xs
xsm
sm
md
lg

มีหนาว! แง้มชื่อ 4 ร.ร.ดังโคราชฉาวงาบอาหารเด็กตั้งอยู่ “อ.เมือง-วังน้ำเขียว-ด่านขุนทด” พบโผล่ซ้ำอีกที่ชุมพวง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ศูนย์ข่าวนครราชสีมา-แง้มชื่อ 4 โรงเรียนดังโคราชฉาวโกงกินงบอาหารกลางวันเด็ก เผยเป็น ร.ร.ดังในตัวเมือง 2 แห่ง อีก 2 แห่งอยู่ อ.วังน้ำเขียวและด่านขุนทด ป.ป.ช.ภาค 3 ยันเป็นกรณีทุจริตใหม่ต่อเนื่องกัน ถามกลับ สพฐ. เรื่องเก่าเอาผิดหรือยัง ล่าสุดฉาวซ้ำโผล่อีกแห่งที่ อ.ชุมพวง ขณะผู้ว่าฯ และ สพป.เร่งล้อมคอกคุมเข้มตรวจถี่ทุกโรงเรียน

วันนี้ (9 ก.ค.) นายมงคล สาริสุต ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช.ภาค 3 และรักษาการผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีการทุจริตโครงการอาหารกลางวันเด็กนักเรียนของโรงเรียน 4 แห่งในจังหวัดนครราชสีมา ว่า ขณะนี้ได้รับการประสานงานจากนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในการร่วมหารือเรื่องการตั้งคณะทำงานร่วมขึ้นมาดำเนินการตรวจสอบการทุจริตโครงการดังกล่าว โดยคณะทำงานชุดนี้จะประกอบด้วยตัวแทนจากทางจังหวัดนครราชสีมา ศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา และ ป.ป.ช. คาดว่า 1-2 วันนี้จะมีความชัดเจนและนัดหารือกันอีกครั้งถึงขั้นตอนการดำเนินงานร่วมกัน
นายมงคล สาริสุต ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช.ภาค 3 และรักษาผู้อำนวยการ ป.ป.ช. นครราชสีมา
นายมงคลกล่าวอีกว่า กรณีที่เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ออกมาให้ข่าวว่า กรณีการทุจริตในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาเป็นเหตุการณ์เดิมที่เกิดขึ้นในปี 2558 นั้น ยืนยันว่าโรงเรียนแห่งนี้มีทั้งกรณีเดิมที่มีการทุจริตและกรณีใหม่ ซึ่งอยากฝากถามไปยัง สพฐ.ด้วยว่ากรณีเหตุการณ์เมื่อปี 2558 ที่พบการทุจริตนั้นมีการดำเนินการเอาผิดผู้กระทำความผิดหรือยัง และกรณีใหม่ที่เกิดขึ้นนี้ได้ดำเนินการอย่างไร ฉะนั้นยืนยันได้ว่าไม่ใช่เรื่องเก่าที่เคยเป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นมาแล้วเพราะการทุจริตมีการเชื่อมโยงกันระหว่างเหตุการณ์ใหม่กับเหตุการณ์เก่า

นายมงคลยังกล่าวอีกว่า สำหรับโรงเรียนทั้ง 4 แห่งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาที่เข้าข่ายมีการทุจริตงบประมาณอาหารกลางวันของเด็กนั้น อยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองนครราชสีมาจำนวน 2 แห่ง ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ชื่อดัง และอยู่ในต่างอำเภออีก 2 แห่ง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยปรากฏเป็นข่าวมีการร้องเรียนมาแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า โรงเรียน 4 แห่งที่พบมีการทุจริตโครงการอาหารกลางวันเด็กนักเรียน และแยกเป็นโรงเรียนในพื้นที่ อ.เมืองนครราชสีมา จำนวน 2 แห่งนั้น พบว่าทั้ง 2 แห่งเป็นโรงเรียนที่ทางจังหวัดนครราชสีมา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาและรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเคยนำคณะลงไปตรวจสอบก่อนหน้านี้ตามการร้องเรียนของผู้ปกครอง ส่วนโรงเรียนอีก 2 แห่งในพื้นที่ต่างอำเภอนั้น แบ่งเป็นอยู่ใน อ.วังน้ำเขียว 1 แห่ง และ อ.ด่านขุนทด 1 แห่ง

นอกจากนี้ ล่าสุดมีรายงานแจ้งว่าพบความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับการดำเนินโครงการอาหารกลางวันเด็กนักเรียนอีก 1 แห่งใน อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา โดยทางโรงเรียนให้นักเรียนห่อข้าวจากบ้านไปเอง แต่กลับมีการเบิกจ่ายเงินค่าข้าวสารทุกวัน
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา
ทางด้าน นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ตามที่ ป.ป.ช.จังหวัดนครราชสีมาได้ออกมาเปิดเผยข้อมูล 4 โรงเรียนที่ตรวจพบความไม่ชอบมาพากลในการจัดอาหารกลางวันให้เด็กนักเรียนเป็นข้อมูลเดิมที่ทาง ป.ป.ช.กำลังสอบอยู่ แต่ในช่วงปีที่ผ่านมาทางจังหวัดฯ ร่วมกับ ป.ป.ช. จังหวัดฯ, สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดฯ และท้องถิ่นจังหวัดมีการสุ่มตรวจอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดได้แจ้งเตือนไปยังผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมาทั้ง 7 เขต และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาที่ 31 รวมทั้งนายอำเภอทุกอำเภอ 32 อำเภอได้แจ้งโรงเรียน ไม่ว่าในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ หรือโรงเรียนในสังกัดการประถมศึกษา ให้เข้มงวดดูแลในเรื่องของการจัดอาหารกลางวันให้เป็นไปด้วยความโปร่งใสและเป็นไปอย่างมีคุณภาพ

เมื่อเหตุการณ์ที่ทางผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช.ภาค 3 ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่ากำลังสอบอยู่ใน 4 โรงเรียน ซึ่งเป็นการสอบต่อเนื่อง ทางเราได้วางมาตรการที่รัดกุมเข้มงวดกวดขันมากขึ้น และได้มีการพูดคุยกับทางสำนักงาน ป.ป.ช.นครราชสีมาแล้วว่า ชุดปฏิบัติการที่เราได้ตั้งไว้จะต้องออกไปสุ่มตรวจให้ถี่ขึ้นและให้ได้มากที่สุดหรือเป็นไปได้ก็ให้ครบทุกแห่ง แต่ต้องเรียนว่าเนื่องจาก จ.นครราชสีมามีโรงเรียนกว่า 1,000 โรงเรียน ฉะนั้นโอกาสที่จะออกไปตรวจให้ครบคงไม่ได้ครบทุกโรงเรียน

ฉะนั้น ต้องขอเรียนเชิญพี่น้องประชาชน ผู้ปกครอง หากพบว่าโรงเรียนไหน สถานศึกษาใดอาจจัดอาหารกลางวันได้ไม่ครบ หรือไม่มีคุณภาพ หรือส่อไปในทางทุจริต ขอให้แจ้งมายังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา โทร. สายด่วน 1567 หรือสำนักงาน ป.ป.ช.นครราชสีมา โทร. 1205 เราจะได้ลงไปตรวจ แต่การสุ่มตรวจจะออกไปสุ่มตรวจอยู่เป็นประจำ

ส่วนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ห่วงใยเรื่องนี้ พร้อมทั้งสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ สั่งให้ท้องถิ่นจังหวัดฯ ลงไปกำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น ความจริงเรากำกับอยู่เสมอ และเมื่อช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาเราก็มีหนังสือกำชับไปยังผู้บริหารสถานศึกษาและเขตพื้นที่การศึกษาที่กำลังอยู่ในช่วงการเปิดเทอมใหม่ ให้ทางผู้อำนวยการหรือทางโรงเรียนจำเป็นต้องดูเรื่องนี้อย่างจริงจัง อย่าปล่อยให้เป็นการดำเนินการของเจ้าหน้าที่หรือครูบางคนบางท่าน ซึ่งบางครั้งผู้อำนวยการอาจงานมาก แต่ตนคิดว่ามันจำเป็นที่จะต้องมีการช่วยตรวจสอบภายในด้วย และทางโรงเรียนควรจต้องมีการจัดสุ่มตรวจดูอาหารกลางวันเด็กเป็นครั้งคราว เขตพื้นที่การศึกษาก็ต้องมีการจัดชุดออกไปสุ่มตรวจด้วยจะได้เป็นการช่วยกันป้องปราม

รวมทั้งทางโรงเรียนต้องมีการปิดป้ายประกาศว่าแต่ละวันมีอาหารอะไรบ้าง โดยเรื่องนี้ตั้งแต่ในคราวที่ตนออกไปตรวจที่ผ่านมาเราก็แจ้งเป็นแนวทางแล้วว่า เพื่อความโปร่งใสขอให้ทุกโรงเรียนได้ประกาศรายการอาหารในแต่ละวันให้ผู้ปกครองทุกคนทราบ และผู้ปกครองจะได้ไปดูว่ารายการอาหารเป็นไปตามที่ได้ประกาศไว้หรือเปล่า และคุณภาพเป็นไปตามนั้นหรือไม่ อันนี้ยังคงให้ยึดถือแนวทางเดิมที่เราแจ้งให้ทราบในปีที่แล้ว ส่วนท้องถิ่นจังหวัดฯ ได้ไปเป็นกรรมการร่วมกันกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่จะออกไปสุ่มตรวจโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

“อยากฝากว่าบางครั้งผู้บริหารสถานศึกษาอาจไม่มีเวลาไปตรวจตราหรือดูแล ผมคิดว่าเรื่องนี้สำคัญมากที่สังคมกำลังจับตามอง และที่สำคัญคือ อาหารเหล่านี้นำไปสู่คุณภาพที่ดีของเด็กนักเรียน ฉะนั้นอยากให้ทางสถานศึกษาได้ให้ความสำคัญในการดูแลเรื่องคุณภาพของอาหารกลางวัน ดูแลเรื่องความโปร่งใส และสื่อสารกับผู้ปกครองให้เข้าใจว่าโรงเรียนมีการจัดอย่างไร ที่สำคัญ ขอให้ยึดมั่นในความโปร่งใสให้มากที่สุดและทำแบบตรงไปตรงมาจะสามารถช่วยได้ เพราะในปัจจุบันนี้สังคมคงไม่ยอมแล้ว ซึ่งมีการจับตามองในเรื่องนี้มาก ฉะนั้นหากที่ไหนมีปัญหาเราจะต้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่โดยเฉียบขาดต่อไป” นายวิเชียร กล่าว

ขณะที่ นายธีรวุฒิ เจริญรัมย์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) นครราชสีมา เขต 1 กล่าวว่า วันนี้เราได้รับทราบจากการดำเนินการของ สพฐ. หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยได้รับคำสั่งจากกระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ตรวจสอบดูแลเรื่องอาหารกลางวันอย่างใกล้ชิด และมีหนังสือสั่งการมาแล้วว่าให้หน่วยออกติดตามกำกับดูแลทุกโรงเรียน หากเจอปัญหาในเรื่องนี้ก็ให้ดำเนินการโดยเด็ดขาด ซึ่งวันนี้เราได้เตรียมการล่วงหน้าแล้วส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งจะได้ออกตรวจเพื่อติดตามทุกโรงเรียน ซึ่ง สพป.เขต 1 ดูแล 2 อำเภอ คือ อ.เมืองนครราชสีมา และ อ.โนนสูง มีจำนวน 143 โรงเรียน

ส่วนเรื่องให้มีประกาศรายการอาหารให้ผู้ปกครองได้ทราบก็เป็นมาตรการเสริมที่เราจะต้องสื่อให้ทางสังคมได้รับทราบว่า อาหารจะต้องคุณภาพดี ปลอดภัย แล้วทุกคนมีส่วนร่วม หมายความว่า ผู้ปกครองและนักเรียนจะต้องเข้ามาช่วยดูแลกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้น

กรณีที่ทาง ป.ป.ช.ออกมาเปิดเผยว่าพบ 4 โรงเรียน ทาง สพป.เขต 1 สุ่มตรวจพบหรือไม่นั้น เรื่องนี้ในส่วนของ ป.ป.ช.เขาก็เดินหน้าวิธีการของฝ่าย ป.ป.ช. ในส่วนของเราในฐานะที่สายบังคับบัญชาเราจะใช้วิธีควบคุมกำกับโดยการติดตามอย่างใกล้ชิด หากว่ามีปัญหาในเรื่องนี้เราจะดำเนินการตามขั้นตอนทางวินัย และประสานกับ ป.ป.ช.ให้ชัดเจนมากขึ้นว่าหน่วยที่เกี่ยวข้องด้านนี้ที่พบปัญหาคือที่ไหนบ้างแล้วเราจะลงไปประสานอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณผู้ปกครองที่เข้ามาพูดคุยกับพวกเราคือทางโรงเรียน ว่า เราได้รับความร่วมมือจากโรงเรียนด้วยดีในการประสานเรื่องอาหารการกินเด็กซึ่งเป็นลูกหลานเขาให้ได้รับอาหารกลางวันที่มีคุณภาพที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ดูกันที่ข้อมูลพื้นฐานส่วนมากมีความพอใจในระดับที่สูงมาก แต่ที่เป็นปัญหาเล็กๆ หมายความว่า มันเกิดปัญหาที่จุดใดจุดหนึ่งแล้วกระแสหรือข่าวเช่นนี้มันเป็นปัญหาในทางสังคมมาก ถ้าหากกระพือไปในทางลบมากๆ กลายเป็นว่าพวกเราที่ทำงานเกิดความกังวลอยู่นิดหนึ่งว่า ทำอย่างไรถึงจะเหมาะสม

ฉะนั้นเรื่องนี้เราให้ความรอบคอบและให้ความสำคัญอย่างยิ่ง อยากฝากผู้ปกครองและผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับเด็กมากที่สุด อาหารส่วนหนึ่งเราได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครองให้ข้อมูลว่า อาหารอย่างนี้เด็กคนนี้กินได้ คนนี้กินไม่ได้ เราก็จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด และเด็กทุกคนคือลูกหลานเราที่จะต้องใส่ใจดูแลเขาและให้รับสิ่งดีๆ มีคุณค่าทางโภชนาการ เราให้ความสำคัญมาก ซึ่งที่จริงเรื่องนี้ไม่ใช่เฉพาะช่วงนี้ เราดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง แต่เหตุที่เกิดขึ้นเนื่องจากมันเป็นจุดที่หลายกรณีเป็นปัญหาและพวกเราก็ทราบสื่อสารได้เร็วมาก

“ฉะนั้นต้องระวังเรื่องนี้มาก ส่วนข่าวที่ทางผู้ว่าฯ นครราชสีมาไปสุ่มตรวจเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องของปีที่แล้วที่เราให้ความสำคัญ และหลังจากนี้ไปต้องให้ความสำคัญมากขึ้น นอกจากนี้ ในสัปดาห์หน้าเราจะออกตรวจโรงเรียนทุกแห่งในสังกัดที่เรารับผิดชอบ” นายธีรวุฒิกล่าวในตอนท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น