xs
xsm
sm
md
lg

วันเดียวทะลุ 2 ล้าน! แห่บริจาคช่วย นศ.ศรีสะเกษเหยื่อกระบะมรณะ 13 ศพ ยันได้เงินช่วยไม่ต่ำกว่า 5 แสน/ราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ศรีสะเกษ - แห่บริจาคช่วย 13 ศพนักศึกษาเทคนิคศรีสะเกษเหยื่อกระบะมรณะวันเดียวทะลุ 2 ล้านแล้ว รอง ผอ.วิทยาลัยชี้ผู้ไม่เห็นด้วยเป็นความเห็นต่างพร้อมรับฟัง ยัน นศ.เสียชีวิตจะได้เงินช่วยเหลือไม่ต่ำกว่ารายละ 5 แสน ขณะรองเลขาฯ อาชีวศึกษายังตระเวนเยี่ยมปลอบขวัญพ่อแม่ญาติผู้เสียชีวิตทุกคน พร้อมมอบเงินช่วยเบื้องต้น

วันนี้ (1 ต.ค.) ความคืบหน้ากรณีนักศึกษาของวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ แผนกวิชาช่างยนต์ จำนวน 13 คน ได้ประสบอุบัติเหตุรถยนต์กระบะเสียหลักชนเสาไฟฟ้าพลิกคว่ำ เสียชีวิตที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อกลางดึกของวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา และได้มีการนำศพทั้งหมดกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.ศรีสะเกษ ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของพ่อแม่ญาติพี่น้อง และ นายประชาคม จันทรชิต รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ร่วมกับ นายอักษรศิลป์ แก้วมหาวงศ์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ และคณะอาจารย์ ได้เปิดบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขา ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ ชื่อบัญชี เพื่อนักศึกษาผู้ประสบอุบัติเหตุวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ บัญชีเลขที่ 678-6-17357-8 เพื่อขอรับบริจาคเงินจากทั่วประเทศเพื่อเป็นการให้การช่วยเหลือผู้ที่เสียชีวิตในครั้งนี้ ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น


ล่าสุด ที่สำนักอำนวยการ วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายสำราญ สีปวน รองผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ ได้นำเอาสมุดบัญชีธนาคารที่เปิดรับบริจาคเงินจากทั่วประเทศเพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือนักศึกษาที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในครั้งนี้มาให้สื่อมวลชนทุกแขนงได้ตรวจสอบ พบว่าจากการที่ได้เปิดบัญชีธนาคารรับบริจาคได้เพียง 1 วัน มียอดเงินบริจาคเข้ามามากถึง 2,228,663.95 ล้านบาท โดยยังคงมีการบริจาคเงินเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ นายประชาคม จันทรชิต รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ร่วมกับ นายอักษรศิลป์ แก้วมหาวงศ์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ และคณะอาจารย์ ยังคงออกตระเวนไปเยี่ยมปลอบขวัญ วางพวงหรีดไว้อาลัย และมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่พ่อแม่ญาติพี่น้องของนักศึกษาที่เสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ทุกคน โดยในวันนี้จะเดินทางไปที่ อ.ปรางค์กู่ อ.วังหิน และ อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ

นายสำราญ สีปวน รองผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการที่ขณะนี้มีการเผยแพร่ทางสื่อโซเชียลว่ามีผู้ไม่เห็นด้วยกับการเปิดบัญชีธนาคารเพื่อขอรับบริจาคเงินช่วยเหลือนักศึกษาที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตในครั้งนี้นั้น ตนเห็นว่าเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลที่อาจมีความคิดเห็นแตกต่างกันได้ ท่านผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ พร้อมด้วยตนและคณะอาจารย์ทุกคนพร้อมรับคำแนะนำ ซึ่งการที่เปิดบัญชีรับบริจาคเงินขึ้นมานั้นเป็นช่องทางหนึ่งในการเปิดโอกาสให้ประชาชนชาวไทยทั่วประเทศและองค์กรต่างๆ ได้เข้ามาให้การช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิต และถือว่าเป็นการให้ความช่วยเหลือทุกวิถีทางที่เราจะทำได้ เพื่อเป็นการเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกคนอย่างดีที่สุด ซึ่งบัญชีธนาคารที่เปิดขอรับบริจาคนี้จะมีการหารือกันว่าจะปิดบัญชีในเร็วๆ นี้ เพื่อนำเงินบริจาคทั้งหมดไปให้การช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกคนต่อไป

เบื้องต้นคาดว่าพ่อแม่ญาติของนักศึกษาที่เสียชีวิตจะได้รับเงินช่วยเหลือครอบครัวละประมาณ 500,000 บาทเศษ โดยจะได้รับเงินจากสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษารายละ 100,000 บาท เงินประกันชีวิต รายละ 100,000 บาท กองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากรถรายละประมาณ 100,000 บาท และจากเงินที่ได้รับบริจาคอีกประมาณรายละ 200,000 บาทเศษ

ในส่วนของเงินที่ได้รับบริจาคนั้น อาจจะมีการแบ่งเป็นให้นักศึกษาปัจจุบัน 70% และศิษย์เก่าที่เสียชีวิต 30% และยังมีการช่วยเหลือจากบริษัทต่างๆ ที่แสดงความจำนงจะให้การช่วยเหลือนักศึกษาที่เสียชีวิตเข้ามาด้วย โดยเงินบริจาคทั้งหมดจะนำไปมอบแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตในวันที่ประกอบพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 3 ต.ค. ซึ่งจะมีการจัดคณะอาจารย์แบ่งสายกันนำเอาเงินไปมอบให้และเพื่อช่วยดูแลในงานศพทุกศพด้วย
นายสำราญ   สีปวน  รองผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ
นายสำราญกล่าวต่อว่า การเปิดบัญชีธนาคารขอรับบริจาคเงินนี้มีคณะกรรมการที่ได้รับมอบหมายจาก นายอักษรศิลป์ แก้วมหาวงศ์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ จำนวน 3 คนดูแล ประกอบด้วย นายสำราญ สีปวน รอง ผอ.วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ นางพัชรินทร์พันธ์ เอมรัตน์ หัวหน้างานการเงิน และนายกัมปนาท พระสุพรรณ หัวหน้างานกิจกรรมนักศึกษา โดยการเบิกถอนเงินนั้นจะต้องลงนามเบิกถอน 2 ใน 3 คน และจะต้องได้รับการอนุมัติจากผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษเท่านั้นจึงจะเบิกถอนเงินได้

สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 13 รายนั้นเป็นนักศึกษาของวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ จำนวน 10 ราย เป็นศิษย์เก่า 2 รายที่ไปทำงานอยู่อู่ซ่อมรถ ซึ่งนักศึกษาที่เสียชีวิตไปฝึกงาน รวม 12 ราย และเป็นช่างของอู่ จำนวน 1 คน บ้านเกิดอยู่ที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์

นอกจากนี้ กรณีนายสุประชัย วรรณทวี อายุ 20 ปี นักศึกษาที่เสียชีวิตนั้น เป็นเด็กเรียนดี ความประพฤติดี และเป็นนายกองค์การวิชาชีพในอนาคตแห่งประเทศไทย (อวท.) หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า ประธานนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ โดยนายสุประชัย หรือน้องรามอส ได้รับเลือกตั้งจากเพื่อนนักศึกษาด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น และได้เรียนแผนกวิชาช่างยนต์ สาขาวิชาเคาะและพ่นสีตัวถังรถยนต์ ซึ่งเป็นสาขาวิชาที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานเป็นอย่างมาก

ทางด้าน นายสุชาดา วรรณทวี อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ 1 บ้านหนองหว้า ต.หนองแก้ว อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นแม่ของนายสุประชัย วรรณทวี อายุ 20 ปี หรือน้องรามอส ที่เสียชีวิต กล่าวว่า ขณะนี้ตนยังทำใจไม่ได้ต่อการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของน้องรามอส คิดถึงน้องรามอสซึ่งเป็นลูกเพียงคนเดียวของครอบครัวตลอดเวลา ตนอยากขอให้กรณีของน้องรามอสเป็นกรณีสุดท้ายในการเกิดอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับ และขับรถด้วยความเร็วสูง เนื่องจากว่าเป็นการทำให้ชีวิตของคนที่เป็นอนาคตของชาติและเป็นที่รักของครอบครัวต้องสูญเสียไปอย่างไม่น่าจะเกิดขึ้น ตนขอฝากไปยังทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องว่าขอให้กวดขันในเรื่องเมาแล้วขับ และการขับรถด้วยความเร็วสูงเกินกว่ากฎหมายกำหนดด้วย เพราะว่าไม่อยากให้เกิดความสูญเสียเหมือนที่ตนต้องเสียลูกชายอีกต่อไป


นางสุชาดา  วรรณทวี  แม่น้องรามอส


กำลังโหลดความคิดเห็น