ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตำรวจภาค 3 แกะตามรอยโจรในโลกโซเชียลฯ รวบยกแก๊งเครือข่ายค้ายาบ้า-ไอซ์ทางออนไลน์ ส่งยาให้ลูกค้าตามคำสั่งผู้ว่าจ้างทางพัสดุทั่วประเทศ พร้อมยึดของกลางทั้งยาบ้า สารไอซ์ รถยนต์ และบัญชีธนาคารเงินหมุนเวียน 3 แสน
วันนี้ (22 ต.ค.) ที่หน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดซื้อขายทางสื่อสังคมออนไลน์ ได้ผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมของกลาง ยาบ้า สารไอซ์ รถยนต์ และอายัดเงินในบัญชีธนาคารมีเงินหมุนเวียน 305,000 บาท
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 (บก.สส.ภ.3) ร่วมกับ ศูนย์อำนวยการป้องกันปราบปรามยาเสพติด ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ศอ.ปส.ชอน.) จับกุม นายจักรกฤษ ไพคำนาม อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาคดีเกี่ยวกับยาเสพติด จากนั้นทำการสืบสวนขยายผลล่อซื้อยาเสพติดจากนักค้ายาเสพติด ต่อมาวันที่ 24 ก.ย. 2562 ได้ทำการตรวจยึดกล่องพัสดุภายในบรรจุยาบ้า จำนวน 2 ถุง (403 เม็ด), สารไอซ์ น้ำหนักประมาณ 5 กรัม ตามที่ได้ทำการล่อซื้อ และรวบรวมพยานหลักฐานส่งพนักงานสอบสวน สภ.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ขออำนาจศาลออกหมายจับผู้นำยาบ้ามาส่งทางบริษัทรับส่งพัสดุ
ต่อมาวันที่ 16 ต.ค. 2562 ได้ทำการจับกุม นายอภิสิทธิ์ ศรีเพ็ชร อายุ 25 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนครราชสีมา นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.จอหอ และจับกุม น.ส.ชนิตา ทองเกิด อายุ 24 ปี ขณะเดินทางมาด้วยกัน พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 6,000 เม็ด, สารไอซ์ น้ำหนักประมาณ 55 กรัม, รถยนต์จำนวน 1 คัน นำตัวส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. (เหตุเกิดพื้นที่ สน.ลาดพร้าว) และทำการสืบสวนขยายผลทำการอายัดเงินจากบัญชีธนาคารใช้รับโอนเงินค้ายาเสพติด จำนวน 305,000 บาท
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รับจ้างส่งยาเสพติดจากนักค้ายาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แล้วจัดส่งยาเสพติดในรูปแบบการบรรจุใส่กล่องพัสดุส่งให้ลูกค้าในประเทศไทยตามคำสั่งของผู้ว่าจ้าง เงินที่ได้นำไปซื้อรถยนต์และใช้จ่ายส่วนตัว
สำหรับการปฏิบัติการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดในครั้งนี้เป็นการปราบปรามยาเสพติดตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจภูธรภาค 3 ที่ให้ความสำคัญในการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดและกฎหมายฟอกเงิน มาดำเนินคดีต่อนักค้ายาเสพติดและผู้เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดทุกระดับ และขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่คิดหวังจะร่ำรวยจากการค้ายาเสพติด หรือมีส่วนช่วยเหลือ สนับสนุนขบวนการค้ายาเสพติด เช่น เปิดบัญชีธนาคารให้นักค้ายาเสพติดใช้รับโอนเงิน ครอบครองทรัพย์สินหรือได้รับผลประโยชน์จากทรัพย์สินของขบวนการค้ายาเสพติด อาจถูกดำเนินคดีฟอกเงินและถูกตรวจยึดทรัพย์สินตามกฎหมาย
