ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- เลขาธิการศูนย์แก้ปัญหาหนี้สินครูฯและแกนนำครูโคราช บุกยื่น “คุณหญิงกัลยา” รมช.ศึกษา จี้เดินหน้าแก้ปัญหาวิกฤตหนี้ครูกว่า 4.2 แสนคน พร้อมสอบเอาผิดดำเนินคดี สกสค. ร่วม ธนาคารและบริษัทประกัน ฉ้อฉลทำนาบนหลังเรือจ้าง
ช่วงบ่ายวันนี้ ( 30 ส.ค.) ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสำคัญ จงโกเย็น เลขาธิการศูนย์ประสานงานการแก้ปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาแห่งประเทศไทย (ศกอท.)พร้อมด้วยนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ผู้ประสานงานกลุ่มยุติธรรมภิวัฒน์และคณะ ได้มายื่นหนังสือการแก้ปัญหาหนี้ของครู ทั่วประเทศจำนวน 4.2 แสนคน ที่ได้กู้ยืมเงินจากธนาคารออมสิน ผ่านสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ( สกสค.) และ ช.พ.ค. ต่อ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในโอกาสเดินทางมาเปิดงานวิชาการ “Smart Farming 47 Aggie by STI" ของวิทยาลัยเกษตรกรรมและเทคโนโลยี และวิทยาลัยประมง 47 แห่ง
นายสำคัญ กล่าวว่า ได้มายื่นหนังสือให้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินการช่วยเหลือครูให้พ้นจากภาวะหนี้ที่เข้าขั้นวิกฤตกันแล้ว พร้อมนี้ได้มอบหนังสือที่เคยยื่นอดีตรัฐมนตรีว่าการกรทรวงศึกษาธิการ ได้พิจารณาดำเนินการสืบสวนสอบสวนและดำเนินคดีเอาผิด กับ สกสค. , ธนาคารออมสิน และ ทิพยประกันภัย ที่ส่อว่ามีความไม่ชอบพากลในการทำประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ แทนการประกันชีวิต ทั้งๆ ที่ มติ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อปี2551 ให้ทำประกันชีวิตไม่ใช่ประกันวินาศภัย หรือประกันอุบัติเหตุ แล้วเก็บค่าประกันภัยล่วงหน้าหักยอดเงินไปกว่า 3 หมื่นบาท - 1 แสนบาท ตามยอดเงินที่กู้ยืมไปจำนวน 6 หมื่นบาท- 3 ล้านบาท
ทำให้เกิดข้อสงสัยควรตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปยังธนาคารออมสินสาขา บางกะปิ เลขที่บัญชีค่าเบี้ยประกันวาขาบางกะปิ 790010091738 มีจำนวนเท่าใด ที่สำคัญควรตรวจสอบดูที่กรมสรรพากรว่า “รับรู้รายได้” เพื่อเสียภาษีหรือไม่ หรือรับรู้เป็นปีๆ เพื่อเสียภาษีน้อย หรือรับรู้รายได้จำนวน 9 ปีคิดรวมแล้วมากกว่า 3 หมื่นล้านบาท สังคมจะได้รับรู้ว่าไม่มีการทุจริตอย่างเด็ดขาด ตามที่นายกรัฐมนตรีพูดอยู่เสมอ
“ อีกไม่นานพวกเราจะไปขอความกรุณากับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อขอตรวจสอบบรรดากองทุนต่างๆ ใน สกสค.โดยเฉพาะเงินที่ธนาคารออมสิน โอนให้ 0.5-1.00 เปอร์เซ็นต์ เราทราบเพียงผู้ตรวจสอบราชการคนหนึ่งที่เข้าไปตรวจสอบพบว่ามีการโอนไปชำระหนี้แทนครูที่ขาดส่งเงินงวดชำระหนี้สามเดือน แต่ความจริงตามมติ ครม.ต้องให้ประโยชน์แก่ครูลูกค้าชั้นดี ผู้ตรวจคนนั้นเห็นว่าเป็นการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ในข้อตกลงระหว่าง สกสค.กับ ธนาคารออมสิน” นายสำคัญกล่าวในที่สุด และมอบหนังสือที่เคยยื่นให้เลขาธิการ สกสค. กับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ทางด้าน นายสุวัช ศรีสด ประธานชมรมครูชีวิตใหม่แห่งชาติ ซึ่งเคลื่อนไหวเรื่องครูจะถูกฟ้องจำนวนกว่า 1,700 คน กล่าวว่า ครูมีหนี้สินในขั้นวิกฤต ลงทะเบียนกับ สกสค. ถึง 12,000 คน กำลังจะถูกฟ้องและนำไปสู่การล้มละลาย ผมเคยไปเสนอแนวทางต่อรัฐมนตรีว่าการศึกษาธิการมาแล้ว 3 คน เขาบอกว่าทำไม่ได้ผิดระเบียบ ซึ่งท่านกำลังผลักครูไปสู่ความตาย ชีวิตครูตอนนี้น่าสงสารมากบางคนไปขอข้าวพระกิน ครูไม่มีที่ซุกหัวนอน ครูวิกฤต ต้องหาเงินซื้อข้าวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เราต้องยอมรับจริงๆ ว่ากว่าสิบปีมาแล้วที่รัฐบาลไม่สนใจแก้ปัญหาหนี้สินครู มีแต่จะทุจริตเช่น นำเงินครูไปซื้อโซลาร์เซลล์ถึง 2,500 ล้านบาท
ขณะที่ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ผู้ประสานงานกลุ่มยุติธรรมภิวัฒน์ กล่าวสั้นๆ ว่า กำลังศึกษาเรื่องนี้โดยละเอียดอีกครั้งหนึ่งโดยพุ่งเป้าไปที่หน่วยงานของรัฐคือ คปภ.ทำไมจึงอนุมัติให้ประกันภัยเก็บเงินรวมยอดครั้งเดียว 9 ปี เคยตรวจสอบทุจริตของบริษัทประกันภัยนี้หรือไม่ แล้วสั่งให้จ่ายเงินสินไหมหรือไม่ ต้องเปิดเผยข้อมูลการตรวจสอบต่อสาธารณะ และกรมสรรพากรได้รับรู้รายได้เป็นรายปีหรือรวม 9 ปีของเบี้ยประกันในสาขาบางกะปิเพื่อเสียภาษี จากบริษัทอย่างใด หรือไม่? และคาดว่าครูจะลงนามร้องเรียนและฟ้องร้องจำนวนมาก
