xs
xsm
sm
md
lg

หนักสุดรอบ 50 ปี! ชาวนาสุโขทัยโอด “ข้าวหอมมะลิยืนต้นตาย” ทั้งหมู่บ้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สุโขทัย - ชาวบ้าน ต.นาขุนไกร สุโขทัย ระทมหนัก หวังปลูกข้าวหอมมะลิไว้กินแต่ฝนทิ้งช่วงทำต้นข้าวแห้งตายทั้งหมูบ้านต้องปล่อยให้เป็นอาหารวัวแทน ระบุหนักสุดรอบ 50 ปี



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรที่ทำนาปลูกข้าวในพื้นที่ ต.นาขุนไกร อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ขณะนี้กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก หลังต้องเผชิญภาวะฝนแล้งและทิ้งช่วงทำให้นาข้าวยืนต้นตายทั้งหมู่บ้าน หนักสุดในรอบ 50 ปี จนต้องจำใจปล่อยให้ฝูงวัวลงไปกินข้าวในนาแทน

นางมณฑา กล้าแข็ง อายุ 43 ปี เกษตรกรบ้านหนองสะแก หมู่ 12 ต.นาขุนไกร เปิดเผยว่า ที่บ้านปลูกข้าวหอมมะลิไว้ทั้งหมด 40 ไร่ ตอนนี้ยืนต้นตายในผืนดินที่แห้งผากหมดแล้วเพราะฝนแล้งและทิ้งช่วง ส่วนที่พอมีตกลงมาบ้างก็ไม่เพียงพอ จึงต้องเตรียมตัวซื้อข้าวสารกิน และปล่อยให้วัวลงไปกินต้นข้าวในนาแทน

“เกษตรกรที่นี่ส่วนใหญ่ปลูกข้าวหอมมะลิเอาไว้กิน โดยอาศัยน้ำฝนบนฟ้า ทำนาได้ปีละครั้งเท่านั้น และตั้งแต่เกิดจนแก่อายุ 50 กว่าก็ปลูกข้าวได้เกี่ยวไว้กินทุกปีมากบ้าง น้อยบ้าง แต่พอมาปีนี้กลับไม่ได้อะไรเลย ยืนต้นตายหมดเกลี้ยง อุตส่าห์แบกท่อมาคอยสูบน้ำออกนาแล้วแต่ก็รอเก้อ” เกษตรกรบ้านหนองสะแกกล่าว

นายอนุรักษ์ แสงศรี ปลัดอำเภอศรีสำโรง กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ปลูกข้าวใน ต.นาขุนไกร มีทั้งหมด 26,000 กว่าไร่ ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้น ทางอำเภอศรีสำโรงได้มอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เร่งออกสำรวจแล้ว เพื่อจะรายงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเตรียมให้ความช่วยเหลือต่อไป โดยหลักเกณฑ์เบื้องต้น นาข้าวที่ได้รับความเสียหายนั้นจะได้รับค่าชดเชยไร่ละ 1,113 บาท ไม่เกิน 30 ไร่ต่อครัวเรือน









กำลังโหลดความคิดเห็น