xs
xsm
sm
md
lg

สุดทน! พ่อ-พี่สาวพา นศ.ปวส.1 ม.ดังเชียงใหม่แจ้งดำเนินคดีรุ่นพี่รับน้องโหดหลังไร้ท่าทีสำนึก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - พ่อและพี่สาวพา นศ.ปวส.ปี 1 ม.ดังเชียงใหม่ขึ้นโรงพักแจ้งความเอาผิดรุ่นพี่ที่รับน้องโหด ยันดำเนินคดีถึงที่สุดเพราะตั้งแต่เกิดเรื่องยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ แถมผู้เสียหายถูกกดดันหนัก พร้อมเตรียมย้ายหาที่เรียนใหม่




จากกรณีที่พี่สาวและเป็นผู้ปกครองของนักศึกษา ปวส.ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา โพสต์เปิดเผยเรื่องราวที่น้องชายอายุ 19 ปี โดนรุ่นพี่ในสถาบันแหกกฎพาไปรับน้องนอกสถานที่ช่วงกลางคืนบริเวณกลางทุ่งนาแห่งหนึ่งในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ นานหลายชั่วโมง แล้วกลับมาในสภาพที่มีบาดแผลเต็มตัว และโรคประจำตัวกำเริบ ซึ่งหลังเกิดเรื่องได้ร้องเรียนต่อทางสถาบันและแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว


สายวันนี้ (7 ธ.ค. 61) ที่สถานีตำรวจภูธรแม่ริม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ นักศึกษา ปวส.ชั้นปีที่ 1 ที่เป็นผู้เสียหาย พร้อมพ่อและพี่สาวได้เข้าพบพนักงานสอบสวนจะแจ้งความดำเนินคดีรุ่นพี่และศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยที่จัดกิจกรรมดังกล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว แต่ที่ผ่านมาทางฝ่ายผู้ก่อเหตุยังไม่เคยแสดงความรู้สึกสำนึกหรือติดต่อเข้ามาขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่รุ่นน้องที่เป็นผู้เสียหายพยายามกลับไปเรียนตามปกติแล้ว แต่ต้องอยู่เพียงลำพังคนเดียวเพราะถูกปฏิกิริยาจากเพื่อนร่วมรุ่นที่ไม่ยอมรับเข้ากลุ่ม จนเกิดความกดดันอย่างหนักและตัดสินใจว่าจะย้ายที่เรียนใหม่


นายกฤษธำรง วัฒนพานิช พ่อของนักศึกษารุ่นน้องที่เป็นผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ทางครอบครัวไม่ได้อยากดำเนินคดี แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยได้รับการติดต่อใดๆ จากรุ่นพี่ว่ารู้สึกเสียใจหรือขออภัยกับเรื่องที่เกิดขึ้น ขณะที่วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการนัดกลุ่มรุ่นพี่ที่ก่อเหตุมาเพื่อพูดคุยกันแต่กลับไม่มีผู้ใดมา จึงต้องการที่จะรักษาสิทธิ และจะได้มีการแจ้งความดำเนินคดีรุ่นพี่ดังกล่าว


ส่วนการเรียนของลูกชายนั้น หลังจากเกิดเหตุลูกชายได้ไปเข้าเรียนแต่พบว่าได้มีการแบ่งแยกกลุ่มอย่างชัดเจนจนทำให้ลูกของตนเกิดความกดดัน ซึ่งในเบื้องต้นครอบครัวเห็นว่าน่าจะพักการเรียนไว้ก่อน และในปีหน้าจึงจะหาที่เรียนใหม่ โดยยอมรับว่าเสียความรู้สึกมากเพราะตั้งใจส่งลูกชายเข้าเรียนในสถาบันแห่งนี้ ทั้งนี้มีความเห็นว่าการจัดกิจกรรมรับน้องใหม่นั้นทำได้แต่ควรทำในขอบเขตที่พอดี และมีรูปแบบที่ดี เช่น การพากันมาติวพิเศษหรือช่วยกันในเรื่องการเรียน ไม่ใช่การพามาทำโทษจนได้รับบาดเจ็บแบบนี้



ขณะที่นายจูน (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้กลับไปเรียนตามปกติ อย่างไรก็ตามพบว่าเพื่อนร่วมรุ่นมีการแสดงปฏิกิริยาให้เห็นอย่างชัดเจน โดยในช่วงเข้าชั้นเรียนตนต้องนั่งเรียนเพียงลำพังคนเดียว ขณะที่เพื่อนๆ คนอื่นไปรวมกลุ่มกันหมด ซึ่งตามความตั้งใจของตนตัดสินใจแน่นอนแล้วว่าน่าจะย้ายไปเรียนที่อื่น แต่จะยังมาเล่าเรียนตามปกติไปก่อนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการโอนย้ายหน่วยกิตไปเรียนที่อื่น





ทั้งนี้ ตั้งแต่เกิดเรื่องรุ่นพี่ที่ก่อเหตุยังไม่เคยติดต่อมาพูดคุยแสดงความเสียใจหรือขอโทษใดๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย ซึ่งจากการปรึกษากับทางครอบครัวแล้วได้ตัดสินใจร่วมกันว่าจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีรุ่นพี่ที่ก่อเหตุจนถึงที่สุด เพื่อรักษาสิทธิและเรียกร้องความถูกต้อง เพราะจากการพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนรุ่นเดียวกันที่เรียนในสถาบันอื่นๆ พบว่าไม่มีที่ใดที่มีการรับน้องเกินเลยขอบเขตและรุนแรงเหมือนที่ตนถูกกระทำ


ด้านเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมได้เข้ามาแจ้งสิทธิต่อผู้เสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 ในการพิจารณาจ่ายค่าทดแทนให้แก่ผู้เสียหายในการรักษาพยาบาล รวมทั้งค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจ โดยผู้เสียหายสามารถแจ้งความ และนำเอกสารมาขอใช้สิทธิได้ โดยทางกระทรวงยุติธรรมสามารถให้การช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลได้ตั้งแต่ 5,000-40,000 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น