xs
xsm
sm
md
lg

ตร.อุตรดิตถ์ตั้งทีมสางคดีตุ๋นทำข้าวกล่อง “อัจฉริยะ” ติดต่อผู้เสียหายแจ้งกองปราบฯ ช่วย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อุตรดิตถ์ - รักษาราชการแทน ผบก.ภ.อุตรดิตถ์สั่งตั้งทีมเฉพาะกิจสางคดีชาววังกะพี้ถูกเบี้ยวสัญญาทำข้าวกล่องนับหมื่นกล่อง สูญเงินไปเป็นล้าน ขณะที่ “อัจฉริยะ” ต่อสายถึงผู้เสียหาย พร้อมช่วยพาเข้าแจ้งความกองปราบฯ



วันนี้ (7 พ.ย.) พล.ต.ต.พยูร์ ธนะศรีสืบวงศ์ รรท.ผบก.ภ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า นางธนิสร กุยแก้ว อายุ 42 ปี และนางจอก นุชศรี อายุ 60 ปี สองแม่ลูกชาวบ้านหมู่ 8 ต.วังกะพี้ อ.เมืองอุตรดิตถ์ ถูกหลอกเรื่องทำข้าวกล่องและน้ำดื่มส่งให้โรงงานแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก แต่โรงงานไม่เดินทางมารับของ ทำให้ผู้รับจ้างสูญเงินลงทุนไปเกือบ 1 ล้านบาท ถือเป็นเรื่องใหญ่ ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญอย่างมาก โดยกำชับให้ดำเนินการสอบสวน และดำเนินการทางคดีให้เรียบร้อยโดยเร็ว ล่าสุดจึงได้ตั้งทีมตำรวจภูธรจังหวัดฯ ลงไปทำการสอบสวนเรื่องนี้แล้ว และทราบว่าเป็นโรงงานอะไร มีส่วนเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการหลอกลวงด้วยหรือไม่ และได้ส่งตำรวจไปสอบสวนโรงงานแล้ว

ส่วนในรายอื่นๆ ที่ถูกหลอกในลักษณะเดียวกันว่ามีจำนวนทั้งหมดกี่รายและอยู่ที่ไหนบ้าง ก็กำชับให้ชุดสอบสวนลงพื้นที่ทำการสอบสวนทุกราย เพื่อจะได้ดำเนินการทางกฎหมายอย่างเร่งด่วน

“ได้รับการประสานงานทางโทรศัพท์มือถือจากนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม จะเข้ามาร่วมดูคดีนี้กับตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ด้วย แต่จะเดินทางหรือไม่ต้องรอการประสานงานอีกที ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่ได้รับการประสานแบบนี้จะทำให้การดำเนินการมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น”

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์จะดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพราะผู้เสียหายเดือดร้อนมาก และขอให้สังคมวางใจได้ว่าผู้กระทำผิดหรือมีพฤติกรรมหลอกลวงจะต้องถูกดำเนินการทางกฎหมายทุกราย

ทั้งนี้ มีรายงานว่านายอัจฉริยะได้ประสานกับผู้เสียหายในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ทุกรายแล้ว โดยให้เดินทางเข้าไปพบที่ส่วนกลางเพื่อพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อกองปราบปรามให้ดำเนินการเรื่องนี้ และพร้อมที่จะช่วยเหลือทางคดีแก่ผู้เสียหายทุกราย หากถูกคู่สัญญา หรือกลุ่มคนหลอกลวงฟ้องกลับด้วย

ด้านนางธนิสรกล่าวว่า ได้ทำสัญญาสัมปทานทำอาหารและน้ำดื่มกับบริษัทแห่งหนึ่ง โดยการแนะนำจากคนรู้จักจึงเชื่อใจ รวมถึงบริษัทที่มาทำสัญญาว่าจะส่งข้าวกล่องและน้ำดื่มให้กับโรงงานใหญ่แห่งหนึ่งในพิษณุโลก โดยมีระยะเวลาสัญญาจ้าง 5 ปี ผลิตข้าวกล่องส่งจันทร์-ศุกร์ วันละ 10,000 กล่อง น้ำดื่มบรรจุขวด ส่งวันเสาร์-อาทิตย์ วันละ 10,000 ขวด และไข่ต้ม ส่งวันจันทร์และวันศุกร์ วันละ 30,000 ฟอง เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย.

ซึ่งได้จ่ายเงินค่าเหมือนเป็นค่าสัมปทานในการรับงาน รวมทั้งค่าขวดบรรจุน้ำดื่มไปแล้ว รวม 106,000 บาท นอกจากนี้ยังลงทุนซื้ออุปกรณ์ในการประกอบอาหารและทำน้ำดื่มอีกเกือบ 1 ล้านบาท

แต่ปรากฏว่าน้ำดื่มที่ทำส่งในวันแรก เมื่อ 3 พ.ย. ผู้ว่าจ้างมารับไปแล้วนำกลับมาส่งคืน โดยอ้างว่าไม่ผ่านมาตรฐานที่กำหนด และจะต้องเสียค่าปรับ 150,000 บาท แต่ให้ทำน้ำดื่มให้ในวันที่ 4 พ.ย.เพื่อเป็นการหักลบกับค่าปรับ ส่วนข้าวกล่องเริ่มทำวันที่ 5 พ.ย.เป็นวันแรก จำนวน 10,000 กล่อง ซึ่งแล้วเสร็จตามเวลาที่ระบุในสัญญา แต่กลับถูกบ่ายเบี่ยงและยื้อเวลา รวมทั้งไม่รับข้าวกล่องที่ทำไว้ไปส่งโรงงาน

“ทุกอย่างเร่งทำกันมา ต้องอดหลับอดนอน แต่ไม่ได้เงินแม้แต่บาทเดียว จึงตัดสินใจไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยแล้ว ซึ่งดิฉันได้เรียกร้องให้ทางบริษัทจ่ายค่าเสียหายจำนวน 299,000 บาทเป็นค่าสัญญา ค่าอุปกรณ์ และค่าจ้างแรงงาน ภายในวันที่ 12 พ.ย. 2561 แต่ไม่จ่ายตามที่ตกลง ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป”
กำลังโหลดความคิดเห็น