ตาก- เกิดอุบัติเหตุรถบัสขนแรงงานเมียนมา กลับบ้านช่วงสงกรานต์รถพุ่งลงเนินเขาดอยคาชนรถยนต์สามคันรวดก่อนพุ่งชนท้ายรถบรรทุกหกล้ออย่างแรง ส่งผลทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดคาซากรถบัสหนึ่งราย ส่วนแรงงานอีก 48 รายหวิดตายหมู่
วันนี้( 6 เม.ย.) ตำรวจ สภ.พะวอ จังหวัดตาก รับแจ้งสายด่วนฉุกเฉิน 191 มีอุบัติเหตุรถบัสโดยสารขนแรงงานสัญชาติเมียนมาพุ่งชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยเหตุเกิดบนถนนสายแม่สอด-ตาก ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 52 เขตดอยคา ฝั่งขาเข้าอำเภอแม่สอด โดยหลังรับแจ้งเหตุตำรวจ พร้อมฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด และหน่วยกู้ชีพหลายหน่วยงานในอำเภอแม่สอด ต้องรีบร่วมกันไปช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ที่เกิดเหตุเป็นถนนทางลงภูเขาลาดชั้นซึ่งเป็นจุดอันตราย โดยที่กลางเนินเขาพบรถยนต์เก๋งถูกเฉี่ยวชนไปสองคันแต่คนขับทั้งสองคันปลอดภัย ห่างกันไปไม่มากนักพบรถบรรทุก 6 ล้อ หมายเลขทะเบียน 70-5977 เชียงใหม่ ถูกรถบัสโดยสารชนท้ายอย่างแรง โดยมีนาย ณรงศ์ สีเปิ้น อายุ 42 ปีเป็นคนขับรถบรรทุกไม่ได้รับบาดเจ็บ
ส่วนรถบัสโดยสารสองชั้นแบบไม่ประจำทาง หมายเลขทะเบียน 30-1936 ปทุมธานี จอดชนอัดติดคาท้ายรถบรรทุก6 ล้อ สภาพรถด้านหน้าพังยับเยินมีนาย เอกชัย แจ้มแจ้ง อายุ 30 ปี เป็นคนขับรถได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยส่วนข้างที่นั่งคนขับพบตัวเด็กชาย วีรภัทร คำสัตย์ อายุ 12 ปี ผู้โดยสารถูกอัดก็อปปี้คาหน้ารถบัส หน่วยกู้ชีพต้องใช้เครื่องตัดถ่างงัดซากรถก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนภายในรถบัสยังพบผู้โดยสารทั้งชายและหญิง ซึ่งทั้งหมดเป็นแรงงานสัญชาติเมียนมารวมจำนวน 48 คน ทั้งหมดรอดตายหวุดหวิดและต่างรีบวิ่งลงจากรถบัสด้วยความแตกตื่นไปรวมตัวกันริมถนนโดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนาย เอกชัย ซึ่งเป็นคนขับรถบัสโดยสารคันเกิดเหตุได้ขับรถบัสขนส่งแรงงานสัญชาติเมียนมา จำนวน 48 คนมาจากจังหวัดปทุมธานี มุ่งหน้ามาส่งที่แนวชายแดนอำเภอแม่สอดเพื่อส่งแรงงานทั้งหมดกลับบ้านช่วงเทศกาลสงกรานต์ และขับรถมาบนถนนสายแม่สอด-ตากเป็นครั้งแรก
แต่พอขับรถมาถึงจุดซึ่งเป็นเขตดอยคา ซึ่งเป็นจุดลงภูเขาอันตรายรถเกิดเสียการควบคุมพุ่งลงภูเขาด้วยความเร็วสูงก่อนเฉี่ยวชนรถยนต์บนถนนไปสองคัน จนคนขับรถบัสตัดสินใจในเสี้ยววินาทีหักรถพุ่งชนท้ายรถบรรทุกหกล้อเพื่อป้องกันไม่ให้รถบัสพุ่งชนหน้าผาสูง จนรถบัสพังเสียหายอย่างหนักหวิดเกิดอุบัติเหตุหมู่
ซึ่งเขตดอยคาแห่งนี้เพียงช่วงสัปดาห์เดียวได้เกิดอุบัติเหตุรถชนกันไปแล้วมากกว่า 10 คัน มีทั้งผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บไปหลายราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุในจุดดังกล่าว ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ส่วนสาเหตุของอุบัติเหตุในจุดนี้เกือบทุกครั้งมาจากผู้ขับขี่รถทุกชนิดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามป้ายเตือนจุดอันตรายอย่างเคร่งครัด และขับรถด้วยความเร็วสูงบนเส้นทางภูเขาจนทำให้ถนนสายนี้มีอุบัติเหตุเกือบทุกวัน
