xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านอ่าวน้อยโวย ขุดทรายฝังท่อสูบน้ำทะเล เข้านากุ้ง กระทบสิ่งแวดล้อม

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ประจวบคีรีขันธ์ - ชาวบ้านอ่าวน้อยโวย ขุดทรายฝังท่อสูบน้ำทะเล เข้านากุ้ง กระทบสิ่งแวดล้อม เข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงค์ธรรม นายทุนใช้รถแบ็คโฮขุดทรายบริเวณชายหาดเป็นร่องลึกเพื่อฝังท่อน้ำขนาดใหญ่


วันนี้ (30 ส.ค.) นางยุวดี สมพงษ์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 หมู่ 2 บ้านอ่าวน้อย ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ชาวบ้านที่มีบ้านพักติดชายหาดหน้าทะเลอ่าวน้อย ร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กรณีนายทุนใช้รถแบ็คโฮขุดทรายบริเวณชายหาดเป็นร่องลึกเพื่อผังท่อน้ำขนาดใหญ่ เพื่อสูบน้ำสำหรับเลี้ยงกุ้ง หวั่นกระทบสิ่งแวดล้อมจากการขุดชายหาดที่เดิมเป็นพื้นทรายขาวสะอาด กลับมีดินโคลนที่อยู่ระดับลึกมากกว่า 1 เมตร และการวางท่อในทะเลอาจกระทบต่อวงจรชีวิตสัตว์น้ำ


“มีการใช้รถแบ็คโฮขุดชายหาด ผังท่อขนาดใหญ่ จากชายหาดที่ขาวเกิดเป็นขี้เลน เป็นการตะกุยขี้เลนจากพื้นดินล่างขึ้นมาอยู่ข้างบน ไม่รู้ว่าผลกระทบในอนาคตจะเป็นเช่นไร เนื่องจากทะเลอ่าวน้อยเป็นทะเลน้ำตื้น แต่ผู้รับเหมาอ้างว่า ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้ว ได้แต่มองดูเพียงอย่างเดียวแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ และมีการต่อท่อเข้าพักบ่อน้ำขนาดใหญ่ ที่นายทุนได้เช่าที่ของชาวบ้าน สำหรับพักน้ำทะเลก่อนต่อท่อส่งน้ำไปยังฟาร์มเลี้ยงกุ้ง คิดว่ามีผลกระทบเพราะธรรมชาติมีพายุตามฤดูกาล ไม่มั่นใจว่าสภาพพื้นทรายจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ครั้งแรกที่เห็นเครื่องจักรก็ตกใจ เพราะใช้รถแบคโฮสองคัน และขุดลึกกว่าหนึ่งเมตร แต่ในเมื่อส่วนราชการทุกหน่วยอนุมัติ ก็ไม่สามาถทำอะไรได้”


ทางด้าน นายภาณุวัตน์ เต็งวีระกุล อายุ 38 ปี ผู้จัดการตะวันฟาร์ม หมู่ 2 ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ก่อนการขุดทรายเพื่อผังท่อ ทางผู้ประกอบการได้ทำเรื่องอนุญาตสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาประจวบคีรีขันธ์ มีคณะกรรมการระดับจังหวัด 11 หน่วยงาน เป็นผู้อนุมัติ ก่อนดำเนินการขุด เมื่อมีผู้ร้องเรียน ทางเจ้าหน้าที่จาก สนง.เจ้าท่า และ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้มาตรวจสอบและไม่พบสิ่งผิดปกติ เพราะปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนดในใบอนุญาต โดยเป็นการผังท่อพีวีซีขนาด 8 นิ้ว จำนวน 4 ท่อ เป็นระยะทาง 120 เมตร จากชายฝั่ง เพื่อนำไปใช้ในการเลี้ยงกุ้ง


ส่วนปัญหาที่มีชาวบ้านร้องเรียน ในเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อม การขุดผังท่อพีวีซี ไม่ใช้การปล่อยน้ำเสียและไม่ได้กระทบต่อการเดินเรือ จึงคิดว่าไม่มีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ส่วนพื้นผิวชายหาดที่มีมีดินโคลนขึ้นมา ระบบน้ำทะเลที่หมุนเวียน จะทำให้พื้นทรายกลับมาอยู่สภาพเดิม แต่หากไม่ดีขึ้นก็จะนำเครื่องจักรไปปรับสภาพผิวให้เหมือนเดิม ขณะที่ชาวบ้านรายอื่นหรือผู้ประกอบการโรงแรมใกล้เคียงก็เข้าใจเหตุผล


ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาประจวบคีรีขันธ์ เพื่อพบ นายอภิสิทธ์ คำภิโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาประจวบคีรีขันธ์ แต่ติดราชการที่กรุงเทพมหานคร


สำหรับใบอนุญาตออกโดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาประจวบคีรีขันธ์ ใบอนุญาติเลขที่ 20/2561 วันที่ 22 ตุลาคม 2561 ใบอนุญาตให้ปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำแม่น้ำ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 117 แห่ง พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 แก้ไขเพิ่มเติม โดย พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2535 มาตรา 23 ออก อนุญาตให้ นายไชโย เก่งตรง ปลูกสร้างสิ่งล้วงล้ำลำแม่น้ำ ประเภท วางท่อสูบน้ำ ชนิดท่อ พีวีซี ขนาด 8 วัตถุประสงค์เพื่อใช้ดูดน้ำทะเลสำหรับใช้ในกิจการฟาร์มกุ้ง


ผลการพิจารณาเห็นชอบการขออนุญาตก่อสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ครั้งที่ 1/2562 เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2562 ที่ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ประชุมเห็นชอบ เนื่องจากไม่ขัดต่อแผนพัฒนาจังหวัด เป็นการก่อสร้างเพื่อสาธารณูปโภค ไม่เป็นอุปสรรคและขัดต่อผังเมือง และไม่ขัดต่อการรักษาสภาพแวดล้อม



กำลังโหลดความคิดเห็น