ศูนย์ข่าวขอนแก่น - อุบัติเหตุสยอง! รถตู้แฟนบอลสิงห์ท่าเรือชนพ่วงบรรทุกดับ 5 ศพ เบื้องต้นตำรวจชุมแพ ตั้งข้อหาขับรถโดยประมาททั้งสองฝ่าย พร้อมเร่งสอบหาปมเหตุที่แท้จริง ด้านญาติแฟนบอลเคราะห์ร้ายทยอยรับศพกลับภูมิลำเนาครบหมดแล้ว
จากกรณีเมื่อเช้าวานนี้ (15 พ.ค.) ได้เกิดอุบัติเหตุสยอง แฟนคลับฟุตบอลทีมสโมสรสิงห์ท่าเรือได้เหมารถตู้เดินทางมาเชียร์ทีมที่ตนเองรักแข่งกับสโมสรฟุตบอลหนองบัวลำภู แต่ระหว่างทางรถตู้ได้ชนกับรถบรรทุกพ่วงบรรทุกน้ำมันบริเวณถนนสายชุมแพ-สีชมพู จ.ขอนแก่น จนเป็นเหตุให้แฟนบอลที่โดยสารมากับรถตู้เสียชีวิตทั้งหมด 5 คน และได้รับบาดเจ็บอีก 3 คน
ล่าสุดวันนี้ (16 พ.ค.) พ.ต.อ.วิรัตน์ ด้วงสำรวย ผกก.สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวน สภ.ชุมแพ กำลังเร่งสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด ทั้งคนขับรถบรรทุกที่ได้ให้การไปแล้วในเบื้องต้นและผู้ที่โดยสารมากับรถตู้ที่ได้รับบาดเจ็บ แต่ต้องรอให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหายดีก่อนจึงจะเข้าไปสอบปากคำอีกครั้ง เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากทั้ง 2 ฝ่าย
ทั้งนี้ ภายหลังเกิดเหตุทางตำรวจกองวิทยาการได้เข้าตรวจสอบร่องรอยเฉี่ยวชนของรถที่ประสบเหตุและบริเวณสถานที่เกิดเหตุ รวมทั้งได้ให้แพทย์ทำการตรวจหาสารเสพติดและแอลกอฮอล์ในร่างกายของคนขับรถบรรทุกและของฝ่ายรถตู้ที่แฟนบอลสิงห์ท่าเรือเหมาโดยสารมาว่ามีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในระหว่างการเดินทางด้วยหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นทั้งสองฝ่ายเข้าข่ายมีความผิดฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเจ็บสาหัส มีทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อสรุปสำนวนคดี โดยจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
ส่วนบรรยากาศที่พุทธสมาคม เต็กก่า จีแชเกาะ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น นายเด่นชัย เสธถาพรมรินทร์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการกู้ภัยจีเเชเกาะ บอกว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้นำศพแฟนบอลทั้ง 5 รายมาเก็บไว้ที่นี่ เพื่อรอญาติมาติดต่อขอรับไปประกอบพิธีทางศาสนา
โดยศพแรกหน่วยกู้ภัยจีแชเกาะได้รับการประสานจากญาติ ให้นำศพนายวิบูลย์ ทองคำ อายุ 37 ปี ชาวไทยมุสลิม กลับภูมิลำเนาถนนสุขุมวิท 55 เขตทองหล่อ กทม. (มัสยิดตรงข้าม สน.) เดินทางออกจากพื้นที่ชุมแพเป็นศพแรกเมื่อเวลา 15.00 น. เมื่อวานนี้
หลังจากนั้นตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาได้มีญาติของผู้เสียชีวิตมาติดต่อขอรับศพ จนกระทั่งเวลา 22.00 น.ของเมื่อคืนนี้มีญาติมาติดต่อขอรับศพสุดท้ายไปประกอบพิธีทางศาสนาตามภูมิลำเนาของตนแล้ว ซึ่งบรรยากาศการรับศพเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ญาติๆ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าคาดไม่ถึงจะเกิดเหตุสลดเช่นนี้
