xs
xsm
sm
md
lg

โจรใจอ่อน! หนุ่มทำเนียนเข้าซื้อทองฉกใส่กระเป๋าวิ่งหนี ผจก.ไล่ตามทัน กล่อมยอมคืน-แจ้ง ตร.ล่าตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บุรีรัมย์ - หนุ่มทำเนียนเข้าไปซื้อทองในร้านกลางเมืองบุรีรัมย์ ทำทีขอลองสร้อยคอ เจ้าของร้านนำมาวางเรียงให้ลอง 6 เส้น ก่อนฉกสร้อยหนัก 2 บาทใส่กระเป๋ากางเกง วงจรปิดจับภาพได้ชัด เจ้าของร้านขอดูกระเป๋าคนร้ายวิ่งหนี ผจก.ไล่ตามทันพูดเกลี้ยกล่อมจนคนร้ายยอมคืนทองให้แล้วเผ่นต่อ ก่อนแจ้ง ตร.ล่าตัว

วันนี้ (1 ก.ย.) พ.ต.ท.ไชยา สระโสม สารวัตรเวร สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากเจ้าของร้านทองแสงสุริยา ข้างสถานีขนส่งผู้โดยสารในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ว่ามีคนร้ายวิ่งราวสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนจะรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม พ.ต.ท.ภานุวัฒน์ มากมูล รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.เมือง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและสายตรวจ


เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุได้สอบถามรายละเอียดจาก นายพิพัฒพล เดชหิรัญวรดิษฐ์ อายุ 38 ปี เจ้าของร้านทอง ได้ให้ข้อมูลว่า เมื่อเวลาประมาณ 08.40 น.ได้มีชายหนุ่มอายุประมาณ 25-30 ปี สวมเสื้อยืดคอกลมสีเทา กางเกงขายาวสีดำ สะพายกระเป๋าสีส้ม เดินเข้ามาในร้านทำทีเป็นลูกค้า แล้วขอดูสร้อยทองน้ำหนัก 2 บาท ตนจึงนำสร้อยคอออกมาวางเรียงให้ชายคนดังกล่าวเลือกจำนวน 6 เส้น ซึ่งคนร้ายทำทีลองสวมใส่ดูเหมือนกับลูกค้าทั่วไป ซึ่งขณะนั้นมีตน ผู้จัดการร้าน และพนักงานอยู่ทั้งหมด 3 คน

โดยคนร้ายได้อาศัยจังหวะที่ทำทีลองสวมสร้อยคอแล้วฉกใส่กระเป๋ากางเกง แล้วคนร้ายหันหลังจะเดินออกจากร้าน ซึ่งตอนนั้นรู้แล้วว่าทองหายไป 1 เส้นตนจึงตะโกนถามว่าขอดูในกระเป๋าหน่อย แต่คนร้ายไม่ยอมกลับพยายามจะเดินออกจากร้าน แต่ประตูอัตโนมัติปิดอยู่เขาจึงได้ใช้กำปั้นทุบประตูหลายครั้งจนประตูเปิดคนร้ายจึงออกไป จึงได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจ จากนั้นผู้จัดการร้านวิ่งไล่ตามไปไกลกว่า 500 เมตร จึงได้พูดเกลี้ยกล่อมจนคนร้ายยอมคืนสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทที่ฉกเอาไปคืนให้

แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าของร้านยืนยันว่าถึงแม้คนร้ายจะยอมคืนสร้อยทองให้ แต่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะถือว่าได้กระทำความผิดไปแล้ว และจะได้ไม่ไปก่อเหตุที่ร้านอื่นอีก

ด้าน นายสุรเดช ชัยพินิจ ผู้จัดการร้านทอง เล่าว่า หลังจากคนร้ายวิ่งออกจากร้านตนวิ่งตามไปจนทันคนร้ายอยู่บริเวณหลังร้านลายไหม ซึ่งห่างจากร้านทองที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร จากนั้นพยายามพูดเกลี้ยกล่อมคนร้าย แต่ไม่กล้าเข้าใกล้เพราะไม่รู้ว่าคนร้ายจะมีอาวุธอะไรหรือไม่ โดยได้บอกว่าหากยอมคืนทองให้จะไม่ไล่ตาม ซึ่งตอนนั้นดูลักษณะคนร้ายสองจิตสองใจแต่สุดท้ายก็ยอมยื่นทองใส่มือให้แล้วเดินไปคนละทาง หลังจากได้ทองคืนแล้วออกไปยืนดูว่าคนร้ายจะเดินไปทางไหน เพื่อจะได้แจ้งข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ว่าคนร้ายหลบหนีไปทางไหน


ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบรูปพรรณคนร้ายที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดเพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามไล่ล่าคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายฐาน “วิ่งราวทรัพย์” ซึ่งคาดว่าน่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้





กำลังโหลดความคิดเห็น