แม่ฮ่องสอน – เกิดเหตุระทึกยิงกันในโรงเรียนร่มเกล้าฯ แม่ฮ่องสอน.. ครูเตือนจิตอาสาตั้งเครื่องสูบน้ำล้างบ่อปลากลางดึกเสียงดังรบกวนคนอื่น แต่เรื่องลามถึงขั้นวางมวย-ยิงกันสนั่น ร.ร.เจ็บ 2
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หมอกจ่ำแป่ ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ได้รับแจ้งเหตุทางโทรศัพท์จากนายวิจิตร สุขเจริญเกษม ครูโรงเรียนร่มเกล้าปางตองตามโครงการพระราชดำริ เมื่อ 22.58 น.คืนที่ผ่านมา (4 มี.ค.) ว่ามีคนแปลกหน้าพกอาวุธเข้าในโรงเรียน และต่อมาได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ขอให้มาตรวจสอบด่วนและช่วยสกัดรถเก๋งสีดำ หมายเลขทะเบียน 4796 เชียงใหม่ ซึ่งคนร้ายได้ขับหลบหนีลงไปทางตัวเมืองแม่ฮ่องสอนด้วย
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.หมอกจ่ำแป่ ได้สกัดจับรถเก๋งตามที่ได้รับแจ้ง พร้อมตรวจค้นภายในรถพบอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน ทราบชื่อภายหลังคือ นายอิทธิพล มูลฟอง อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 หมู่ 12 ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ถูกยิงที่บริเวณขา จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลศรีสังวาลอย่างเร่งด่วน พร้อมได้ควบคุมตัวมือปืนซึ่งเป็นลูกของนายอิทธิพลไว้เพื่อดำเนินคดี
หลังจากนั้นยังพบรถของกู้ภัย องค์การบริหารส่วนตำบลปางหมู ได้นำผู้บาดเจ็บจากการถูกยิงในเหตุการณ์เดียวกันเข้ารับการรักษาอีก 1 คน ทราบชื่อภายหลังคือนายบุญชู ตาหมู่ โดยพบถูกยิงขาขวาทะลุ และศีรษะแตกเลือดไหลโชกทั้งตัวเนื่องจากถูกตีด้วยด้ามปืน แพทย์ต้องทำการช่วยเหลือเป็นการด่วนเนื่องจากมีเลือดออกมาก
จากการสอบถามครูของโรงเรียนร่มเกล้าปางตองฯ และอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ เล่าว่าก่อนเกิดเหตุเราอยู่ด้วยกัน 3-4 คน และไม่ได้นั่งกินเหล้าตามที่เป็นข่าว แต่กำลังนั่งดูการสูบน้ำออกจากบ่อปลาเพื่อทำความสะอาด และจะย้ายปลา โดยมีนายอิทธิพล มูลฟอง ที่เป็นจิตอาสาและพักอยู่ในโรงเรียนเดินเครื่องสูบน้ำ ต่อมาครูบุญชูได้เดินมาบอกว่าพอแล้วมันดึก เสียงเครื่องสูบน้ำรบกวนคนอื่นเขา แต่ก็ไม่ทราบด้วยเหตุใดกลับเกิดการชกต่อยกันขึ้นกับนายอิทธิพล
และต่อมาก็ได้มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด พวกตนก็นึกว่าเด็กจุดประทัดเนื่องจากต้นเสียงอยู่ห่างจากบ่อปลา จึงพากันเดินไปดูกระทั่งพบว่าครูบุญชูถูกยิงจึงรีบช่วยกันปฐมพยาบาลในเบื้องต้นและโทรศัพท์แจ้งตำรวจภูธรหมอกจ่ำแป่ช่วยสกัดจับรถของคนร้ายโดยด่วนเพราะเกรงว่าจะหลบหนี พร้อมได้ประสานไปยัง อบต.หมอกจ่ำแป่ เพื่อขอรถกู้ชีพนำครูบุญชู ผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้งหนึ่ง
