พะเยา - ตำรวจกองเมืองพะเยาชงสำนวนคดีพระลูกวัดพระธาตุจอมทองส่งอัยการฯ แล้ว ฐานทำลายโบราณสถาน-สั่งคนขุดฐานเจดีย์เก่าแก่อายุกว่า 700 ปีค้นหาศิลาจารึก “ครูบาศรีวิชัย” ขณะที่เจ้าตัวปฏิเสธข้อกล่าวหา
ความคืบหน้าคดีพระลูกวัดพระธาตุจอมทอง หมู่ 17 ต.ต่อม อ.เมืองพะเยา ที่ลักลอบทำการขุดฐานเจดีย์ หรือพื้นประทักษิณบุรี พระธาตุจอมทอง ซึ่งเป็นการทำลายโบราณสถานอันศักดิ์สิทธิ์ อายุกว่า 700 ปี ที่ชาวพะเยาเคารพบูชา จนชาวบ้านรวมตัวแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการคดีต่อผู้ลักลอบขุดให้ถึงที่สุด
หลังจากกลุ่มชาวบ้านได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.ศักดา หลวงภา รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมือง พะเยา ให้ดำเนินคดีผู้ที่ทำการลักลอบขุด เมื่อ 18 ธ.ค. 61 ต่อมาวันที่ 24 ธ.ค. กรมศิลปากรที่ 7 ได้มอบหมายให้นายเทอดศักดิ์ เย็นจุระ อายุ 42 ปี นายช่างเทคนิคอาวุโส ประจำสำนักศิลปากรที่ 7 จังหวัดเชียงใหม่ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพะเยา
ร.ต.อ.ศักดา หลวงภา รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพะเยา ได้ออกหมายเรียกพระลูกวัดพระธาตุจอมทองมารับทราบข้อกล่าวหา ตามคดีอาญาที่ 149 ทับ 2562 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2562 ในความผิดฐานบุกรุกโบราณสถานหรือทำให้เสียหายทำลายทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้เสียหายไร้ประโยชน์ ซึ่งโบราณสถาน และซ่อมแซมแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือรื้อถอนต่อเติม ทำลายเคลื่อนย้ายโบราณสถานหรือส่วนต่างๆ ของโบราณสถานหรือขุดค้นหาสิ่งของใดๆ หรือปลูกสร้างอาคารภายในโบราณสถานโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ ตามแนวทางการสืบสวน พบว่าเหตุเกิดเมื่อประมาณเดือนกันยายน 2561 เวลากลางวัน ผู้ต้องหาได้ว่าจ้างให้นายสมนึก และนายไกรสร (พยาน) ให้มาปูกระเบื้องบริเวณพระธาตุจอมทอง ที่กรมศิลป์ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติไว้แล้ว และขณะที่พยานทั้งสองปูกระเบื้องอยู่นั้น ผู้ต้องหาได้ให้พยานทั้ง 2 คนขุดดินบริเวณประทักษิณ พระธาตุจอมทอง ด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นแนวไว้ให้
ต่อมาผู้ต้องหาได้ทำการขุดดินบริเวณดังกล่าวขยายกว้างขึ้น โดยมีเจตนาเพื่อจะขุดค้นหาศิลาจารึกของครูบาศรีวิชัย ที่มีตำนานเล่าต่อสืบกันมาว่าได้นำมาฝังไว้บริเวณพระธาตุดังกล่าว โดยไม่ได้ขออนุญาตจากกรมศิลปากรก่อนแต่อย่างใด ทำให้พระธาตุจอมทองได้รับความเสียหายเสื่อมคุณค่าทางศิลปะ
อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาได้ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาหลังจากเข้ามอบตัว พนักงานสอบสวนก็ได้ปล่อยตัวไปชั่วคราว พร้อมกับสอบพยานบุคคล และพยานหลักฐานเพิ่มเติม หลังจากนั้นนำสำนวนส่งให้พนักงานอัยการเพื่อดำเนินการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป
