พระนครศรีอยุธยา - ระทึก! เรือสปีดโบ๊ตจอดเสียอยู่ จู่ๆ เครื่องติดพุ่งชนเรือหางยาวนักท่องเที่ยว 2 ลำ ที่ท่าน้ำวัดพนัญเชิง ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย
เย็นวันนี้ (25 พ.ย.) ร.ต.ท.เดชาธร คำมิ่ง รอง สว.(สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุเรือสปีดโบ๊ตพุ่งชนเรือหางยาวโดยสารนักท่องเที่ยว มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เหตุเกิดบริเวณโป๊ะท่าเรือวัดพนัญเชิง ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมประสานแพทย์กู้ชีพโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และกำลังอาสาสมัครกู้ภัยอยุธยา มาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
ในที่เกิดเหตุพบรอยเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บถูกเจ้าหน้าที่แพทย์กู้ชีพโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา นำตัวส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา เร่งให้การรักษา ทราบชื่อผู้บาดเจ็บคือ นายเตชสิทธิ์ จั่นลิ้นลา อายุ 30 ปี เป็นคนขับเรือนักท่องเที่ยว ชื่อเรือเตชสิทธิ์ 2 ถูกใบจักรฟันที่ขาได้รับบาดเจ็บ ใกล้กันพบเรือรับนักท่องเที่ยวอีก 1 ลำ ชื่อเรือเกียรติชัยรุ่งเรือง 2 มี นายดิเรก ไวยโชติกา อายุ 40 ปี เป็นคนขับ และบริเวณใกล้เคียงกันพบเรือสปีดโบ๊ตสีขาว มี นายธนพล ณรงค์ประภาพัชร์ อายุ 47 ปี เป็นเจ้าของ
นายดิเรก คนขับเรือนักท่องเที่ยว กล่าวว่า ตนเองได้ขับเรือรับนักท่องเที่ยวมาจากเกาะเมือง เพื่อมาไหว้พระที่วัดพนัญเชิง จากนั้นได้นำเรือเทียบท่าบริเวณโป๊ะท่าเรือ โดยมีเรือของนายเตชสิทธิ์ จอดเทียบท่าอยู่ข้างๆ เพื่อนำผู้โดยสาร ขึ้นท่า โดยมายืนเกาะอยู่ตรงเรือของตนเอง
แต่เพียงครู่เดียวได้เกิดเหตุไม่คาดฝัน เมื่อมีเรือสปีดโบ๊ต สีขาวที่จอดอยู่บริเวณท่าโป๊ะอยู่ก่อนหน้าแล้ว ได้พุ่งชนเรือเตชสิทธิ์ 2 จากนั้นเรือก็มากระแทกกับเรือของตน ทำให้นายเตชสิทธิ์ คนขับเรือที่ยืนอยู่ตรงขอบเรือได้ร่วงลงน้ำ และถูกใบพัดเรือบาดเข้าที่บริเวณขา จนมีแผลฉกรรจ์ เลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก
สอบถาม นายธนพล ผู้ขับขี่เรือสปีดโบ๊ต กล่าวว่า ตนเองได้พาครอบครัวมาจากกรุงเทพฯ โดยขับเรือสปีดโบ๊ตลำดังกล่าว เพื่อมาไหว้พระที่วัดพนัญเชิง จากนั้นเรือได้เกิดขัดข้องและมีปัญหาตนจึงจอดเรือเพื่อแก้ไข แต่ขณะเกิดเหตุ เรือได้เกิดพุ่งไปชนเรือหางยาวของนักท่องเที่ยวที่กำลังจอดอยู่ จึงส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตนเองเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมที่จะชดใช้ค่าเสียหาย และจะไปดูแลผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลอย่างดีที่สุด
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนผู้บาดเจ็บ และผู้เห็นเหตุการณ์ รวมถึงผู้ขับขี่เรือสปีดโบ๊ตอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมเผย โชคดีที่ผู้โดยสารเรือหางยาวทั้ง 2 ลำไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
