บุรีรัมย์ - ชาวบ้านถูกสมาคมฌาปนกิจฯ สตึก จ.บุรีรัมย์ โกงเงินค่าจัดการศพกว่า 300 ล้าน บุกตำรวจภูธรจังหวัดฯ ติดตามคืบหน้าคดีหลังยืดเยื้อมานานเกือบ 3 ปี รองผู้การฯ ยันเร่งสรุปสำนวนคดีส่งฟ้องอัยการต้น ส.ค. ล่าช้าเหตุผู้เสียหายมากกว่า 3,300 ราย
วันนี้ (25 ก.ค.) ตัวแทนชาวบ้านจากหลายอำเภอในจังหวัดบุรีรัมย์ที่ถูกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สหกรณ์การเกษตรสตึกเบี้ยวเงินสินไหมทดแทนหรือค่าจัดการศพให้แก่ทายาทของสมาชิกที่เสียชีวิตรายละตั้งแต่ 120,000-150,000 บาท ได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าคดีที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ หลังคดียืดเยื้อมานานเกือบ 3 ปี ถึงแม้ก่อนหน้านี้ชุดปฏิบัติการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยีสารสนเทศได้สนธิกำลังกับหลายฝ่ายนำหมายศาลเข้าจับกุมนายกและกรรมการสมาคมฯ ทั้ง 9 ราย ที่ถูกแจ้งความกล่าวหาและออกหมายจับในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันยักยอกทรัพย์, ร่วมกันดำเนินกิจการฌาปนกิจสงเคราะห์โดยมิได้จดทะเบียนเป็นสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ หรือขึ้นทะเบียนฌาปนกิจสงเคราะห์, ร่วมกันดำเนินการฌาปนกิจสงเคราะห์โดยฝ่าฝืนกฎหมาย”
พร้อมทั้งมีการตรวจยึด อายัดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 อาทิ ของผู้ต้องหาทั้ง 9 รายรวมมูลค่า 36 ล้านบาท แต่คดียังไม่มีความคืบหน้าจึงได้พากันมาติดตามทวงถามความคืบหน้า พร้อมเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ผู้เสียหายด้วย
ขณะที่ พ.ต.อ.สุรชัย สังขพัฒน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เป็นตัวแทนมาชี้แจงให้ชาวบ้านฟังว่า คดีดังกล่าวมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมากถึงกว่า 3,300 ราย มูลค่าความเสียหายมากกว่า 300 ล้านบาท จึงต้องใช้เวลาในการสอบปากคำผู้เสียหาย และรวบรวมเอกสารหลักฐาน ซึ่งทางกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดได้แต่งตั้งชุดพนักงานสอบสวนร่วมในการสอบปากคำผู้เสียหายรวมจำนวน 12 นาย และเมื่อเดือน ต.ค. 2561 ที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนคดีส่งอัยการจังหวัดไปแล้ว แต่ทางอัยการตรวจสอบแล้วพบว่าสำนวนยังไม่มีรายละเอียดครบถ้วนสมบูรณ์ โดยเฉพาะการสอบปากคำผู้เสียหายต้องสอบเป็นรายบุคคล ไม่สามารถมอบหมายตัวแทนได้ จึงทำให้คดีมีความล่าช้าเพราะต้องกลับมาสอบผู้เสียหายใหม่เป็นรายบุคคล
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามไปยัง สภ.สตึก ท้องที่เกิดเหตุทราบว่าขณะนี้ได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายไปแล้วเกือบ 3,000 ราย ยังเหลืออีกประมาณ 300 ราย ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ค. 2562 หลังจากนั้นจะเร่งสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการจังหวัดไม่เกินต้นเดือน ส.ค.ที่จะถึงนี้ ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย หลังจากพนักงานสอบสวนได้นำตัวส่งฝากขังที่ศาลจังหวัด ผู้ต้องหาทั้ง 9 รายได้ยื่นขอประกันตัวเพื่อสู้คดี
นายบุญคง นพรัตนวงศกร ตัวแทนชาวบ้าน หนึ่งในผู้เสียหาย บอกว่า หลังจากแจ้งความร้องทุกข์มาตั้งแต่ปี 2560 จนถึงขณะนี้เป็นเวลาเกือบ 3 ปีแล้วยังไม่มีความคืบหน้า จึงได้พากันเดินทางมาติดตามทวงถามความคืบหน้าคดีที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ซึ่งหลังจากได้รับฟังคำชี้แจงจากรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ซึ่งรับปากคำจะเร่งรัดในการทำคดีให้รวดเร็ว และจะเร่งสรุปสำนวนส่งอัยการในต้นเดือน ส.ค.ที่จะถึงนี้ ชาวบ้านก็พอใจและรู้สึกมีความหวังมากขึ้น ซึ่งสิ่งที่ชาวบ้านต้องการคืออยากได้เงินค่าจัดการศพที่ทางสมาคมฯ ติดค้างไว้ และอยากให้ดำเนินคดีต่อนายก และกรรมการสมาคมฌาปนกิจฯ เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ผู้เสียหายด้วย
