จีนขยับ ส่งผู้แทนพิเศษเข้าเชียงใหม่ หารือ“เจ้ายอดศึก-กลุ่มผู้นำไทใหญ่”หาทางยุติขัดแย้งในรัฐฉาน

เชียงใหม่ – รัฐบาลจีน ขยับส่งผู้แทนพิเศษกิจการเอเชีย เปิดหารือ “เจ้ายอดศึก-กลุ่มผู้นำไทใหญ่” ถึงเชียงใหม่ ร่วมหาทางยุติความขัดแย้งในรัฐฉาน หลังชนกลุ่มน้อยรบกันหนัก ขณะที่พม่าออกประกาศขีดเส้นกลุ่มชาติพันธุ์กลับที่ตั้ง 12 กุมภาฯนี้

รายงานข่าวแจ้งว่า จีนเพิ่มบทบาทในกระบวนการสันติภาพเมียนมามากขึ้น โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา ซุน กั๋วเสียง ผู้แทนพิเศษกิจการเอเซีย กระทรวงต่างประเทศ จีน ได้นัดพบกับ พล.อ.เจ้ายอดศึก ประธานสภากอบกู้รัฐฉาน(RCSS) ณ สถานที่แห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่

คณะของเจ้ายอดศึกมี 8 คน ที่สำคัญมีเจ้าจายเงิน เลขาธิการ(2) และเจ้ายอดเมือง ผู้จัดการสำนักประสานงานต่างประเทศ ส่วนคณะฝ่ายจีนมี 4 คน

หัวข้อการสนทนาเป็นเรื่องกระบวนการสันติภาพในเมียนมา การสู้รบที่เกิดขึ้นในภาคเหนือของรัฐฉาน รวมถึงสถานการณ์ในรัฐยะไข่

เจ้าจายเงิน ได้อธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้แก่ผู้แทนพิเศษกิจการเอเซียของจีนว่า นับแต่รัฐบาลเมียนมาได้จัดการประชุมผู้นำกลุ่มต่างๆในโอกาศครบรอบ 3 ปีการลงนามสัญญาหยุดยิงทั่วประเทศ(NCA)เมื่อกลางเดือนตุลาคมปีที่แล้ว สถานการณ์ในเมียนมายิ่งทวีความตึงเครียดมากขึ้น

เพราะในที่ประชุมครั้งนั้น กองทัพพม่าพยายามเน้นย้ำใน 2 เรื่อง ได้แก่ เรื่องที่ไม่ต้องการให้แต่ละชาติพันธุ์มีกองกำลังเป็นของตนเอง โดยให้ในสหภาพเมียนต้องมีกองทัพเพียงกองทัพเดียว และเรื่องที่ไม่ให้แต่ละชาติพันธุ์แยกตัวเป็นอิสระออกจากสหภาพเมียนมาในอนาคต

ทั้ง 2 เรื่อง แต่ละชาติพันธุ์ไม่ยอมรับ เพราะไม่ได้เป็นประเด็นซึ่งถูกระบุไว้ใน NCA ที่ได้ลงนามกับรัฐบาลเมียนมาไว้เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2558 ในยุคของประธานาธิบดีเต็งเส่ง ทำให้นับแต่ปลายเดือนตุลาคมเป็นต้นมา ได้มีการสู้รบระหว่างกองทัพพม่ากับกองกำลังชาติพันธุ์ และการสู้รบของกองกำลังชาติพันธุ์ด้วยกันเองหลายๆกลุ่ม เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้

ซุน กั๋วเสียง กล่าวว่าจีนพร้อมช่วยเหลือ โดยเป็นตัวกลางผลักดันกระบวนการสันติภาพให้เดินหน้า บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย

เขาบอกว่ารัฐบาลจีนมีแผนจะเชิญตัวแทนรัฐบาลเมียนมา กองทัพพม่า และผู้นำกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ เดินทางไปศึกษาดูงานในจีน ซึ่งเป็นประเทศใหญ่ ประกอบด้วยหลายกลุ่มชาติพันธุ์ แต่สามารถอาศัยอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบ

ผู้แทนพิเศษกิจการเอเซียของจีนบอกว่า การสร้างสันติภาพไม่สามารถคืบหน้าได้โดยการใช้อาวุธ แต่ต้องใช้การเจรจา จึงจะประสพความสำเร็จได้

ซุน กั๋วเสียง เป็นตัวแทนของจีนที่เข้ามามีบทบาทในกระบวนการสันติภาพเมียนมาในหลายๆเรื่อง เขาเป็น 1 ใน 6 ตัวแทนประเทศ/องค์กร ที่ได้รับเชิญเป็นสักขีพยานอย่างเป็นทางการในพิธีลงนามใน NCA เพิ่มเติมที่รัฐบาลเมียนมา ทำกับพรรครัฐมอญใหม่(NMSP) และกลุ่มลาหู่(LDU) ระหว่างวันที่ 12-13 กุมภาพันธ์ปีที่แล้ว

นอกจากนี้ เขายังเป็นตัวแทนของจีนที่เข้าไปมีบทบาทในสถานการณ์ความขัดแย้งในรัฐยะไข่ นับแต่เริ่มเกิดความรุนแรงขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม 2559 โดยเป็นผู้ประสานงานให้รัฐบาลบังคลาเทศมีการเจรจากับรัฐบาลเมียนมาในเรื่องนี้

ในวันเดียวกับที่ผู้แทนพิเศษกิจการเอเซียของจีนได้พบกับคณะของเจ้ายอดศึกนั้น กองทัพพม่าได้ออกประกาศเตือนให้กองกำลังชาติพันธุ์ทุกกลุ่ม ถอนทหารที่ออกไปเคลื่อนไหวอยู่นอกพื้นที่ของตน ให้กลับเข้าที่ตั้ง โดยขีดเส้นตายให้ทุกกลุ่มต้องดำเนินการให้เสร็จภายในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้

ประกาศนี้ อ้างเหตุผลว่า เพื่อให้การสู้รบระหว่างกองกำลังชาติพันธุ์ต่างๆที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ยุติลง จะได้เกิดสันติภาพอย่างถาวรขึ้นภายในประเทศ

ในประกาศได้ยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 21 ธันวาคมปีที่แล้ว จนถึงวันที่ 24 มกราคม โดยช่วงเวลาเพียง 1 เดือน ได้เกิดการสู้รบระหว่างกองกำลังชาติพันธุ์ด้วยกัน 13 ครั้ง ทหารของกองกำลังชาติพันธุ์มีความเคลื่อนไหวที่เป็นการฝ่าฝืนข้อตกลง 168 ครั้ง มีการเรียกเก็บผลประโยชน์จากชาวบ้าน 10 ครั้ง มีการเกณฑ์คนเข้าเป็นทหารใหม่ 20 ครั้ง และยังมีการซุ่มโจมตีทหารพม่า 10 ครั้ง

เหตุการณ์เหล่านี้ กองทัพพม่าระบุว่าเป็นการฝ่าฝืนข้อตกลงสันติภาพ ที่กองกำลังต่างๆเคยลงนามไว้กับรัฐบาลเมียนมา