xs
xsm
sm
md
lg

สั่งย้าย ตชด.10 นายปมเหตุซ้อมเด็กเสพกัญชา ด้านชาวบ้านไม่ติดใจเอาความ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

พ.ต.อ.สุภัทร ม่วงสมัย รอง ผบก.ตชด.ภาค 2 ร่วมกับ ว่าที่ ร้อยตรี ภูมิศักดิ์ ขำปู่ นายอำเภอท่าอุเทน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวย้าย ตชด.10 นาย
นครพนม-ตชด.ร่วมปกครองแถลงสั่งย้าย ตชด. 10 นายออกนอกพื้นที่ ปมเหตุข่าวซ้อมเยาวชนที่เสพกัญชา เผยการทำงานของเจ้าหน้าที่ไม่มีเจตนาทำร้ายร่างกาย เป็นการกระทบกระทั่ง และเกิดบกพร่องการทำงาน ด้านชาวบ้านไม่ติดใจ ให้โอกาสลูกบำบัดฟื้นฟู

วันนี้ (3 เม.ย. 62) ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอท่าอุเทน จ.นครพนม พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชานแดน สั่งการให้ พ.ต.อ.สุภัทร ม่วงสมัย รอง ผบก.ตชด.ภาค 2, พ.ต.อ.สิปปนันท์ สรณ์คุณแก้ว ผกก.ตชด.23 ร่วมกับ ว่าที่ ร้อยตรี ภูมิศักดิ์ ขำปู่ นายอำเภอท่าอุเทน, นายจำรัส ตักโพธิ์ ส.อบจ.นครพนม เขต อ.ท่าอุเทน และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง แถลงความชัดเจนกรณีมีข่าว เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการข่าวปราบปรามยาเสพติด ตชด.237 อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เข้าตรวจสอบกลุ่มวัยรุ่น 6 คน ขณะกำลังรวมกลุ่มเสพกัญชาภายในกระท่อมนา บ้านท่าแต้ หมู่ 11 ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม วันที่ 26 มีนาคม 2562

ภายหลังได้มีนางพรนภัส บุญเทียม อายุ 46 ปี พร้อมด้วยเพื่อนบ้าน ที่เป็นผู้ปกครองเยาวชน อายุระหว่าง 15 -18 ปี ออกมาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม ว่าบุตรชายทั้ง 6 คนถูกทำร้ายร่างกาย เพื่อให้หน่วยงานต้นสังกัดตรวจสอบเอาผิด ระบุว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ และเกิดความวิตกกังวลจะไม่ปลอดภัย จนมีข่าวเผยแพร่ออกไปทางสื่อต่างๆ

หลังเกิดเหตุร้องเรียน พ.ต.อ.สุภัทร ม่วงสมัย รอง ผบก.ตชด.ภาค 2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิปปนันท์ สรณ์คุณแก้ว ผกก.ตชด.23 และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่รับทราบปัญหา ตรวจสอบ เพื่อสร้างความมั่นใจกับชาวบ้านไม่ให้เกิดปัญหาความขัดแย้ง ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ชาวบ้าน รวมถึงดูแลความปลอดภัย จะไม่มีการข่มขู่คุกคาม พร้อมเสนอผู้บังคับบัญชา ให้มีคำสั่งย้ายตำรวจทั้ง 10 นายที่ไปปฏิบัติหน้าที่ออกจากพื้นที่ รวมถึง พ.ต.ท.ทวี ภาน้อย ผบ.ร้อย ตชด.237 อ.ท่าอุเทน

พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย หากเป็นการกระทำผิด ยืนยันว่าจะปฏิบัติตามระเบียบขั้นตอนของทางราชการเคร่งครัด และไม่มีการช่วยเหลือผู้ใต้บังคับบัญชา แต่ยืนยันว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ไม่มีเจตนา จะทำร้ายร่างกาย เพียงเกิดการกระทบกระทั่งขณะเข้าปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งยอมรับว่าส่วนหนึ่งเป็นความผิดพลาดในการทำงานไม่รัดกุมจนเกิดปัญหาขึ้น จึงเปิดแถลงข่าวเพื่อความชัดเจนต่อสังคม และไม่ให้กระทบต่อการทำงานของตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่เคร่งครัด สร้างความมั่นใจต่อประชาชน ลดความขัดแย้ง

ด้านนางพรนภัส บุญเทียม อายุ 46 ปี ตัวแทนผู้ปกครอง ได้เข้ารับฟังการแถลงในครั้งนี้ กล่าวว่า ยอมรับว่า สบายใจ อุ่นใจมากขึ้น หลังผู้บังคับบัญชาระดับสูงให้ความสำคัญต่อปัญหาชาวบ้าน และพร้อมจะให้อภัย ในการออกมาเรียกร้องไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่น อยากให้เกิดมาตรฐานในการทำงานของตำรวจ รวมถึงสร้างความมั่นใจความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

ส่วนบุตรหลานทั้ง 6 คนยอมรับมีการกระทำผิดตามวัยคึกคะนอง หากจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายรับได้ เพียงขอให้เป็นไปตามกระบวนการ และขอขอบคุณที่ตำรวจให้โอกาสที่จะให้ลูกหลานเข้าสู่กระบวนการ บำบัดฟื้นฟู ทุกคนพอใจไม่ได้ติดใจจะเรียกร้องอะไรอีก

ด้าน พ.ต.อ.สุภัทร ม่วงสมัย รอง ผบก.ตชด.ภาค 2 เปิดเผยว่า ยอมรับว่าการทำงานปราบปรามยาเสพติดในช่วงเวลาสำคัญที่เข้าตรวจค้นปิดล้อมอาจกระทบกระทั่งกัน เนื่องจากกลุ่มเยาวชนอาจขัดขืน หรือตกใจพยายามหนี แต่ยอมรับว่าตำรวจยังทำงานบกพร่องไม่รัดกุม จึงได้มอบหมายให้ผู้บังคับบัญชาทุกหน่วยกำชับให้ทุกนายทำงานด้วยความรัดกุม มีมาตรฐานในการทำงาน ไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำอีก ส่วนการดำเนินการทางวินัย หากทำงานบกพร่องจะต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบตามขั้นตอน หากกระทำผิดจะต้องได้รับการลงโทษ และมีคำสั่งย้ายตำรวจทั้ง 10 นายออกจากพื้นที่แล้ว

รวมถึง ผบ.ร้อย.ตชด.237 จะต้องรับผิดชอบ ในฐานะผู้กำกับดูแล ที่สำคัญขอให้พ่อแม่ผู้ปกครองมั่นใจ ทาง ตชด.จะให้ความเป็นธรรมทุกคน และขอให้มั่นใจในความปลอดภัย และจะกำชับการทำงานตำรวจไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำอีก ขอบคุณพ่อแม่ ผู้ปกครองที่เข้าใจ และยังคงให้ความเชื่อมั่นในหน่วยงานตำรวจ ตชด. ซึ่งถือเป็นหน่วยงานที่ดูแลประชาชนใกล้ชิดมาตลอด ขอให้มั่นใจว่าหากใครก็ตามในสังกัดกระทำผิดต้องถูกลงโทษตามระเบียบวินัยทุกนาย


กำลังโหลดความคิดเห็น