นครสวรรค์ - ครอบครัวชาววัดไทรเมืองปากน้ำโพ 4 ชีวิตสุดระทึก..นอนหลับบนบ้านกันอยู่ดีๆ รถพุ่งชนบ้านพังพินาศแล้วหนี ทิ้งแต่คอกโครงหลังคาให้ดูต่างหน้า เร่งควานหาวงจรปิดล่า พบเป็นกระบะนิสสันสีเขียวเข้ม คาดคนขับเมาหนัก
ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Benz Kanjana” ได้นำรูปภาพและข้อความมาโพสต์ไว้ในเฟซบุ๊กกลุ่มแจ้งข่าวสาธารณะของ จ.นครสวรรค์ ระบุเหตุการณ์บ้านพักถูกรถยนต์ชนจนได้รับความเสียหาย เมื่อเวลา 02.50 น. วันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา สร้างความเสียหายให้แก่บ้านอย่างหนัก เพิงหลังคาหน้าบ้านถูกชนจนเสาค้ำยันหัก 3 ต้น หลังคาโค่นลงมากองอยู่กับพื้น และวาล์วน้ำประปาถูกเหยียบทับจนท่อหัก ซึ่งเหตุการณ์นี้รถคันที่ก่อเหตุได้หลบหนีไป พร้อมกับทิ้งหลักฐานเป็นคอกโครงหลังคากระบะตกอยู่กลางถนนไว้ให้เจ้าของบ้านได้ดูเป็นผลงาน
ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อสอบถามไปยังผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Benz Kanjana” ได้รับการเปิดเผยว่ารูปที่นำไปโพสต์ไว้ เป็นบ้านของตนเลขที่ 40 หมู่ 12 ตั้งอยู่ริมถนนสายโกสีย์ ฝั่งตรงข้ามกับวัดไทรเหนือ พื้นที่ ต.วัดไทร อ.เมืองนครสวรรค์ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบนายสำรวย จอเล็ก อายุ 72 ปี เจ้าของบ้านได้ให้ช่างก่อสร้างมารื้อถอนเพิงโครงสร้างหลังคาที่ถูกชนได้รับความเสียหายออกไปจากตัวบ้าน 2 ขั้น เพราะช่างไม่สามารถซ่อมแซมได้เนื่องจากเสาไม้ค้ำยันถูกชนจนหักถึง 3 ท่อน ต้องรื้อถอนแล้วสร้างใหม่เท่านั้น โดยตีราคาค่ารื้อถอนและสร้างใหม่อยู่ที่ประมาณ 50,000 บาท ส่วนวาล์วน้ำประปาที่ถูกเหยียบทับจนท่อหัก ได้เรียกช่างมาทำการซ่อมแซมจนเสร็จแล้ว
นายสำรวย จอเล็ก เจ้าของบ้านที่เสียหายเล่าว่า ขณะที่ตนและภรรยา รวมถึงบุตรสาวและลูกเขยกำลังนอนหลับพักผ่อนกันอยู่บนชั้นสองของบ้านก็ต้องสะดุ้งตื่นตกใจกันทั้งหมดเนื่องจากมีเสียงการชนดังสนั่นก่อนจะได้ยินเสียงของใหญ่หักโค่นลงตามมาแบบสนั่นหวั่นไหว ตนและลูกสาวจึงรีบออกไปเปิดประตูบ้านดู
พบว่าเพิงหลังคาหน้าบ้านโค่นลงมาปิดประตูทางออก พร้อมกับได้ยินเสียงว่ามีรถแล่นออกไปอย่างรวดเร็ว มองตามไม่ทัน แต่ก็พบหลักฐานเป็นคอกหลังคาเหล็กที่เอาไว้ใช้ติดกับท้ายรถกระบะร่วงหล่นอยู่บนถนนหน้าบ้านตนในสภาพหงายท้องถูกทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า จึงคาดว่ารถที่มาชนบ้านตนน่าจะเป็นรถกระบะที่ติดคอกหลังคาเอาไว้เพื่อเร่ขายของตามที่ต่างๆ และคนขับน่าจะมีอาการเมา หรือไม่ก็หลับใน จึงขับรถมาชนบ้านตนแล้วหลบหนีไป
ซึ่งบุตรสาวของตนได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองนครสวรรค์แล้ว เพื่อให้ติดตามเจ้าของรถคู่กรณีให้มาชดใช้ค่าเสียหายโดยด่วน อีกทั้งยังได้มีการนำภาพและข้อความไปโพสต์ไว้ในเฟซบุ๊กกลุ่มแจ้งข่าวของ จ.นครสวรรค์ เพื่อให้กลุ่มชาวโซเชียลช่วยแจ้งเบาะแสอีกทางหนึ่งด้วย
ต่อมา นางกาญจนา สุทธะสุริยะ อายุ 37 ปี บุตรสาวของนายสำรวย ได้นำหลักฐานใบแจ้งความต่อตำรวจเดินทางไปที่สำนักงานเทศบาลนครนครสวรรค์ เพื่อขอภาพกล้องวงจรปิดของทางเทศบาลที่ได้ติดตั้งไว้ในบริเวณที่เกิดเหตุ พบว่ากล้องไม่สามารถบันทึกภาพขณะที่บ้านถูกรถชนไว้ได้เนื่องจากกล้องที่ติดตั้งอยู่ไกลจากบ้านของนายสำรวย จึงเห็นแค่เพียงภาพรถกระบะยี่ห้อนิสสัน สีเขียวเข้ม ติดคอกโครงหลังคาเหล็ก ขับขี่ผ่านกล้องไปก่อนจะพุ่งหายออกไปข้างทาง ซึ่งเป็นจุดเดียวกับบ้านของนายสำรวย
ส่วนกล้องจุดอื่นเป็นภาพที่รถกระบะคันเดิม แต่ไม่พบว่ามีคอกหลังคาเหล็กติดอยู่แล้ว ขับหลบหนีไปตามถนนสายโกสีย์อย่างรวดเร็ว แล้วเลี้ยวขวาที่บริเวณสี่แยกป้อมหนึ่งหายไป ซึ่งเส้นทางนี้สามารถขับรถมุ่งหน้าไปได้อีกหลายเส้นทาง
นางกาญจนาได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า แม้กล้องวงจรปิดของทางเทศบาลจะอยู่ไกลและจับภาพป้ายทะเบียนรถคันที่ก่อเหตุไม่ชัด แต่ก็รู้สึกมีความหวังในการได้หลักฐานนี้ไปมอบให้แก่ตำรวจเพื่อให้ติดตามคนขับรถผู้ก่อเหตุต่อไป และหลังจากนี้ตนจะไปขอดูภาพกล้องวงจรปิดตามบ้านในละแวกใกล้เคียงเพื่อนำมาเป็นหลักฐานเพิ่มเติมด้วย
