แพร่ - ส.ส.แพร่ พรรคอนาคตใหม่ ลงพื้นที่พิสูจน์ให้เห็นกับตา หลังคนสูงเม่นเรียกถนนติดคลองส่งน้ำยมฝั่งตะวันออกติดกับ อบต.ดอนมูล เป็น “ถนนเจ็ดชั่วโคตร” ผลักดันมา 15 ปีจนถึงวันนี้ยังไม่ได้สร้าง แถมบางจุดไม่มีไฟฟ้าใช้-ประปาใช้ไม่ได้กว่า 5 หมู่บ้าน
วันนี้ (17 ก.ย.) นายกฤติเดช สันติวชิระกุล ส.ส.จังหวัดแพร่ พรรคอนาคตใหม่ ได้ลงพื้นที่บ้านหมู่ 7 ต.ดอนมูล อ.สูงเม่น จ.แพร่ ที่มีข่าวไม่ได้รับการพัฒนาถนนในชุมชน ทั้งที่ชาวบ้านใน 4 ตำบล ต้องใช้สัญจรไปมาและลำเลียงผลผลิตทางการเกษตรออกสู่ตลาด โดยนายอนุพันธ์ ชัยวิรัตน์, นายวัฒน์ สมบัติ, นายชัยณรงค์ ชัยวิรัตน์ และชาวบ้านผู้ใช้เส้นทางที่ทราบข่าวว่า ส.ส.เข้ามาดูพื้นที่จำนวน 30 คน ร่วมให้ข้อมูล
เบื้องต้นพบว่าเส้นทางสายนี้ มีระยะทาง 2,600 เมตรเท่านั้น เริ่มต้นที่คลองส่งน้ำแม่ยมฝั่งตะวันออก ติดกับ อบต.ดอนมูล ซึ่งมีความสำคัญมากสำหรับประชาชน อีกทั้งยังเป็นเส้นทางเข้าสู่กลุ่มเกษตรกรต้นแบบเกษตรอินทรีย์ที่ถูกพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม มีโรงงานเฟอร์นิเจอร์ต้นแบบอยู่ในบริเวณดังกล่าว และยังเป็นเส้นทางเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ คือ “ถ้ำเสือ”
ที่ผ่านมาชาวบ้านได้เรียกร้องให้ทางราชการเข้ามาพัฒนาถนนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 และกรมทางหลวงชนบท ได้ออกแบบเสร็จเรียบร้อยในปี พ.ศ. 2543 แต่เรื่องไเงียบหายไป แม้ว่าชาวบ้านจะกระตุ้นให้ทางราชการเร่งดำเนินการต่อ แต่ก็ไม่คืบหน้าจนชาวบ้านให้สมญานามว่า “ถนนเจ็ดชั่วโคตร”
นายกฤติเดชกล่าวว่า การเข้ามาดูเพราะไม่เชื่อว่าชุมชนแห่งนี้จะไม่ได้รับการพัฒนา จนพบว่าชุมชนอยู่ใกล้กับความเจริญแต่ถนนสายนี้ยังเป็นถนนดิน แคบจนรถสวนกันยากมาก เด็กๆ เดินทางไปโรงเรียนลำบาก โดยเฉพาะช่วงฝนตกหนักๆ จะเดินทางผ่านกันแทบไม่ได้เลย อีกทั้งชาวบ้านที่อาศัยอยู่ก็ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ และมีชุมชนใน ต.ดอนมูล กว่า 5 หมู่บ้านมีปัญหาน้ำประปาหมู่บ้านใช้ไม่ได้
“ถ้าจะว่าไปแล้วชาวบ้านเรียกร้องมาตลอดทั้งถนน น้ำประปา ไฟฟ้า แต่ไม่ได้รับการแก้ไข หรือให้บริการจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ ถือว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องละเมิดรัฐธรรมนูญมาตรา 51 การใดที่รัฐธรรมนูญบัญญัติให้เป็นหน้าที่ของรัฐตามหมวดนี้ ถ้าการนั้นเป็นการทำเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนโดยตรง ย่อมเป็นสิทธิของประชาชนและชุมชนที่จะติดตามและเร่งรัดให้รัฐดำเนินการ รวมทั้งฟ้องร้องหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดให้ประชาชนหรือชุมชนได้รับประโยชน์นั้นตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายบัญญัติ”
นายกฤติเดชกล่าวด้วยว่า จะนำเรื่องเข้าติดตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน คือเส้นทางที่ไม่ได้รับการปรับปรุงพัฒนาจะไปดูที่ทางหลวงชนบท เรื่องน้ำประปาในหมู่บ้านหลายแห่งพบว่ามีการก่อสร้างระบบส่งน้ำแต่ใช้การไม่ได้ เรื่องนี้จะไปติดตามที่กรมน้ำบาดาล เพราะประชาชนได้ทำประชามติขอไปนานแล้วแต่ก็ไม่คืบหน้า ส่วนเรื่องไฟฟ้านั้นไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ประชาชนจำนวนมากต้องใช้ไฟฟ้าเพื่อการเกษตร แต่กลับไม่มีการดำเนินการให้ชาวบ้าน
“เรื่องราวอย่างนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นในจังหวัดแพร่แล้ว จึงเป็นคำถามว่าทำไมการพัฒนายังเข้าไม่ถึงประชาชน ทั้งๆ ที่มีหน่วยงานรัฐอยู่ในพื้นที่อย่างทั่วถึงแล้ว”