยายามฆ่าผู้อื่น"
ทั้งนี้ การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อเวลา 07.15 น. วานนี้ ที่บริเวณหน้าวิทยาลัยนาฏศิลป ในตัวเมืองเชียงใหม่ ระหว่างที่นางสาวทวย (นามสมมติ) อายุ 15 ปี สัญชาติพม่า พักอยู่ หมู่ 4 ต.ป่าบง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ นักศึกษาของวิทยาลัย กำลังจะเดินเข้าวิทยาลัย ปรากฏว่านายดรีมซึ่งเป็นอดีตแฟนเก่าได้มาดักรออยู่บริเวณหน้าทางเข้าวิทยาลัย ซึ่งทันทีที่เห็นตน นายดรีมได้วิ่งตรงเข้ามาหาและใช้มือบีบคอพร้อมผลักตนติดกับกำแพง จากนั้นได้นำมีดคัตเตอร์ที่เตรียมไว้ออกมาและกำลังจะแทงเข้าที่บริเวณท้องแต่ตนใช้มือปัดไว้ได้ทันทำให้มีดบาดที่บริเวณมือ จากนั้นนายดรีมได้พยายามใช้มีดคัตเตอร์ปาดที่บริเวณคอและพูดว่า "กูจะเอามึงให้ตาย" แต่ตนหลบได้ทันแล้ววิ่งหนีเข้าไปภายในวิทยาลัยพร้อมกับมีคนมาช่วยไว้ได้
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ได้ติดตามจับกุมตัวนายดรีมในช่วงบ่ายวันเดียวกันที่บ้านพัก พร้อมของกลางดังกล่าว ซึ่งจากการสอบถามในดรีมให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง เนื่องจากโกรธแค้นที่อดีตแฟนสาวเลิกคบหาจากการที่พ่อแม่ของฝ่ายหญิงกีดกัน เพราะลูกสาวอายุยังน้อยและเป็นนักศึกษาอยู่ จึงอยากให้ใส่ใจการเรียนมากกว่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
