ศูนย์ข่าวศรีราชา - ยังไม่น่าจบ!! ผู้เกี่ยวข้องกิจกรรมวิ่งมาราธอนฉาวเข้าชี้แจงรายละเอียดต่อศูนย์ดำรงค์ธรรม จ.ชลบุรีแล้ว ขณะที่ ผอ.รพ.ม.บูรพา ยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องการขายบัตรคอนเสิร์ต และไม่มีการขายบัตรวีไอพีใบละ 5 หมื่น
วันนี้ (8 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ เรือโทศตวรรษ อนันตกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้นัดหมายให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรม “เดิน-วิ่งการกุศล ชลบุรี มาราธอน 2018” ระดมทุนจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์มอบให้แก่โรงพยาบาลบูรพา ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา จนเกิดปัญหาต่างๆ มากมาย และล่าสุด ยังเกิดปัญหาเรื่องการมอบรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายให้แก่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา ที่ไม่ตรงกับยอดที่แจ้งต่อหน้าสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.ชลบุรี เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่าย เนื่องจากต้องการให้เรื่องราวความวุ่นวายต่างๆ ยุติลงด้วยดีว่า
ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ศูนย์ดำรงค์ธรรมจังหวัดชลบุรี ได้เรียกผู้ที่มีรายชื่ออยู่ในป้ายโฆษณาที่คณะผู้จัดกิจกรรมระบุว่าเป็นผู้ร่วมจัดงานเข้าสอบสวนเป็นรายบุคคล เช่น ตัวแทนจากสโมสรไลออนบางแสน-ชลบุรี สมาคมกีฬาจังหวัดชลบุรี และโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา ซึ่งในส่วนของสมาคมกีฬาฯ ได้ชี้แจงว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินบริจาคทั้งหมดแต่อย่างใด เพียงแต่ได้รับการติดต่อจาก ชมรมเดิน-วิ่งสวนหลวง ร.๙ ชลบุรี เพื่อขอใช้สัญลักษณ์ของสมาคมฯ ในการจัดกิจกรรมเท่านั้น
ส่วนสโมสรไลออนฯ ชี้แจงว่า เนื่องจากองค์กรเป็นองค์กรการกุศล ซึ่งเมื่อมีผู้ติดต่อให้เข้าร่วมกิจกรรมก็พร้อมให้การช่วยเหลือในการบริจาคเงินและหาสปอนเซอร์สนับสนุน โดยยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินบริจาคเช่นกัน
ผอ.รพ.ม.บูรพา แจงจากนี้ให้ฝ่ายนิติกร ม.บูรพา พิจารณาดำเนินการอย่างไร
นายแพทย์สุริยา โปร่งน้ำใจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา ได้แถลงต่อสื่อมวลชนที่ห้องประชุมพระรักษาเทพ ยืนยันว่า โรงพยาบาลได้รับเช็คเงินสดจากคณะผู้จัดงานเพียง 549,414.89 บาทเท่านั้น ส่วนกรณีที่นายกิตติภัทร ชลศรานนท์ ตัวแทนคณะผู้จัดกิจกรรมฯกล่าวอ้างว่า ได้มอบเงินให้แก่โรงพยาบาล จำนวน 1 ล้านบาทแล้วนั้น น่าจะหมายถึงเงิน จำนวน 456,100 บาท ซึ่งเป็นเงินบริจาคให้แก่โรงพยาบาลที่ประชาชนมอบผ่านชมรมเดิน-วิ่งฯ ซึ่งคณะผู้จัดกิจกรรมจะหมายรวมเป็นเงินรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายของการจัดกิจกรรมรวมทั้งสิ้น 1,005,514.89 บาทไม่ได้
ที่สำคัญก็ยังเป็นยอดเงินที่ไม่ตรงจำนวนกับที่ระบุในป้าย 3,467,515.89 บาท ที่มอบให้แก่ตนเองต่อหน้าสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งผู้จัดกิจกรรมอ้างว่ายอดเงินที่หายไปอยู่ในส่วนของการจำหน่ายบัตรคอนเสริต์ ราคา 3 พันบาท 2 พันบาท และ 1 พันบาท รวมทั้งการจำหน่ายบัตรที่นั่งวีไอพี จำนวน 48 ที่นั่งในราคา 5 หมื่นบาทนั้น ทางโรงพยาบาลยืนยันว่าไม่ได้รับเงินจากการจำหน่ายบัตรในราคา 3 พันบาท-1 พันบาทแต่อย่างใด
“ส่วนที่ผู้จัดงานอ้างว่าเงินที่หายไป 2.4 ล้านบาท เป็นราคาบัตรวีไอพี ที่โรงพยาบาลจำหน่ายในราคา 5 หมื่นบาทต่อที่นั่งนั้น ขอยืนยันว่าโรงพยาบาลไม่ได้ขายบัตรดังกล่าว แต่เป็นการมอบบัตรตอบแทนผู้ที่บริจาคเงินให้แก่โรงพยาบาล ตั้งแต่ 5 หมื่นบาทขึ้นไป โดยเป็นการมอบให้แก่ผู้ใจบุญที่มอบเงินให้แก่โรงพยาบาลตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 48 ราย และทางโรงพยาบาลได้แจ้งแก่ผู้จัดงานเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าบัตรในส่วนนี้ไม่มีการจำหน่าย ดังนั้น จะมาตีเป็นรายได้จากการขายบัตรวีไอพีไม่ได้เช่นกัน ส่วนเรื่องเงินส่วนที่เหลือขณะนี้ได้มอบหมายให้ฝ่ายนิติกร มหาวิทยาลัยบูรพา ซึ่งเป็นต้นสังกัดพิจารณาต่อไปว่าจะดำเนินการจากนี้อย่างไร” นายแพทย์สุริยา กล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดชลบุรี และรองผู้ว่าราชการจังหวัด ยังคงรอการเดินทางเข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องการจัดกิจกรรม และการมอบเงินส่วนที่เหลือให้แก่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา ที่ยังขาดอีกว่า 2.9 ล้านบาท จากคณะผู้จัดกิจกรรม ที่นัดหมายว่าจะเดินทางมายังศาลากลางจังหวัดชลบุรี ซึ่งหากมีความคืบหน้าอย่างไรจะรายงานให้ทราบอีกครั้ง
มีชื่อ ลุงตุ๊ก-ป้าเนียน เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวระดับสูงในจังหวัดชลบุรีว่า นอกเหนือจากคณะผู้จัดกิจกรรม “เดิน-วิ่งการกุศล ชลบุรี มาราธอน 2018” ที่มีผู้จัดกิจกรรมหลักอย่าง ชมรมเดิน-วิ่งสวนหลวง ร.๙ ชลบุรี แล้ว ยังมีชื่อของ “ลุงตุ๊ก และป้าเนียน” ที่เป็นผู้ร่วมจัดกิจกรรม และเป็นผู้ดูแลเกี่ยวกับการเงินทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมา ยังไม่เคยออกมาแสดงตัวว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรม และได้แต่ปล่อยให้ นายกิตติภัทร ชลศรานนท์ ตัวแทนคณะผู้จัดกิจกรรมฯ แบกรับการตอบคำถามทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว
