เลย - ผอ.สพป.เลยเขต 1 สั่งเด้งแล้ว ผอ.โรงเรียนบ้านห้วยผักกูด เปิดทางให้คณะกรรมการตรวจสอบ หลังถูกผู้ปกครองและครู ร้องเรียนพฤติกรรมไม่เหมาะ ก๊งสุราร้านค้าข้างโรงเรียน ทั้งไม่สนใจจัดหาหนังสือเรียน ยันให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
วันนี้ (28 ม.ค. 62) ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 1 อ.เมืองฯ จ.เลย ดร.รอง ปัญสังกา ผอ.สพป.ลย.1 ได้ออกหนังสือด่วนสั่งเด้งฟ้าผ่า นายโกวิทย์ พรหมหาราช ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยผักกูด อ.ปากชม จ.เลย จากกรณีถูก น.ส.อรทัย แสงจันทร์ ครูผู้ช่วยโรงเรียน เป็นครูประจำชั้นอนุบาล 1-2 พร้อมกับผู้ปกครอง ได้ร้องเรียนสื่อถึงพฤติกรรมของ ผอ.โรงเรียน และครูดูแลงานพัสดุ ที่ไม่ดำเนินการตามระเบียบงานพัสดุใดๆ ส่งกระทบทำให้เด็กนักเรียนไม่มีหนังสือเรียน ตั้งแต่นักเรียนชั้นอนุบาล ถึง ป.6 ตั้งแต่เทอมแรกจนเข้าเทอมที่ 2 อีก 2 เดือนกว่าก็จะสอบแล้ว สุดท้ายนักเรียนก็ยังไม่มีหนังสือเรียน นอกจากนี้ยังมีการสร้างอาคารที่ใหม่พื้นห้องเรียนกลับเป็นหลุมเป็นบ่อทั้งตึก แต่ผู้อำนวยการโรงเรียน กลับไม่สนใจ ตกบ่ายออกไปดื่มสุรากับร้านค้าข้างโรงเรียนเกือบทุกวัน
ทั้งนี้ หนังสือคำสั่งที่ 3/2562 เรื่องให้ข้าราชการไปปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว โดยระบุว่า ด้วยคำสั่งสำนักเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 1 ได้สืบข้อเท็จจริงกรณีที่มีผู้อำนวยการสถานศึกษา ถูกร้องเรียนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม คือนายโกวิทย์ พรหมหาราช ผอ.ร.ร.บ้านห้วยผักกูด อ.ปากชม จ.เลย เพื่อให้การดำเนินการเบื้องต้นได้ข้อเท็จจริง เพราะอยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการสืบสวนหาข้อเท็จจริง ลดความขัดแย้ง จึงให้ไปปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวที่ โรงเรียนบ้านปากปัด ต.ห้วยพิชัย อ.ปากชม จ.เลย
ดร.รอง ปัญสังกา ผอ.สพป.ลย.1 เปิดเผยว่า หลังจากได้ทราบเรื่องจากสื่อ ตนเองก็ได้ลงไปตรวจสอบพื้นที่ ได้เข้าตรวจสอบ ตั้งแต่วันแรกที่ทราบเรื่อง และได้พูดคุยกับคู่กรณีและผู้ที่เกี่ยวข้อง ตนได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งเรื่องการซื้อหนังสือเรียน การจัดซื้อจัดจ้างการสร้างอาคาร
จากการตรวจสอบพบว่าอาคารเรียนเป็นหลุมเป็นบ่อจริง ทั้งเป็นฝุ่นที่เกิดจากปูน ส่วนการตรวจสอบกรณีเด็กไม่มีหนังสือเรียน ตนได้ให้คณะกรรมการเข้าตรวจสอบเรื่องตำราเรียน แต่ใบรายงานยังไม่ทราบว่ามีข้อบกพร่อง เรื่องนี้ต้องสืบหาข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการที่ตนแต่งตั้ง ให้ตรวจสอบเรื่องนี้ โดยได้กำชับให้คณะกรรมการทำงานเร่งด่วนสืบเสาะหาข้อเท็จจริงออกมาโดยเร็ว คาดว่า 1-2 วันน่าจะแล้วเสร็จ แต่ระหว่างที่ให้คณะกรรมการลงตรวจสอบให้ความเป็นธรรมทั้งคู่ วันนี้ได้เซ็นคำสั่งด่วนให้ย้าย ผอ.ออกจากพื้นที่ไปก่อน เพื่อให้เกิดความเป็นระหว่างการสอบสวน
