กาฬสินธุ์ - เขื่อนลำปาวยังปิดประตูระบายน้ำทั้ง 4 บานเพื่อกักเก็บและหน่วงน้ำช่วยพื้นที่น้ำท่วมตอนล่าง ขณะที่น้ำท่วมนาข้าวใน 5 อำเภอกว่า 6 หมื่นไร่เริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำลดลงเรื่อยๆ ด้านน้ำกักเก็บในเขื่อนมีมากถึง 74% บริหารจัดการน้ำดื่มน้ำใช้ถึงปี 63
วันนี้ (12 ก.ย.) จากการติดตามสถานการณ์น้ำในแหล่งเก็บน้ำต่างๆ ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยเฉพาะเขื่อนลำปาว อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่พบว่ายังคงมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำอย่างต่อเนื่อง หลังจากก่อนหน้านี้มีพายุมีฝนตกในพื้นที่ ทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น แต่ยังคงปิดประตูระบายน้ำเพื่อช่วยลดผลกระทบพื้นที่น้ำท่วมตอนล่าง
นายพงศ์ศักดิ์ ณ ศร ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว หรือเขื่อนลำ กล่าวถึงสถานการณ์ฝนที่ตกลงมาก่อนหน้านี้ในช่วงที่มีพายุโพดุลและพายุคาจิกิ ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเดือนสิงหาคม 2562 มีน้ำไหลเข้าอ่างมากกว่า 1,000 ล้าน ลบ.ม. ส่งผลให้ปัจจุบันเขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 1,470 ล้าน ลบ.ม. จากความจุกักเก็บ 1,980 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 74 เปอร์เซ็นต์
“ตั้งแต่มีพายุเข้าจนถึงปัจจุบันทางเขื่อนได้ปิดประตูทั้ง 4 บานและยังไม่ได้ระบายน้ำ เนื่องจากพื้นที่ตอนท้ายมีน้ำมาก และต้องการที่จะเก็บกักน้ำให้มากที่สุด เพื่อที่จะให้มีน้ำใช้ได้ในทุกกิจกรรม ทั้งอุปโภค บริโภค ทำการเกษตรและประมง” นายพงศ์ศักดิ์กล่าว และว่า
ตามนโยบายการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำชีและลุ่มน้ำมูลของกรมชลประทานในห้วงนี้ อ่างเก็บน้ำต่างๆ จะต้องชะลอหรือหน่วงน้ำเอาไว้เพื่อไม่ให้ไหลไปสมทบกับพื้นที่ท้ายน้ำ โดยเฉพาะพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด ยโสธร และอุบลราชธานี ซึ่งเขื่อนลำปาวเองก็ทำหน้าที่ได้ในการกักเก็บและหน่วงน้ำป้องกันปัญหาน้ำท่วมในช่วงนี้ได้ดี
เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่เขื่อนลำปาวกักเก็บน้ำได้ทั้งหมดแล้วกว่า 800 ล้าน ลบ.ม. นอกจากไม่ก่อให้เกิดปัญหาน้ำท่วมได้ระดับหนึ่งในพื้นที่ตอนเหนือเขื่อนแล้ว ยังสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ในปี 2563 โดยเฉพาะการทำนาปรังได้อย่างเพียงพอ อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้แม้ไม่มีพายุฝน เขื่อนลำปาวมีน้ำไหลเข้าเฉลี่ย 20-30 ล้าน ลบ.ม. และยังสามารถกักเก็บน้ำได้อีกกว่า 500 ล้าน ลบ.ม.
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่การเกษตรใน 5 อำเภอ ทั้ง อ.เมือง อ.ยางตลาด อ.กมลาไสย อ.ฆ้องชัย และ อ.ร่องคำ ขณะนี้ได้เริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำลดลงเรื่อยๆ เนื่องจากไม่มีฝนตกลงมาซ้ำในพื้นที่ และทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ใช้เครื่องผลักดันน้ำจากแม่น้ำลำปาวลงสู่แม่น้ำชีอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยระบายและทำให้น้ำไหลเร็วขึ้น ซึ่งทำให้พื้นที่นาข้าวที่ก่อนหน้านี้ถูกน้ำท่วมกว่า 60,000 ไร่ ลดลงเหลืออยู่ประมาณ 30,000 ไร่ คาดว่าจะกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติในเร็วๆ นี้
สำหรับพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกติดต่อกัน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 18 อำเภอ 93 ตำบล 576 หมู่บ้าน 24 ชุมชน 10,230 ครัวเรือน 31,145 คน บ้านเรือนที่อยู่อาศัยได้รับผลกระทบถูกน้ำท่วม 1,604 หลังคาเรือน ด้านการเกษตร นาข้าว 126,504 ไร่ พืชไร่ 1,713 ไร่ พืชสวน 99 ไร่ ด้านประมง บ่อปลา 950 ไร่ บ่อกุ้ง 1,072 ไร่ ด้านปศุสัตว์ โค 1,059 ตัว กระบือ 447 ตัว และไก่ 1,080 ตัว
