ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “หญิงหน่อย” นำทีมแกนนำเพื่อไทยลงลุยพื้นที่โคราช เดินเยี่ยมประชาชนในตลาดสดโซยขนมจีนประโดก โวกวาดเรียบ 14 เขต ก่อนรับฟังปัญหาในพื้นที่ พร้อมตรวจเยี่ยมการรับสมัครสมาชิกพรรคและชวนคนโคราชร่วมสมัคร
ช่วงบ่ายวันนี้ (31 ต.ค.) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรคเพื่อไทย เช่น นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม หัวหน้ากลุ่มว่าที่ผู้สมัคร จ.นครราชสีมา, นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย, ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง หรือ "หมวดเจี๊ยบ" สมาชิกพรรคเพื่อไทย และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทยจังหวัดนครราชสีมา 12 เขตเลือกตั้ง ได้เดินทางไปบวงสรวงกราบสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ภายในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา โดยจุดธูป 16 ดอก เทียนเอก จำนวน 9 เล่ม ท่ามกลางการต้อนรับของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมาจำนวนมากกว่า 500 คน พร้อมนั่งลงก้มกราบที่พื้นบริเวณฐานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) และได้มีพ่อค้าคหบดีมอบรูปหล่อท้าวสุรนารี (ย่าโม) และ พระพุทธรูปให้เพื่อความเป็นสิริมงคล
หลังจากกราบสักการะย่าโม คณะของคุณหญิงสุดารัตน์ได้ออกเดินเท้าไปตามถนนราชดำเนินและถนนสุรนารีพบปะกับพี่น้องประชาชนเพื่อรับฟังข้อมูลปัญหาความเดือดร้อน และไปทักทายเยี่ยมเยียนพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดสดแม่กิมเฮงเพื่อรับฟังข้อมูลเศรษฐกิจจากบรรดาพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดสด พร้อมนั่งรับประทานขนมจีนแกงไก่ จากประโดก ชื่อร้านโชคดีของยายเป้า (ยายเป้ากระเด้าหม้อ) และยังได้พูดกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.โคราชว่า ในตลาดแม่กิมเฮงมีขนมจีน 4 ร้านให้รับประทานครบ 4 ร้าน เราจะได้ ส.ส.ทั้ง 14 เขต หรือมี 16 เขตก็จะได้ทั้ง 16 เขต พร้อมกับหัวเราะ ก่อนประชาสัมพันธ์เชิญชวนร่วมรับประทานขนมจีนกันอย่างเอร็ดอร่อย และยกนิ้วให้
จากนั้นคุณหญิงสุดารัตน์เดินทางไปตรวจเยี่ยมการรับสมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่โรงแรมลีโอซอร์ เขตเทศบาลนครนครราชสีมา และพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนักธุรกิจของจังหวัดนครราชสีมา พร้อมกับเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา จำนวน 12 คน 12 เขตเลือกตั้ง จากจำนวน 14 เขตเลือกตั้งของ จ.นครราชสีมา ส่วนอีก 2 เขตมีผู้มีอุดมการณ์ตรงกับพรรคเพื่อไทยแสดงความจำนงมาเกินจำนวนจึงต้องมีการคัดเลือกอีกครั้ง โดยมอบหมายให้ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง คัดตัวว่าที่ผู้สมัครที่เหลือให้ครบอีกครั้งต่อไป
จากนั้นคณะของคุณหญิงสุดารัตน์เดินทางไปเปิดวงเสวนา และรับฟังข้อมูลปัญหากับแกนนำกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เกษตรกรมันสำปะหลัง ข้าวโพด และชาวไร่อ้อยในพื้นที่อำเภอสีคิ้ว และอำเภอใกล้เคียงของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นที่ทำการของสาขาพรรคเพื่อไทย จ.นครราชสีมา (อ.สีคิ้ว)
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การเดินทางมาที่จังหวัดนครราชสีมาในครั้งนี้เพื่อรณรงค์ให้พี่น้องประชาชนสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญ และรับฟังเสียงของพี่น้องประชาชน เพื่อจะได้นำข้อมูลที่ได้รับฟังเสียงจากพี่น้องประชาชนไปพัฒนานโยบายของพรรคเพื่อไทย เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีความเป็นอยู่ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
การมาโคราชมี 2 สาเหตุ 1. ตนเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขลูกโคราชหลานย่าโมแท้ๆ 2. การจัดทำบุญคุณแม่ครบ 10 ปีที่คุณแม่จากไป และคุณพ่อครบ 4 ปีที่ท่านจากไป ที่วัดแจ้งนอกเขตเทศบาลนครนครราชสีมา บรรพบุรุษตั้งแต่คุณทวดฝากไว้อยู่ที่นี่ ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ได้มาไหว้บรรพบุรุษด้วย ทำบุญด้วย และถือโอกาสมาเชิญชวนรับสมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทยในวันนี้ การลงพื้นที่มาให้ประชาชนร่วมคิดร่วมทำกับพรรคฯ
ส่วนใหญ่ที่มีปัญหาด้านเศรษฐกิจ เรามาเดินช่วงสั้นๆ ชาวบ้านสะท้อนเรื่องความยากลำบาก กว่า 10 คนที่มากอดแล้วร้องไห้กับตนบอกว่าลำบากเรื่องเศรษฐกิจเรื่องปากท้อง และมีการซ้ำเติมเรื่องการยกเลิกการเดินรถสองแถวมาในกลางเมืองโคราช ตรงนี้ต้องเร่งแก้ไข ส่วนอดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทยเคยมี 8 ที่นั่ง การรักษาฐานเสียงหรือจะได้มากน้อยเราตั้งใจจะให้ได้มากที่สุด เราไม่ได้จะมาบอกว่าเราจะเอาที่นั่งเท่าไหร่ แต่มารับสมัครสมาชิกให้มาร่วมคิดร่วมแก้ไขปัญหากับพรรคฯ เราคงไม่ได้เอาที่นั่ง ส.ส.เป็นที่ตั้ง แต่เราเอาความจริงใจในการทำงานให้กับประชาชนเป็นที่ตั้ง เราเคยทำสำเร็จมาแล้วเราจะทำต่อไป และเรามั่นใจว่าเราจะทำให้สำเร็จได้อีกครั้งหนึ่ง
กรณีการคัดเลือกรูปแบบ 14 เขตโคราชยังไม่ลงตัว และเขตเลือกตั้งยังไม่ประกาศ ตอนนี้มีอยู่ 3 แบบ และทราบว่ามีความพยายามทำแบบที่ 4 แบบที่ขัดรัฐธรรมนูญ เรื่องนี้ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง จะไปติดตาม สำหรับกระแสที่พรรคเพื่อไทยจะถูกยุบนั้น ตรงนี้ต้องบอกประชาชนว่าวันนี้เรามั่นใจว่าสิ่งที่เราทำไปทั้งหมดเราไม่ได้ทำอะไรที่ผิดกฎหมาย เรายังมั่นใจว่าความยุติธรรมจะมีอยู่ เราพยายามที่จะรักษาชีวิตของพวกเราให้มากที่สุด รักษาไปเพื่อที่จะได้มีโอกาสทำงานให้กับประชาชนและส่วนรวม ฉะนั้นเราคิดว่าประชาชนเข้าใจและไม่หวั่นไหวปัญหานี้ เราไม่ได้ไปทำอะไรผิด มันอาจจะมีกระแสอยากจะทำโน่นทำนี่ เราห้ามคนอยากไม่ได้ แต่เราเชื่อว่าความยุติธรรมจะมี ถ้าจะมีการเลือกตั้งต้องมีการปลดล็อก
ส่วนความหวั่นไหวที่อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยหลายคนถูกดึงไปอยู่พรรคพลังประชารัฐนั้น ตนคิดว่าประชาชนมีความคิดเป็นของตัวเอง และประชาชนทราบว่าจะเลือกใครอยู่ในใจแล้วที่จะสามารถทำให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้น ดังนั้นตัวบุคคลที่ย้ายไปสำหรับเราไม่ได้มีความหมาย เพราะประชาชนมองที่นโยบายและองค์กรและสิ่งที่เป็นความสำเร็จว่าสามารถนำความสุขและแก้ไขให้เขาได้อย่างแท้จริง ดังนั้นเป็นธรรมดาเราเคยโดนสึนามิตั้งแต่ปี 2549 ออกไปกว่าครึ่งพรรค เราอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ ดังนั้นพร้อมสู้ ที่ผ่านมาเราทำการบ้านอย่างหนัก เราเดินหน้าเต็มที่
