พบหลักฐานสำคัญ "ถุงเลือดหมูสด" คาดผู้ก่อเหตุนำไปทิ้งหลังปาใส่ห้องเรียนอนุบาล

ชัยนาท - ตำรวจคุ้ยถังขยะ เจอหลักฐานสำคัญ "ถุงเลือดหมูสด" คาดผู้ก่อเหตุนำไปทิ้ง หลังปาใส่ห้องเรียนอนุบาล หวังข่มขู่ครูสาว เหตุทักท้วงเรื่องอาหารกลางวันเด็กไม่มีคุณภาพ

วันนี้ (23 ส.ค.) ความคืบหน้ากรณีมือดี ปาเลือดหมูสดใส่ประตูห้องเรียนชั้นอนุบาล โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.หันคา จ.ชัยนาท เพื่อหวังข่มขู่ให้ครูสาว อายุ 32 ปี ครูเจ้าของห้องเรียน เกิดความกลัว ซึ่งครูสาวเชื่อว่ามูลเหตุเกิดจากที่เธอพยายามเรียกร้องให้ทางโรงเรียนจัดทำอาหารกลางวันที่มีคุณภาพให้เด็กนักเรียน ทำให้บางคนเกิดความไม่พอใจ โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด พ.ต.ท.ณรงค์ ซิ้มสวัสดิ์ สารวัตรใหญ่ สภ.ห้วยงู พร้อมด้วย ร.ต.อ.สมพงษ์ บุปผา รองสารวัตร (สอบสวน) นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.ห้วยงู และเจ้าหน้าที่วิทยาการจังหวัดชัยนาท เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยได้เข้าเก็บคราบเลือดที่พื้นอาคารและประตูห้องเรียน รวมทั้งทำการค้นขยะทุกใบภายในโรงเรียน เพื่อหาถุงบรรจุเลือดที่ถือว่าจะเป็นหลักฐานสำคัญ

ซึ่งจากการค้นถังขยะ จำนวน 4 ใบ ที่ตั้งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 35 เมตร พบถุงบรรจุเลือดสด 1 ถุง และถุงที่มีลักษณะเหมือนกัน แต่สภาพถุงแตกแล้ว 1 ถุง ถูกทิ้งอยู่ในถังขยะใบที่ 3 จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อนำไปตรวจสอบหา DNA และรอยนิ้วมือแฝง รวมทั้งตรวจสอบว่าเป็นเลือดชนิดเดียวกันกับที่หน้าประตูห้องเรียนหรือไม่ ส่วนพยานแวดล้อมอื่นๆ อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน

พ.ต.ท.ณรงค์ ซิ้มสวัสดิ์ สารวัตรใหญ่ สภ.ห้วยงู กล่าวว่า พฤติการณ์การกระทำความผิดเช่นนี้ เป็นการทำให้เกิดความตกใจกลัว ถ้าในแง่กฎหมายเป็นความผิดลหุโทษ โทษไม่มาก ถ้าผู้กระทำความผิดรู้ หรือทราบข่าว หรือว่าเกิดความสำนึกผิดว่าไม่ควรกระทำ หรือคิดว่าไม่น่าจะทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โต จนทำให้เกิดความเสียหายทุกฝ่ายเช่นนี้ หากเกิดความสำนึกผิดแล้วให้เข้ามาพบมาแสดงตัวต่อตำรวจ จะพิจารณาโทษเปรียบเทียบทางคดี แต่ถ้าหากสืบสวนสอบสวนแล้วมีความผิดฐานอื่นจะดำเนินคดีอื่นต่อไป

สำหรับบรรยากาศภายในโรงเรียน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เด็กๆ ยังไปเรียน และเข้ารับประทานอาหารกลางวันกันตามปกติ โดยเมนูอาหารวันนี้ เป็นข้าวมันไก่ต้มและไก่ทอด แกงจืดเต้าหู้หมูสับ แตงโมและสับปะรด ซึ่งเป็นเมนูอาหารที่เด็กๆ เคยบอกว่าอยากกินมานาน แต่โรงเรียนไม่ค่อยทำให้กิน หลังเป็นข่าววันนี้จึงได้กินข้าวมันไก่สมใจ เด็กๆ จึงรับประทานกันอย่างเอร็ดอร่อย

ขณะที่ทางด้านผู้บริหารต้นสังกัด ดร.ลออ วิลัย ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยนาท พร้อมคณะ ได้เดินทางไปที่โรงเรียนเพื่อสอบถามเหตุการณ์กับคุณครูผู้เสียหาย จากนั้นได้เรียก นายสุเทพ สิงห์สม ผู้อำนวยการโรงเรียน และครูในโรงเรียนทั้ง 7 คน พร้อมคณะกรรมการโรงเรียน เข้าร่วมประชุม เพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริง ก่อนที่จะดำเนินการตามระเบียบราชการต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่คณะผู้บริหารโรงเรียนกำลังประชุมอยู่นั้น ได้มีกลุ่มผู้ปกครองนักเรียน จำนวนกว่า 30 คน เดินทางไปให้กำลังใจครูสาวที่โรงเรียน หลังจากมีข่าวลือว่า ครูสาวจะถูกต้นสังกัดสั่งย้ายออกจากโรงเรียน จึงได้ไปรวมตัวกันเพื่อที่จะคัดค้านอย่างเต็มที่ เพราะผู้ปกครองต่างเห็นว่า ครูสาว เป็นคนขยัน สอนหนังสือดี ให้ลูกหลานของพวกเขาอ่านออกเขียนได้ ตั้งแต่ชั้นอนุบาล และยังมีความเป็นห่วงเด็กนักเรียนทุกคน ต่อสู้เรื่องอาหารกลางวันที่ไม่มีคุณภาพให้เด็กมาโดยตลอด จึงจะขออยู่เคียงข้างครูสาว ไม่ยอมให้ย้ายครูออกไปจากโรงเรียนแน่นอน

ดร.ลออ วิลัย ผอ.เขตพื้นที่ฯ จึงได้ออกมาพบกลุ่มผู้ปกครอง และยืนยันว่ายังไม่ได้มีการสั่งย้ายครูแต่อย่างใด จึงไม่เข้าใจว่า เหตุใดกลุ่มผู้ปกครองถึงต้องมากดดันเช่นนี้ ทำให้บรรยากาศตึงเครียดเล็กน้อย และเมื่อ ผอ.เขตพื้นที่ฯ ถามกลุ่มผู้ปกครองว่าจะให้ครูสาวอยู่ต่อ แล้วย้ายครูคนอื่นออกหมด ผู้ปกครองจะยอมหรือไม่ ซึ่งคำตอบจากกลุ่มผู้ปกครอง คือ ยอม ทำให้ ผอ.เขตพื้นที่ฯ ถึงกับอึ้ง แล้วเดินกลับเข้าห้องประชุมทันที

ด้าน นายสุเทพ สิงห์สม ผู้อำนวยการโรงเรียน ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเพียงสั้นๆ ว่า ผลการประชุมเป็นเรื่องของทางราชการ แต่ได้พูดคุยกันแล้ว ไม่มีปัญหาเรื่องอาหารกลางวัน ยืนยันว่า อาหารกลางวันของโรงเรียน เป็นไปตามคู่มือ Thai Scholl Lunch ไม่ได้มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น โดยทุกวันจะทำกับข้าว 2 อย่าง มีบางวันเท่านั้นที่มีกับข้าว 1 อย่าง

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศระหว่างที่ผู้อำนวยการโรงเรียน กำลังให้สัมภาษณ์ กลุ่มผู้ปกครองได้ทักท้วงเกี่ยวกับอาหารกลางวันขึ้นมา ทำให้ผู้อำนวยการหยุดสัมภาษณ์ แล้วเดินกลับเข้าห้องประชุมไปทันที