บุรีรัมย์ - ฉาวอีก ครู ร.ร.ดังบุรีรัมย์ตีเด็ก ป.1 หัวแตกเลือดอาบ แต่บังคับให้โกหกผู้ปกครองว่าโดนตะปูในห้องน้ำหวังปกปิดความผิดและแลกเงินประกัน 300 บาท สุดท้ายความแตกเพื่อนในห้องบอกครูใช้ไม้ค้ำยันฟาดหัว ผู้ปกครองเดือดโพสต์จ่อแจ้งความเอาผิด
วันนี้ (21 ก.ค.) ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์เรื่องราวพฤติกรรมของครูอนุบาลโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ที่ใช้ความรุนแรงกับนักเรียน โดยระบุว่า “กรณีศึกษานะคะ ครูให้เด็กโกหกเพื่อแลกกับเงินประกันอุบัติเหตุ 300 บาท ทั้งที่เกิดจากฝีมือครูตีเด็กจนหัวแตก เข้าใจว่าเด็กก็ต้องมีซนบ้าง 2 วันผ่านไปผู้ปกครองยังเข้าใจว่าเด็กได้แผลจากอุบัติเหตุ ที่มีใบรับรองแพทย์กับผ้าปิดแผลที่หัวเด็กเดินมาหาผู้ปกครอง มารอรับที่โรงเรียน เสื้อนักเรียนก็ไม่ได้ใส่ คราบเลือกติดมือเด็ก ครูไม่มาส่งเด็กเพื่อบอกกล่าวผู้ปกครอง #ความแตกคือเด็กในห้องบอกว่าครูใช้...ฟาดเด็กหัวแตก แล้วเพิ่งมาขอโทษผู้ปกครองเด็ก ไม่เข้าใจแล้วจะให้เด็กโกหกผู้ปกครองทำไมว่าหัวตำตะปูในห้องน้ำ หรือนี่คือจรรยาบรรณครู คาใจค่ะเลยไปสัมภาษณ์เด็ก อึ้งเลยค่ะ” พร้อมโพสต์ภาพบาดแผลของเด็กที่ถูกตีหัว
เมื่อผู้สื่อข่าวติดต่อสอบถามไปยังเจ้าของโพสต์ให้ข้อมูลว่า เด็กนักเรียนที่ถูกตีหัวเป็นหลานชายของผู้โพสต์เอง ซึ่งเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงบ่ายของวันศุกร์ที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยหลานที่ถูกตีหัวแตกเรียนอยู่ชั้น ป.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.โนนดินแดง ส่วนครูที่ก่อเหตุเป็นครูผู้หญิง ซึ่งตอนแรกไม่มีใครรู้ว่าเป็นฝีมือของครูเพราะครูให้โกหกว่าไปโดนตะปูในห้องน้ำตำหัว
กระทั่งผ่านไป 2 วันเพื่อนในห้องเดียวกันบอกว่าครูใช้ไม้ตีหัว คนในครอบครัวต่างก็ตกใจมากว่าทำไมครูต้องให้หลานโกหก ทำไมไม่บอกความจริง พอทราบความจริงตนจึงได้ไปสอบถามจากปากหลานเอง หลานจึงมาเล่าให้ฟังว่าถูกครูตีจริง และครูให้โกหกว่าโดนตะปูเพราะอยากได้เงินประกันชีวิต 300 บาท พอครอบครัวทราบความจริงครูคนดังกล่าวจึงได้มาขอโทษที่บ้าน พร้อมซื้อนม 2 กล่องมาให้หลานด้วย แต่ตากับยาย ซึ่งเป็นคนเลี้ยงหลานมาตั้งแต่เด็กบอกว่ารับไม่ได้ที่ครูทำกับหลานรุนแรงแบบนี้ จึงเตรียมเข้าแจ้งความที่ สภ.โนนดินแดง
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบกับ นายประสิทธิ์ และนางดำรง คำพันธ์ ปู่ย่าของ ด.ช.เติส (นามสมมติ) นักเรียนชั้น ป.1 ที่ถูกครูตีหัวแตก ซึ่งมีอาชีพให้บริการเช่าห่วงยางและเสื้อชูชีพที่เขื่อนลำนางรอง อ.โนนดินแดง ให้ข้อมูลว่า ตอนเย็นของวันที่ 19 ก.ค. ย่าเป็นคนไปรับหลานที่โรงเรียน ก็เห็นหลานเดินมาในสภาพหัวแตกเลือดไหล ไม่สวมเสื้อก็ตกใจ จึงถามหลานว่าเป็นอะไร หลานก็ก้มหน้าแล้วตอบว่าชนตะปูในห้องน้ำ ตอนนั้นไม่ได้เอะใจอะไรเพราะคิดว่าหลานอาจเล่นซนแล้วไปโดนตะปูเอง
กระทั่งตกเย็นวันต่อมาเด็กที่เรียนห้องเดียวกันมาบอกว่า น้องเติสไม่ได้ชนตะปูแต่ถูกครูใช้ไม้เท้าค้ำยันตีหัวแตกตอนที่เข้าแถวส่งการบ้านในห้อง พอส่งการบ้านเสร็จช่วงที่หันหลังกลับครูก็ใช้ไม้เท้าตีกลางหัว ตอนแรกยังไม่เชื่อ จึงตัดสินใจไปสอบถามจากปากครูที่โรงเรียนด้วยตัวเอง กระทั่งครูยอมรับว่าได้ใช้ไม้ตีหัวน้องเติสจริง ไม่ได้ตั้งใจเป็นการตีเบาๆ เท่านั้นไม่คิดว่าจะถึงขั้นหัวแตก ซึ่งอาจไปโดนตรงนอตที่ล็อกติดกับไม้เท้า หลังจากนั้นครูได้มาหาที่บ้าน พร้อมกับนม 2 กล่องเพื่อเป็นการขอโทษแล้วไม่ได้พูดคุยอะไรอีกเลย
ด้าน นายประสิทธิ์ คำพันธ์ ปู่น้องเติส บอกอีกว่า สิ่งที่เสียใจและติดใจคือครูบังคับให้หลานโกหกผู้ปกครอง เพื่อต้องการจะปกปิดความผิดของตัวเอง จึงรู้สึกเสียใจและรับไม่ได้กับการกระทำของครู จึงยืนยันว่าจะเอาเรื่องถึงที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะดังกล่าวซ้ำอีก ที่จริงแล้วหากครูบอกความจริงตั้งแต่วันแรกแล้วแสดงความรับผิดชอบพาหลานไปหาหมอ หรือพามาส่งบ้านด้วยตัวเองคงจะไม่ติดใจเอาเรื่องเพราะคิดว่าอาจจะพลาดพลั้งกันได้
แต่จนถึงขณะนี้ครูยังไม่ได้แสดงความรับผิดชอบด้วยความจริงใจ และหากทางโรงเรียนหรือครูยังไม่มาแสดงความรับผิดชอบ หรือรับปากว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ส่วนจะดำเนินการแจ้งความ หรือร้องเรียนต่อทางต้นสังกัดต่อไปอย่างไรนั้นก็ต้องหารือกับพ่อแม่ของเด็กอีกครั้ง
