xs
xsm
sm
md
lg

พ่อเด็ก 11 ขวบ โพสต์เฟซบุ๊กข้องใจลูกสาวตายหลังปวดท้องเข้า รพ.ชัยนาทแค่วันเดียว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ชัยนาท - พ่อเด็ก 11 ขวบ โพสต์เฟซบุ๊กข้องใจการรักษา หลังลูกสาวปวดท้องเข้าโรงพยาบาลวันเดียวตาย เรียกร้องโรงพยาบาลชี้แจง ขณะที่ผู้บริหารโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร ยืนยันให้การรักษาตามมาตรฐาน

วันนี้ (18 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ศิวะ ลือพักตร์ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว เล่าถึงการพาลูกสาววัย 11 ขวบ เข้าไปรักษาอาการปวดท้อง ในโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร แต่ได้รับการรักษาที่ล่าช้า

โดยในโพสต์ระบุว่า หมอให้ลูกอดน้ำอดอาหาร นอนให้น้ำเกลือเพื่อสังเกตอาการ และนัดเอกซเรย์ในตอน 6 โมงเช้า แต่กว่าจะได้เอกซเรย์เกือบเที่ยง ทำให้ลูกอ่อนเพลีย และเกิดอาการชักหมดสติ สุดท้ายลูกเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ

นอกจากนี้ ยังระบุถึงพยาบาลที่ดูแลพูดจาไม่ดี และไม่สนใจคนไข้ ซ้ำใบมรณบัตรที่ออกให้ก็ยังไม่ระบุสาเหตุการตาย และชื่อแพทย์ผู้รักษา ทำให้เกิดความข้องใจในการรักษาของโรงพยาบาลเป็นอย่างมาก จึงเรียกร้องให้ทางโรงพยาบาลออกมาชี้แจง และแสดงความรับผิดชอบ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ลูกสาว โดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน หรือเงินชดเชยใดๆ ทั้งสิ้น

ในวันนี้ ผู้บริหารโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร จึงได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่า โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ย.2561 เวลา 09.00 น. เด็กหญิงวัย 11 ขวบ ได้เข้าไปรักษาในโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร ด้วยมีอาการไอ มีไข้ และปวดท้อง ร่างกายอยู่ในเกณฑ์ปกติ สัญญาณชีพปกติ หมอวินิจฉัยเบื้องต้นเป็นหลอดลมอักเสบ จึงให้ยากลับไปรับประทานที่บ้าน

จากนั้นเวลา 20.20 น. เด็กมีอาการไม่ดี ญาติจึงพากลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ตรวจร่างกายซ้ำพบคอแดงเล็กน้อย ทอนซิลโต ปวดท้องเล็กน้อย หน้าท้องไม่แข็ง สัญญาณชีพปกติ วินิจฉัยว่า ทอนซิลอักเสบ จึงรับรักษาในโรงพยาบาลเพื่อดูแลใกล้ชิด

เช้าวันที่ 13 ก.ย.61 ช่วงเช้าแพทย์ได้ตรวจร่างกาย พบว่า ยังมีอาการปวดท้องและกดเจ็บที่ใต้ลิ้นปี่ คลำไม่พบก้อน สัญญาณชีพปกติ สงสัยว่าอาจจะมีภาวะทางศัลยกรรม จึงให้ศัลยแพทย์ร่วมประเมิน และส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม พบว่า ผลปกติ ผลเอกซเรย์ปอดและช่องท้องปกติ จึงให้การรักษาโดยงดอาหารและน้ำ ให้สารน้ำยาลดกรด ยาปฏิชีวนะ และให้ออกซิเจน

จากนั้นเวลา 13.50 น. เด็กมีอาการชักเกร็ง 2 ครั้ง ทีมกู้ชีพเข้าทำการช่วยชีวิต ได้ตรวจอัลตราซาวนด์ไม่พบน้ำในช่องท้อง เส้นเลือดแดงใหญ่และขนาดเส้นเลือดดำปกติ ไม่มีเยื่อหุ้มหัวใจถูกกดทับ ได้ทำการกู้ชีพและได้ให้ข้อมูลแก่มารดา และญาติเป็นระยะๆ ต่อมา ผู้ป่วยเสียชีวิตในเวลา 15.47 น. รวมเวลาที่ทำการกู้ชีพทั้งหมด 1 ชั่วโมง 37 นาที

หลังผู้ป่วยเสียชีวิต ทีมแพทย์ขอส่งตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองเพิ่มเติม พบผลปกติ และส่งตรวจน้ำไขสันหลัง ซึ่งไม่พบการติดเชื้อ และได้ส่งศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ซึ่งผลการผ่าชันสูตรศพ จะทราบผลได้ภายใน 2 สัปดาห์

ด้าน นายแพทย์ทนงศักดิ์ หอมทรัพย์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ ยืนยันว่า การรักษาเป็นไปตามมาตรฐานของการรักษาพยาบาล มีกุมารแพทย์และศัลยแพทย์ร่วมทำการรักษา ส่วนกรณีที่ให้ผู้ป่วยนอนสังเกตอาการ งดน้ำงดอาหาร เพื่อไม่ให้ลำไส้บีบตัวมากเกินไป และให้อาการคลื่นไส้อาเจียนลดลง

ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ ต้องรอผลชันสูตรศพ ซึ่งจะทราบผลในอีก 2 สัปดาห์ รวมทั้งผลเลือดและน้ำไขสันหลัง ที่ส่งไปตรวจในห้องแล็บที่กรุงเทพมหานคร เพื่อดูว่าเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อไวรัส

ขณะที่ทางโรงพยาบาลได้เชิญพ่อแม่ และญาติของเด็กหญิงที่เสียชีวิตเข้ารับฟังการชี้แจงถึงขั้นตอน และรายละเอียดของการรักษาพยาบาล รวมทั้งขอให้รอฟังผลการชันสูตรศพ ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบจึงจะทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง แต่ทางญาติก็ยังไม่พอใจ พร้อมกับขอให้ทางโรงพยาบาลทำการสอบสวนการปฏิบัติหน้าที่ของแพทย์ และพยาบาลในวันเกิดเหตุ เนื่องจากเห็นว่าทั้งแพทย์ และพยาบาลไม่ได้ให้ความเอาใจใส่ลูกหลานของตนเท่าที่ควร จนทำให้เกิดเหตุสลดขึ้น

นายนิมิตรโชค ลือพักตร์ อายุ 30 ปี พ่อของเด็กหญิงที่เสียชีวิต และเป็นผู้โพสต์ข้อความกล่าวว่า อยากให้โรงพยาบาลดูแลเอาใจใส่ผู้ป่วยให้ดีกว่านี้ เพราะถ้าหมอ และพยาบาลเอาใจใส่อาการป่วยของลูกสาวตนมากกว่านี้ ลูกตนอาจจะไม่เสียชีวิต เพราะเด็กแค่มีอาการปวดท้อง อยากให้เคสนี้เป็นเคสสุดท้าย จะได้ไม่ต้องเกิดขึ้นกับครอบครัวใครอีก





กำลังโหลดความคิดเห็น