รวบหนุ่มใหญ่เมืองชล เล่นโปรแกรมหาคู่ ตีสนิทเยื่อก่อนลวงข่มขืนทุบตีข่มขู่เรียกเงิน

พระนครศรีอยุธยา - รวบหนุ่มใหญ่เมืองชล เล่นโปรแกรมหาคู่เจอเหยื่อทำตีสนิทก่อนลวงข่มขืนทุบตีข่มขู่เรียกเงินแล้วปล่อยเหยื่อทิ้ง พบก่อเหตุมาแล้วหลายรายล่าสุดจับได้หลังลุกสาวแจ้งความแม่หาย พบมีการกดเงินที่อยุธยา

จากกรณีนายนรินทร์ ถ่ายสูงเนิน อายุ 32 ปี ชาว อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา พร้อมญาติ ได้มาร้องสื่อมวลชนเพื่อให้ช่วยประกาศหาผู้เป็นแม่ คือนางสนอง ถ่ายสูงเนิน อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที 127 หมู่ 10 ต.สูงเนิน อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ภายหลังจากที่หายตัวไปตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 13 ธันวาคม 2561 และพบว่าในบัญชีธนาคารของนางสนอง ถูกกดเงินสดออกจากตู้ ATMไป 150,000บาท ซึ่งเป็นเงินจำนวนมากอย่างผิดสังเกต ซึ่งญาติสงสัยว่าอาจจะเกิดอันตรายกับนางสนอง จึงได้นำเรื่องไปแจ้งความไว้ที่ สภ.สูงเนิน เมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมานั้น

ล่าสุดวันนี้ (18 ธ.ค.)พ.ต.ท.เศรษฐภัทร เรือวานิช รอง ผกก.สส.สภ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ต.เสกสรร องอาจ สว.กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ร.ต.อ.ธีรภัทร ไวยครุฑธี รอง สว.กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ร.ต.อ.ชาตรี สุขยิ่ง รอง สวป.ช่วยงานสืบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเข้าค้นภายในบ้านหลังหนึ่ง ในตำบลธนู อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังพบเบาะแสของชายผู้ต้องสงสัย ที่ลักพาตัวนางสนองหายไปจากบ้าน

ได้เข้าทำการตรวจค้นพบนายเอราวัน คุมภวิภาษ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 197/1 ถ.บางแสนล่าง ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี ผู้ต้องหา พร้อมทั้งตรวจยึดเงินสด จำนวน 190000 บาท โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง สมุดธนาคาร อาวุธค้อน และรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม๊ก สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียนป้ายแดง นำไปตรวจสอบพร้อมนำตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา

เบื้องต้นนายเอราวัน อ้างว่าได้รู้จักกับผู้เสียหาย ผ่านเว็ปไซต์หาคู่ Thai dating และได้นัดเจอพูดคุยกันมาตลอดกว่า 7 เดือน และแวะมาหานางสนองบ่อยครั้งที่ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ก่อนที่จะตีสนิทกับนางสนอง และทำการล่อหลอกให้ผู้เสียหายออกมา ก่อนบังคับข่มขู่ ไปเมื่อช่วงเย็นวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา และได้พาผู้เสียหายไปเปิดโรงแรมนอน ที่ จ.สระบุรี โดยตนเองได้พาลูกชายทั้ง2 คน ติดรถมาด้วย

ในวันรุ่งขึ้นได้นำบัตร ATM ของนางสนองไปกดเงินที่ตู้ ATM ในปั๊มน้ำมัน ปตท.ในพื้นที่ ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นจำนวนเงิน 150,000 บาท จากนั้นตนเองก็พาผู้เสียหายเดินทางไป จ.สมุทรสาคร แล้วทำการทุบตีโดยใช้อาวุธค้อน ทุบตีผู้เสียหายจนได้รับบาดเจ็บแล้วปล่อยตัวผู้เสียหายไว้ที่ร้านอาหาร ใน จ.สมุทรสาคร หลังจากนั้นตนก็ขับรถกระบะพร้อมลูกชาย2 คน เดินทางมาหาผู้เสียหายอีกคนที่รู้จักกันผ่านเว็ปไซต์หาคู่ Thai datingได้2 อาทิตย์ โดยบอกว่ามาบ้านญาติ ใน อ.อุทัย แต่ขอมาอาบน้ำที่บ้านของผู้เสียหายก่อนมาถูกตำรวจตามจับกุมดังกล่าว

พ.ต.ท.เศรษฐภัทร เรือวานิช รอง ผกก.สส.สภ.พระนครศรีอยุธยา เผยว่า สำหรับพฤติกรรมของคนร้ายรายนี้ได้หลอกเหยื่อมาแล้ว 6 ราย โดยจะใช้วิธีผ่านเว็ปไซต์หาคู่ Thai dating และได้นัดเจอพูดคุยกันกับผู้เสียหาย แล้วออกอุบายล่อลวงเหยื่อให้ตายใจ จนให้เหยื่อแต่ละรายออกมาพบข้างนอก จากนั้นก็จะทำร้ายร่างกายตบตี และบังคับข่มขืนเหยื่อเกือบทุกรายและถ่ายคลิปไว้แบล็คเมล์ หากเหยื่อไปแจ้งความ พร้อมทั้งบังคับให้เหยื่อบอกรหัส บัตรเอทีเอ็มเพื่อไปกดเงิน

ต่อมา พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 เดินทางลงพื้นที่ สถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับสอบปากคำ นายเอราวัน ผู้ต้องหาด้วย พร้อมกล่าวว่า อยากฝากเตือนให้ระวังตัวกันเยอะ ใครเข้ามาพูดจาดี ทำดี แต่ไม่รู้จักกันมาก่อน ผลสุดท้ายก็คือมาเอาเงิน อะไรก็แล้วแต่ที่เอาเงินออกจากกระเป๋า ให้คิดให้หนักอย่าให้ ถ้าสงสัยให้โทร 1155 หรือ 191 ก่อนที่จะสูญเงินแสน และเสียใจภายหลัง

ด้านนางสนอง ถ่ายสูงเนิน อายุ 58 ปี อาชีพพยาบาล เป็นหนึ่งในเหยื่อรายล่าสุด ที่ถูกนายเอราวัน ลวงไปทำร้ายจิตใจ และทุบตีข่มขู่เรียกเงินแล้วปล่อยเหยื่อทิ้ง เดินทางมาถึงสถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา โดยมี ร.ต.อ.สุภาพ บัวประสม รอง.สว.สส.สภ.เมืองสมุทรสาคร พร้อมชุดสืบสวน พามาหลังจาก พาผู้เสียหายไปรักษาบาดแผล ที่จากโรงพยาบาลสมุทรสาคร เนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากการที่ถูก นายเอราวัน ทำร้ายร่างกาย ศีรษะแตก นิ้วมือมีบาดแผล รวมถึงตามร่างกายมีรอยเขียวช้ำหลายแห่งเนื่องจาก ถูกค้อนทุบตี และเดินทางมาสอบปากคำ ให้การเพิ่มเติม และชี้ตัวผู้ต้องหา

นางสนอง เล่าว่าถูกทำร้ายร่างกาย ทั้งทุบที่ท้อง และศีรษะ ตามร่างกายโดยใช้ค้อน ส่วนสาเหตุที่ถูกทำร้ายเนื่องจากนายเอราวัน คิดว่าเราไปอายัดบัตรเอทีเอ็ม ทำให้โกรธที่กดเงินไม่ได้ จากนั้นพาไปที่สมุทรสาคร กักขังหน่วงเหนี่ยว ก็เลยหนีออกมา และทุบตี ไม่กล้าเรียกให้ใครช่วยกลัวเขาตื่นขึ้นมาจะทุบหัวตาย

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบสวนอย่างละเอียดและรวบรวมข้อมูลทั้งหมด เนื่องจากผู้ต้องหาก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งในหลายพื้นที่ เพื่อเตรียมตั้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้เชื่อว่าผู้ต้องหาจะก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง ถ้าผู้ใดเคยถูกผู้ต้องหารายนี้กระทำการคล้ายกัน สามารถแจ้งความได้ในพื้นที่ที่ถูกก่อเหตุเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายนี้เพิ่มเติมต่อไป