xs
xsm
sm
md
lg

ทลฉ.เฟส 3 เปิดขายซองหาผู้ร่วมลงทุนท่าเทียบเรือ F วันแรกมีผู้สนใจแล้ว 2 ราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ศูนย์ข่าวศรีราชา - ทลฉ. เชิญชวนเอกชนยื่นข้อเสนอร่วมลงทุนก่อสร้างบริหารและประกอบการท่าเทียบเรือ F ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 เริ่มวันนี้ถึง 19 พ.ย.นี้ เผยวันแรกมีเอกชนสนใจซื้อซองแล้ว 2 ราย

ร.ต.ต.มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง  รักษาการแทนผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ท่าเรือแหลมฉบัง โดยการท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้มีประกาศเชิญชวนการคัดเลือกการร่วมลงทุนกับเอกชน หรือให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนในโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 (Eastern Economic Corridor) ในส่วนของท่าเทียบเรือ F ท่าเรือแหลมฉบัง

เนื่องจากการท่าเรือแห่งประเทศไทย มีแผนพัฒนาโครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ซึ่งเป็นโครงการตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของไทย พ.ศ.2558-2565 และแผนปฏิบัติการลงทุนด้านคมนาคมขนส่ง พ.ศ.2560 ของกระทรวงคมนาคม อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญตามแผนพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เพื่อพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกให้เป็นประตูการค้าของนักลงทุนสู่พม่า กัมพูชา เวียดนาม และลาว

นอกจากนั้น ยังเป็นจุดเชื่อมโยงพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกและตะวันตก (East West Corridor) ไปสู่จีนตะวันตก จีนตอนใต้ และอินเดีย ตลอดจนเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการคมนาคมขนส่งกระจายสินค้าของเอเชีย

โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ประกอบด้วย การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานท่าเรือและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมทั้งโครงข่ายและระบบการขนส่งต่อเนื่องที่จำเป็นต่างๆ อย่างพอเพียงและมีความพร้อมที่จะรองรับการขยายตัวของปริมาณตู้สินค้าทางเรือ การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ และสินค้าประเภทต่างๆ ได้ทันท่วงที โดยกำหนดเป้าหมายให้เป็นท่าเรือน้ำล้ำสมัยด้วยการบริหารจัดการด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีอัตโนมัติ ตลอดจนผสมผสานให้เป็นท่าเรือที่ให้ความสำคัญต่อสภาพแวดล้อม

ดังนั้น การท่าเรือแห่งประเทศไทย จึงมีความประสงค์ที่จะเชิญชวนเอกชนผู้สนใจยื่นข้อเสนอเข้าร่วมลงทุนก่อสร้าง บริหาร และประกอบการท่าเทียบเรือ F ในโครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 (ประกอบด้วยท่าเทียบเรือ F1 และ F2) โดยมีระยะเวลาสัมปทาน 35 ปี โดยเอกสารการคัดเลือกเอกชนจะเริ่มขายวันที่ 5 พ.ย.2561 ถึงวันที่ 19 พ.ย.นี้ เวลา 09.00 น. ถึง 12.00 น. และเวลา 13.00 น. ถึง 15.00 น. ณ กองแผนงาน อาคารบริหาร ท่าเรือแหลมฉบัง ถนนสุขุมวิท ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี 20230 โทรศัพท์ +66 3840 9135 โทรสาร +663849 0146 โดยรายละเอียดเบื้องต้นของโครงการ และขั้นตอนการคัดเลือกเอกชนสามารถดูได้ตามเว็บไซต์แนบนี้ www. Laemchabangport.com และ www.eeco.or.th

โดยทางการท่าเรือแห่งประเทศไทยได้ทำการประกาศเชิญชวนไปตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา และในวันนี้ เป็นวันแรกของการเปิดขายซอง ซึ่งได้มีเอกชนสนใจเข้ามาซื้อซองเอกสารแล้ว 2 ราย ซึ่งถือว่าเป็นทิศทางที่ดี เนื่องจากซองมีราคาสูงถึง 535,000 บาท ผู้ประกอบการที่เข้ามาซื้อซองถือได้ว่าต้องเป็นผู้ที่มีศักยภาพ และคาดว่าจะมีผู้สนใจเข้ามาอีกอย่างแน่นอน และยังมีเวลาอีกหลายวัน

สำหรับโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ประกอบด้วย ท่าเทียบเรือตู้สินค้า จำนวน 4 ท่า (ท่าเรือ E1 E2 F1 F2) ความจุ 7 ล้านตู้ต่อปี มูลค่าลงทุน 1.1 แสนล้านบาท โดยจะเปิดประมูลพัฒนาท่าเรือ F1 F2 ก่อน ซึ่งมีความยาวหน้าท่ารวม 2,000 เมตร รองรับได้ 4 ล้านทีอียูต่อปี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับนักลงทุนที่อาจพัฒนาและใช้เทคโนโลยีช่วยเพิ่มขีดรองรับเป็น 5-6 ล้านทีอียูต่อปีก็ได้ ส่วนท่าเรือ E1 E2 จะเปิดประมูลหานักลงทุนหลังจากนี้อีก 6-7 ปี

ในส่วนของการท่าเรือจะต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ก่อสร้างท่าเทียบเรือมาตรฐาน การขุดลอกร่องน้ำ ถนน ราง ระบบ ไฟฟ้า ประปา ทั้งหมด ลงทุนประมาณ 5 หมื่นล้านบาท โดยในช่วง 2 ปีแรกจะเร่งพัฒนาพื้นที่ F ก่อน วงเงินกว่า 2 หมื่นล้านบาท เพื่อเร่งส่งมอบให้เอกชนไปพัฒนาต่ออีกประมาณ 3 หมื่นล้านบาท เพื่อเปิดให้บริการได้ในปี 66-67 โดยในส่วนของพื้นที่ F มีอายุสัมปทาน 35 ปี

สำหรับปริมาณสินค้าของท่าเรือแหลมฉบังในปี 2561 มีประมาณ 8 ล้านทีอียู เติบโตจากปีก่อน 4% โดยในปี 60 ที่มี 7.6 ล้านทีอียู คาดว่าปี 2562 การเติบโตจะอยู่ที่ประมาณ 4-5% ซึ่งอัตราเติบโตที่ผ่านมาเป็นไปตามธรรมชาติ ซึ่งมองว่าการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จะเริ่มส่งผลให้มีสินค้าเพิ่มในอีก 2-3 ปีข้างหน้าแบบก้าวกระโดด ดังนั้น การท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 จะสามารถเสร็จทันและรองรับปริมาณสินค้าที่เพิ่มขึ้นได้พอดี หากล่าช้ากว่านั้นจะเกิดปัญหาความแออัดได้


กำลังโหลดความคิดเห็น