xs
xsm
sm
md
lg

น่าทึ่ง! สับปะรดพันธุ์ใหม่ลำปาง กก.ละ 35 บาท ปลูกได้ไม่พอขาย-ญี่ปุ่นรอซื้อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ลำปาง - เกษตรอำเภองาวเร่งส่งเสริมเกษตรกรปลูกสับปะรดภูงาวแทนข้าวโพด..หลังชาวสวนผสมพันธุ์สับปะรดภูแล-ภูเก็ตเป็น “ภูงาว” ปลูกปีแรกคืนทุน ล่าสุดผลิตได้ไม่พอขาย-ราคาสูง กก.ละ 35 บาท บริษัทญี่ปุ่นรอซื้ออีก

วันนี้ (8 ก.ค.) นายสมาน เตียนต๊ะนันท์ เกษตรอำเภองาว จ.ลำปาง พร้อมด้วยนางสาวจิดาภา สร้อยนาค ผู้ใหญ่บ้านใหม่ธานี ต.บ้านหวด อ.งาว ได้พาผู้สื่อข่าวเข้าชมไร่ของนางจิตรา กลาวสนั่น เกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดสายพันธุ์ใหม่ “สับปะรดภูงาว” ซึ่งเกษตรอำเภองาวกำลังเร่งส่งเสริมให้เกษตรกรในอำเภองาวหันมาปลูกแทนข้าวโพด เนื่องจากปลูกง่าย-ราคาสูงกว่าสับปะรดทั่วไป และเป็นที่ต้องการของตลาด แต่ขณะนี้นางจิตรารายเดียวที่เริ่มปลูก

ซึ่งไร่สับปะรดของนางจิตราอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท ซึ่งเป็นพื้นที่ที่รัฐจัดสรรให้เกษตรกรทำการเกษตร ซึ่งเดิมนางจิตราใช้พื้นที่แห่งนี้ปลูกข้าวโพด แต่เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาได้ทดลองหันมาปลูกสับปะรดพันธุ์ภูเก็ตผสมกับพันธุ์ภูแล ผลปรากฏว่าผลผลิตที่ได้ออกมาเป็นที่ถูกอกถูกใจของคนที่ชอบรับประทานสับปะรด เพราะสับปะรดที่ได้จะหัวเล็ก กินได้ทั้งแกน รสชาติหวานตามลำดับ คือ หากผลมีสีเขียวปนเหลืองจะหวานไม่มาก แต่หากผลเป็นสีเหลืองทั้งลูกก็จะหวานขึ้นมาอีกระดับ แต่ไม่หวานฉ่ำ ไม่เจ็บลิ้น และทุกลูกจะกรอบ จึงได้ตั้งชื่อพันธุ์นี้ว่า “สับปะรดภูงาว” ซึ่งขณะนี้มีเพียงที่นี่ที่เดียว

นางจิตราเล่าว่า ปีแรกที่ตนหันมาปลูกสับปะรดภูงาวผลผลิตออกมาไม่มาก แต่มีคนมาซื้อถึงไร่หมดทุกลูก ส่วนปีที่ 2 ผลผลิตเริ่มออกมากขึ้น ตนต้องนำผลผลิตออกไปขายเองตามต่างจังหวัดเพื่อให้คนรู้จัก ซึ่งก็ขายหมดและได้ราคาสูงด้วย ปีนี้ตนปลูกสับปะรดภูงาว 4 ไร่ ได้ผลผลิต 1,300 ตัน/ไร่ ก็จะมีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อถึงสวน โดยหากมาตัดเองและไม่มีการคัดเกรดจะขายให้ในราคากิโลกรัมละ 20 บาท หากให้เราตัดให้จะขายในราคากิโลกรัมละ 35 บาท พร้อมกับขยายหน่อสับปะรดภูงาว หน่อละ 2 บาทด้วย

“ดิฉันปลูกสับปะรดภูงาว ปีแรกก็ได้ทุนคืนหมดแล้ว ปีถัดมาก็ถือว่ามีรายได้ดี แต่ละรอบก็ได้แสนกว่าบาท ขณะที่ปัจจุบันผลผลิตมีไม่พอกับออเดอร์ที่สั่งเข้ามา ทำให้ต้องเร่งส่งเสริมเกษตรกรในพื้นที่ให้หันมาปลูกสับปะรดภูงาวให้มากขึ้น แต่ก็อยากให้มีเฉพาะที่อำเภองาวเท่านั้น ไม่อยากขยายไปปลูกที่อื่น”

นางจิตราบอกว่า ขณะนี้ได้ตั้งกลุ่มเกษตรกรที่สนใจปลูกสับปะรดภูงาวขึ้นมาเพื่อขยายพื้นที่ มีสมาชิกแล้ว 10 คน ซึ่งจะให้พันธุ์แก่สมาชิกเริ่มต้นที่ 1 ไร่ แต่มีข้อแม้คือทุกคนที่ปลูกสับปะรด 1 ไร่จะต้องปลูกต้นไม้ยืนต้นในพื้นที่ 15 ต้น เพื่อช่วยกันเพิ่มต้นไม้ให้แก่ธรรมชาติตามนโยบายของรัฐบาล และการปลูกต้องปลูกแบบอินทรีย์ คือไม่ใช้สารเคมีใช้แต่ปุ๋ยคอกเท่านั้น

ด้านนายสมาน เตียนต๊ะนันท์ เกษตรอำเภองาว กล่าวว่า ขณะนี้ตนพยายามเปลี่ยนความคิดของเกษตรกร ที่เดิมจะปลูกแต่ข้าวโพด ให้หันมาปลูกสับปะรดภูงาว เพราะนอกจากไม่ต้องดูแลมากแล้ว ยังเป็นที่ต้องการของตลาดและราคาสูง และปลายปีนี้ทางตัวแทนของบริษัทจากญี่ปุ่นจะเดินทางมาดูผลผลิตเป็นรอบที่สอง เพราะก่อนหน้านี้เคยมาดูครั้งหนึ่งแล้วแต่ผลผลิตมีไม่เพียงพอต่อจำนวนที่จะสั่งซื้อ

“หากเกษตรกรเพิ่มพื้นที่ปลูกมากขึ้นก็มีโอกาสที่จะส่งสับปะรดภูเงาขายให้ประเทศญี่ปุ่นได้ เกษตรกรก็จะมีรายได้สูงขึ้นและไม่ต้องห่วงเรื่องการตลาดอีกต่อไป”


กำลังโหลดความคิดเห็น