บุรีรัมย์ - กรมเจ้าท่าเร่งขุดลอกเปิดร่องระบายน้ำมูล อ.สตึก บุรีรัมย์ หลังตื้นเขินจนเห็นสันดอนทรายโผล่ กระทบ 4 หมู่บ้านไม่มีน้ำผลิตประปา ทั้งเสนอสร้างเขื่อนกั้นตลิ่งพัง ป้องกันปัญหาน้ำมูลตื้นเขินซ้ำซาก
วันนี้ (13 ก.พ.) สถานการณ์น้ำในลำน้ำมูลที่ไหลผ่าน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้ลดระดับลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่ต้นปีแม้ยังไม่เข้าสู่หน้าแล้ง โดยเฉพาะบริเวณบ้านท่าม่วง ต.ท่าม่วง ที่ชาวบ้านต้องอาศัยน้ำมูลเป็นแหล่งน้ำดิบสำหรับผลิตประปาเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภค ขณะนี้ปริมาณน้ำได้ลดต่ำลงอย่างน่าตกใจจนมองเห็นสันดอนทรายโผล่ ทำให้ส่งผลกระทบต่อราษฎรในพื้นที่ 4 หมู่บ้าน คือ บ้านท่าม่วง ม.1, บ้านท่าม่วง ม.11, บ้านสำโรง ม.3 และบ้านโพนเงิน ม.10 ไม่มีน้ำดิบในการผลิตประปาบริการประชาชน
ล่าสุดองค์การบริหารส่วนตำบลท่าม่วงได้ทำเรื่องขอความช่วยเหลือไปยังศูนย์พัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 8 กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม เพื่อจัดส่งเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรมาดำเนินการขุดลอกเปิดร่องระบายน้ำบริเวณบ้านท่าม่วง ระยะทางเกือบ 2 กิโลเมตร ให้มีความลึกและกว้างมากขึ้น เพื่อสามารถกักเก็บน้ำได้เพิ่มขึ้น เป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ราษฎรทั้ง 4 หมู่บ้านได้มีน้ำอุปโภคบริโภคตลอดช่วงหน้าแล้งนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการขุดลอก คาดว่าจะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้
ด้าน นายธนสาร เยี่ยมรัมย์ นายก อบต.ท่าม่วง กล่าวว่า ในพื้นที่ตำบลท่าม่วงมีหมู่บ้านที่ใช้น้ำมูลเป็นน้ำดิบในการผลิตประปาอยู่ 5 หมู่บ้าน ขณะนี้ได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำมูลที่ตื้นเขินไม่มีน้ำผลิตประปาแล้ว 4 หมู่บ้าน ซึ่งขณะนี้ได้ทำเรื่องขอความช่วยเหลือให้ทางกรมเจ้าท่ามาดำเนินการขุดลอกเปิดร่องระบายน้ำ เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านทั้ง 4 หมู่บ้านให้มีน้ำผลิตประปาแล้ว พร้อมทั้งขอความร่วมมือเกษตรกรให้งดปลูกข้าวนาปรังในช่วงหน้าแล้งเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตขาดแคลนน้ำด้วย
ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาวก็ได้ทำเรื่องเสนอกรมเจ้าท่าเพื่อสร้างเขื่อนกั้นตลิ่งพังป้องกันไม่ให้ทรายไหลลงมาทับถมลำน้ำมูลจนเกิดปัญหาน้ำตื้นเขินอีก เพราะที่ผ่านมาต้องใช้งบประมาณในการขุดลอกน้ำมูลเพื่อเปิดร่องระบายน้ำครั้งละกว่า 1 ล้านบาท หากไม่มีการแก้ปัญหาระยะยาวชาวบ้านก็ต้องเผชิญภัยแล้งซ้ำซากทุกปี