พระนครศรีอยุธยา - ชาวบ้านลุกฮือ เรียกร้องทวงคืนหัวเสาตะลุง หลังมีการบูรณะเพนียดคล้องช้าง ด้านผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์ ออกมายันเดินหน้าตามรอยประวัติศาสตร์
จากกรณีที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้ทำการบูรณะซ่อมแซมเพนียดคล้องช้าง หมู่ที่ 3 ตำบลสวนพริก อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งชาวบ้านพบว่า การบูรณะซ่อมแซมครั้งนี้มีการตัดหัวเสาตะลุงที่อยู่ด้านนอกเพนียด หรือที่เรียกว่าปีกกาออกทั้งหมด ทำให้สภาพของเพนียดคล้องช้างเปลี่ยนไป ดูไม่สวยงามเหมือนที่ผ่านมา จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักถึงการตัดหัวเสาตะลุงครั้งนี้
ล่าสุด วันนี้ (27 พ.ค.) ที่เพนียดคล้องช้าง หมู่ที่ 3 ตำบลสวนพริก อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา น.ส.สุกัญญา เบาเนิด ผู้อำนวยการสำนักงานอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เดินทางลงพื้นที่และชี้แจงสาเหตุของการตัดหัวเสาตะลุง โดยมีชาวบ้านจำนวนมากมารอ ซึ่งมี ดร.จิระพันธ์ พิมพ์พันธ์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาร่วมในวันนี้อีกด้วย
น.ส.สุกัญญา เบาเนิด ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า การดำเนินการซ่อมแซมบูรณะเพนียดคล้องช้างครั้งนี้ ใช้งบประมาณ 30 กว่าล้านบาท และยึดถือหลักฐานที่พบเป็นภาพถ่ายจากชาวต่างชาติที่เข้ามาประเทศไทย ก่อนรัชกาลที่ 5 โดยเห็นว่าด้านนอกของเพนียดคล้องช้างเสาตะลุงไม่มีหัว จึงได้ทำการซ่อมแซมตามหลักฐานที่พบ
ส่วนที่ผ่านมา การบูรณะซ่อมแซมมาต่อเนื่อง 3 ครั้ง ทางผู้รับเหมาได้สร้างตามหลักฐานคือ เสาตะลุงที่หลงเหลืออยู่เดิมมีหัวมัณท์ หรือหัวบัว จึงได้ทำการซ่อมแซมทั้งด้านนอกด้านใน และซ่อมต่อเนื่องมา ไม่ได้ยึดภาพเหมือนการซ่อมครั้งนี้ ซึ่งทางกรมศิลปากรต้องการที่จะย้อนไปถึงสภาพเดิมที่เคยมี ซึ่งยืนยันว่าทำตามหลักฐานที่พบ ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงอะไร ส่วนการที่ชาวบ้านมาคัดค้าน เป็นเรื่องที่ทำได้ และเป็นเรื่องดีที่เห็นความรัก ความหวงแหนของคนรอบโบราณสถาน อีกทั้งยังเป็นโอกาสที่ทางกรมศิลปากรได้อธิบายชี้แจง
น.ส.สุกัญญา พยายามชี้แจงแต่ก็ไม่เป็นผลท่ามกลางเสียงตะโกนของชาวบ้านที่ไม่รับฟัง เนื่องจากส่วนใหญ่เห็นว่ากรมศิลปากรพยายามที่จะทำลายความรู้สึกของชาวบ้าน จึงเรียกร้องให้ซ่อมแซมให้เสาตะลุงมีหัวเหมือนเดิม อีกทั้งเห็นว่าหากทางกรมศิลปากรไม่แก้ไข ก็จะทำการร้องเรียนไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ต่อมา นายสันติ ขันธนิกร ตัวแทนชาวบ้านรอบเพนียด ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนผ่าน ดร.จิระพันธ์ พิมพ์พันธ์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในการยื่นไปยังจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าทางอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จะชี้แจงอย่างไร ขณะนี้ชาวบ้านไม่รับฟัง เนื่องจากได้ทำให้ชาวบ้านเสียความรู้สึก
“ตลอดทั้งชีวิตชาวบ้านส่วนใหญ่เห็นแต่เสาตะลุงที่มีหัวตลอดมา ซ่อมกี่ครั้งก็มีหัว ชาวบ้านจึงจดจำแต่ภาพของเสาตะลุงที่มีหัว ที่สำคัญการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน และการที่ยูเนสโกยกย่องเป็นมรดกโลก ทุกหน่วยงานก็จะเห็นว่าเสาตะลุงมีหัวทั้งนั้น การซ่อมแซมเวลาต่อมาในวันนี้ จะดัดแปลงแก้ไขย้อนไปอีก ก็คงจะไม่ถูกต้อง ซึ่งเรื่องนี้ตนจะสอบถามไปยังกรมศิลปากร และกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อให้เข้ามาดูแล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาชาวบ้านได้พากันไปชุมนุมชูป้ายคัดค้านและจุดธูปเพื่อขอขมา อีกทั้งสาปแช่งผู้ที่เปลี่ยนแปลงสภาพของเพนียดคล้องช้าง และตัดหัวเสาตะลุง พร้อมทั้งเรียกร้องให้กรมศิลปากรแก้ไขให้เหมือนเดิม