ศูนย์ข่าวขอนแก่น - หน่วยงานสาธารณสุขแจ้งความเอาผิดบริษัทเจ้าของบัตรพลังงานลวงโลกไม่ได้ ต้องให้ สคบ.เป็นเจ้าทุกข์ดำเนินคดีแทน ด้านตำรวจสอบปากคำได้แล้วกว่า 20 ปากทั้งชาวบ้านที่ตกเป็นเหยื่อและตัวแทนขายบัตรในพื้นที่
วันนี้ (17 มิ.ย.) ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ขอนแก่น พ.ต.อ.สุทธิพงศ์ เป๊กทอง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ได้เข้าพบ นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น และนิติกรสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น เพื่อหารือแนวทางดำเนินการคดีกับทางบริษัทเอ็กซเฟิร์สโปร จำกัด เจ้าของบัตรพลังงานหรือบัตรสมาร์ทการ์ด
จากกรณีที่มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ทั้ง อ.อุบลรัตน์ อ.เขาสวนกวาง และ อ.น้ำพอง ถูกตัวแทนขายบัตรของบริษัทดังกล่าวหลอกล่อโน้มน้าวโฆษณาเกินจริง ให้ซื้อบัตรพลังงานไปใช้แก้อาการปวดเมื่อย ทั้งที่ไม่มีสรรพคุณทางการแพทย์เพื่อการรักษา
นพ.สมชายโชติเปิดเผยภายหลังร่วมหารือกับคณะพนักงานสอบสวนฯ ว่า ทางสำนักงานสาธารณสุขขอนแก่นได้นำข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบัตรพลังงานมาร่วมกันพิจารณาถึงพฤติการณ์ของการซื้อขายว่าเข้าข่ายความผิดตามข้อกฎหมายหรือพระราชบัญญัติข้อใดของกระทรวงสาธารณสุขหรือไม่ เพราะมีข้อมูลยืนยันชัดเจนว่าบัตรพลังงานไม่มีคุณสมบัติที่สามารถรักษาโรคใดๆ ได้ ไม่ใช่อุปกรณ์ทางการแพทย์
เมื่อเปรียบเทียบข้อกฎหมายกับลักษณะการกระทำผิดของผู้ที่เกี่ยวข้องกับบัตรพลังงานแล้ว พบว่าการกระทำดังกล่าวเข้าเงื่อนไขทางข้อกฎหมายของสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ.มากกว่า จึงต้องให้ สคบ.เป็นเจ้าทุกข์แจ้งความดำเนินคดี ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจะทำหน้าที่ในการสนับสนุนข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง
ด้าน พ.ต.อ.สุทธิพงศ์ เป๊กทอง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ทาง สสจ.ขอนแก่นไม่สามารถเป็นเจ้าทุกข์แจ้งความเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องกับบัตรพลังงานได้ก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อการเอาผิดบริษัทเจ้าของบัตรและผู้เกี่ยวข้องในการขายบัตรพลังงาน หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งรวบรวมข้อมูลและหลักฐานต่างๆ พร้อมทั้งประสานให้เจ้าหน้าที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค จ.ขอนแก่น เข้าร้องทุกกล่าวโทษในฐานะพนักงานของรัฐเป็นผู้เสียหาย
“สัปดาห์ที่ผ่านมาตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องมากกว่า 20 ปาก ทั้งตัวแทนขายที่เข้ารับการอบรมและชาวบ้านที่ซื้อบัตรจากตัวแทนมาใช้ นอกจากนี้เรายังได้ส่งบัตรพลังงานไปให้ผู้เชี่ยวชาญที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจพิสูจน์ว่าภายในบัตรมีส่วนประกอบที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่ เพื่อใช้เป็นหลักฐานทางคดีนี้ด้วย” พ.ต.อ.สุทธิพงศ์กล่าว