เขื่อนลำปาวยันมีน้ำเพียงพอตลอดแล้งนี้ แนะปลูกพืชใช้น้ำน้อย-งดทำนาปรัง

กาฬสินธุ์ - ยันเขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำเพียงพอต่อการอุปโภค-บริโภค และทำการเกษตรตลอดหน้าแล้งนี้ แต่แนะเกษตรกรควรปลูกพืชใช้น้ำน้อยแทนปลูกข้าวนาปรัง เหตุปริมาณฝนหมดเร็วกว่าปกติ ต้องบริหารจัดการใช้น้ำอย่างรอบคอบ

นายฤาชัย จำปานิล ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว หรือเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ กล่าวถึงสถานการณ์เขื่อนลำปาวปัจจุบันมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 1,377 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 69.55 เปอร์เซ็นต์จากความจุของอ่าง 1,980 ล้าน ลบ.ม. โดยมีประมาณน้ำที่ใช้การได้ประมาณ 1,200 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งคาดว่าจากนี้ไปอีกไม่กี่วันก็จะสิ้นสุดฤดูฝน

อย่างไรก็ตาม ปริมาณฝนในปีนี้มีความแตกต่างจากปีที่แล้ว เนื่องจากช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมาซึ่งคาดการณ์กันไว้ว่าจะมีฝนตกชุก แต่กลับพบว่ามีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเพียงแค่ 50 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับค่าปกติของปีที่ผ่านมา

ส่วนในเดือนตุลาคมคาดว่าจะมีปริมาณน้ำไหลเข้าไม่น่าเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ของค่าปกติเช่นกันเนื่องจากฝนหมดเร็ว แต่โชคดีที่ทางเขื่อนลำปาวได้เริ่มกักเก็บน้ำมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกันยายน และได้หยุดการส่งน้ำมาตั้งแต่วันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา ทำให้มีปริมาณน้ำที่กักเก็บได้มากถึง 69.55 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง

นายฤาชัยกล่าวอีกว่า สำหรับการวางแผนการใช้น้ำในฤดูแล้งที่จะถึงนี้ ในส่วนพื้นที่ชลประทานที่ทำนาปรังคาดว่าเกษตรกร โดยเพาะในพื้นที่ อ.เมือง อ.กมลาไสย อ.ยางตลาด และ อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ จะทำการเกษตรปลูกข้าวนาปรังเต็มพื้นที่เท่ากับปีที่แล้วคือประมาณ 260,000 ไร่ ซึ่งจะใช้น้ำประมาณ 500 ล้าน ลบ.ม. คาดว่าปริมาณน้ำจะเพียงพอต่อการเพาะปลูก ทั้งนี้ อีกส่วนหนึ่งจะต้องเตรียมน้ำไว้สำหรับการอุปโภค บริโภค ซึ่งต้องให้ความสำคัญอันดับแรก ตลอดจนการผลิตประปา อุตสาหกรรมและรักษาระบบนิเวศ ยืนยันว่าเพียงพออย่างแน่นอน

สำหรับพื้นที่ลุ่มน้ำชีนั้นก็จะต้องส่งน้ำไปช่วยในช่วงหน้าแล้งเช่นกัน แต่จะต้องมีการประชุมวางแผนบูรณาการร่วมกันทุกฝ่าย ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะต้องมีการวางแผนและมีมาตรการรับมือในการใช้น้ำอย่างรอบคอบ เนื่องจากในพื้นที่ภาคอีสานนั้นฝนหมดเร็ว ทำให้บางพื้นที่มีปริมาณน้ำน้อย ดังนั้นการใช้น้ำจะต้องร่วมกันใช้อย่างประหยัดเกิดคุณค่าและประโยชน์มากที่สุด

อย่างไรก็ตาม แม้ปริมาณน้ำในเขื่อนลำปาวจะเพียงพอส่งไปใช้ในการเพาะปลูกข้าวนาปรัง แต่เกษตรกรควรที่จะปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย โดยเฉพาะข้าวโพด ที่ทางรัฐบาล โดยกระทรวงเกษตรฯ กำลังส่งเสริมให้ปลูก หรือจะเป็นการเพาะปลูกพืชไร่ต่างๆ ที่ใช้น้ำน้อย ซึ่งจะช่วยให้มีน้ำเพียงพอมากขึ้น