สลด! หนุ่มก่อสร้างพาลูกเมียไปขึ้นรถไฟเที่ยวกรุงเทพฯ ในเทศกาลปีใหม่ หน้ามืดตกเรือจมน้ำดับ

พระนครศรีอยุธยา - สลด! หนุ่มก่อสร้างกลับบ้านหาลูกเมียช่วงปีใหม่ กำลังพาลูกเมียไปขึ้นรถไฟเที่ยวกรุงเทพฯ พอนั่งเรือออกจากบ้านหน้ามืดตกเรือจมน้ำดับต่อหน้าลูกเมีย

วันนี้ (30 ธ.ค.) ร.ต.อ.มาลา แย้มชม รอง สว.(สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรบางปะอิน รับแจ้งมีเหตุชาวบ้านตกเรือจมน้ำเสียชีวิต เหตุเกิดภายในคลองบ้านสร้าง หมู่ที่ 8 ตำบลบ้านสร้าง อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงประสานเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสมาคมอยุธยารวมใจ กู้ภัยอยุธยา จัดชุดประดาน้ำออกตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุเป็นคลองบ้านสร้าง กว้างประมาณ 150 เมตร ลึกประมาณ 20 เมตร บริเวณกลางคลองเป็นจุดที่มีผู้สูญหายไป ทางเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจจัดชุดประดาน้ำลงงมค้นหาผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ใช้เวลากว่า 30 นาที จึงพบศพ จากนั้นได้นำศพขึ้นมาบนฝั่งเพื่อชันสูตรเบื้องต้น ทราบชื่อคือ นายฉัตรชัย เหวชัยภูมิ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93 หมู่ที่ 4 ตำบลโสกปลาดุก อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ สภาพสวมใส่เสื้อสีน้ำตาล กางเกงยีนส์สีดำ ไม่พบบาดแผลตามร่างกาย

สอบถาม นางอัจฉราพร จำเนียรพล อายุ 33 ปี ภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านสร้าง อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวด้วยน้ำตาว่า บ้านของตนเองอยู่กลางคลองบ้านสร้าง ต้องใช้เรือเป็นพาหนะในการเข้าออก และเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวาน ผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นสามีของตนเองทำงานก่อสร้าง ได้เดินทางมาจากจังหวัดชลบุรี มาหาลูกเมีย ช่วงเทศกาลปีใหม่วันหยุดยาวเป็นประจำ และเมื่อคืนสามีบอกตนว่า พรุ่งนี้ตื่นแต่เช้าจะพาลูกชายและตนนั่งรถไฟจากสถานีรถไฟอยุธยา ไปลงสถานีรถไฟหัวลำโพง เพื่อพาไปเที่ยวและหาญาติอยากให้ลูกได้นั่งรถไฟเที่ยวแทนการนั่งรถประจำทางเพื่อสัมผัสบรรยากาศนั่งรถไฟสักครั้งในวันเด็ก

จากนั้นช่วงเช้าทุกคนตื่นขึ้นมาแต่งตัวแล้วให้ญาติที่อยู่บ้านติดกันช่วยพายเรือข้ามฝั่งไปส่งขึ้นบนศาลา ผู้ตายนั่งอยู่ท้ายเรือ และลูกชายคนเล็กของตนนั่งกลาง พอออกจากบ้านได้ไม่ถึง 20 เมตร ผู้ตายได้เอียงตัวเหมือนจะร่วงน้ำลงไป ลูกชายจึงได้ดึงขาไว้แต่ไม่ทัน สามีตกน้ำหายไปต่อหน้าลูกเมีย จึงได้รีบโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมาช่วยงมค้นหา จึงพบร่างพบว่าเสียชีวิตแล้ว

ส่วนสาเหตุนั้นคาดว่า สามีของตนอาจจะเป็นลมหน้ามืดขณะนั่งเรือจึงเกิดเหตุดังกล่าว ตนกับลูกชายอายุ 9 ปี เสียใจเป็นอย่างมากเพราะสามีเป็นคนขยันรักครอบครัว จะโทรศัพท์คุยกันเป็นประจำทุกวัน ต่อไปตนเองและลูกชายต้องสูญเสียเสาหลักของครอบครัวไปแล้วแบบตั้งตัวไม่ทัน

เบื้องต้น ทางเจ้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรบางปะอิน ให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครสมาคมอยุธยารวมใจ กู้ภัยอยุธยา นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดปทุมธานีอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมทั้งสอบสวนพยานเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป