แพร่ - ชาวเมืองแพร่ 12 ตำบลลุกฮือรวมตัวหน้าศาลากลางฯ ยื่นชื่อ-สำเนาบัตรต้านโรงไฟฟ้าชีวมวลเหมืองหม้อเมืองแพร่ ชี้ส่อหมกเม็ด หลังพบข้อมูลจ่อสร้างโรงงานใหญ่สุดในภาคเหนือ ผลิตไฟฟ้าถึง 28.5% แต่ผู้นำท้องถิ่นกลับปิดข้อมูล
วันนี้ (14 ก.ย.) กลุ่มชาวบ้านจากหลายตำบลเขต อ.เมืองแพร่ ราว 200 คน ได้เดินทางมารวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัดแพร่ เพื่อแสดงพลังคัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลของบริษัท พีเอสทีเอ็นเนอร์จี 1 ที่จะก่อสร้างในพื้นที่บ่อขยะเก่าเขตหมู่ 7 ต.เหมืองหม้อ อ.เมืองแพร่
โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้รวบรวมรายชื่อพร้อมสำเนาบัตรประชาชนของชาวบ้านจาก 12 ตำบล ได้แก่ ต.ร่องฟอง, ต.เหมืองหม้อ, ต.บ้านถิ่น, ต.กาญจนา, ต.แม่หล่าย, ต.ทุ่งโฮ้ง, ต.ทุ่งกวาง, ต.ป่าแดง, ต.น้ำชำ, ต.ห้วยม้า, ต.สวนเขื่อน และ ต.แม่ยม อ.เมืองแพร่ ยื่นคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้าฯ ดังกล่าวให้ถึงมือนายพงษ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าฯ แพร่ และทวงถามความคืบหน้ากรณีชาวบ้านได้ร้องเรียนที่ยื่นคัดค้านผ่านศูนย์ดำรงธรรมฯมาแล้ว
นอกจากนี้ กลุ่มชาวบ้านยังโจมดีกลุ่มกำนันและผู้ใหญ่บ้านที่รับข้อมูลจากบริษัทเอกชนที่เข้ามาซื้อที่ดินสำหรับก่อสร้าง และเริ่มพาชาวบ้านไปดูงาน แต่ไม่นำข้อมูลมาบอกชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าแท้จริงแล้วจะมีการสร้างโรงไฟฟ้าขนาด 28.5 เมกะวัตต์ ถือเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวลที่มีกำลังการผลิตใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ
นายสมาน ผูกพัน แกนนำชาวบ้าน ต.เหมืองหม้อ อ.เมืองฯ จ.แพร่ กล่าวว่า โครงการสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลซึ่งรัฐให้บริษัทเอกชนเข้ามาดำเนินการ แทนที่จะมาประชุมชาวบ้านบอกผลดีผลเสีย และร่วมกันตัดสินใจกลับไม่ทำ แต่ใช้วิธีปกปิดข้อมูล รู้กันเพียงกลุ่มผู้นำเท่านั้น กว่าชาวบ้านจะรู้ โรงงานก็ซื้อที่ดินไปแล้ว ชาวบ้านจึงต้องการฟังจากปากผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ว่าจะแก้ปัญหาให้ชาวบ้านอย่างไร และพวกข้าราชการ ผู้นำในสังกัดมหาดไทย ทำไมไม่ฟังเสียงชาวบ้านฟังแต่นายทุน
ต่อมานายพงษ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้ออกมาพบปะทักทายกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างเป็นกันเอง พร้อมรับหนังสือข้อเรียกร้องและเอกสารการเข้าชื่อแสดงความคิดเห็นต้านโรงไฟฟ้าชีวมวลต่อหน้าประชาชนที่มาชุมนุม
นายพงษ์รัตน์กล่าวต่อชาวบ้านที่มาชุมนุมว่า ขณะนี้จังหวัดยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ ในเรื่องสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล เป็นเรื่องของบริษัทเอกชนเข้ามาดำเนินการ ยังไม่ถึงขั้นตอนการขออนุญาต ทางจังหวัดฯ จึงยังไม่สามารถตอบข้อเรียกร้องได้ แต่ยินดีที่ชาวบ้านออกมาแสดงเจตนารมณ์ชัดเจน จังหวัดฯ จะรับหนังสือและเอกสารไว้ และรับรองว่าถ้ามีการเคลื่อนไหวทางราชการจะแจ้งให้ชุมชนทราบโดยตรง ส่วนกรณีข้าราชการ และผู้นำท้องที่-ท้องถิ่นที่ไม่ให้ความร่วมมือกับชาวบ้านก็คงต้องดูเป็นกรณีไป
นายพงษ์รัตน์กล่าวด้วยว่า ในพื้นที่ จ.แพร่ มีการขอสัมปทานในหลายกรณี และมีประชาชนออกมาคัดค้าน ซึ่งจังหวัดจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างเป็นประชาธิปไตยที่สุด โดยต้องฟังเสียงของผู้เดือดร้อนให้มากที่สุด
โอกาสเดียวกันนี้ กลุ่มแกนนำชาวบ้านได้ร้องขอให้ผู้ว่าฯ แพร่ ดูแลปัญหาเกี่ยวกับกลุ่มผู้บริหารเทศบาล และ อบต.ในพื้นที่ทำตัวเข้าข้างนายทุน จากนั้นได้สลายตัวกลับออกจากศาลากลางจังหวัดแพร่ เมื่อ 12.00 น.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า ช่วงบ่ายวันเดียวนี้ กลุ่มแกนนำต้านโรงไฟฟ้าฯต.ร่องฟอง – ต.น้ำชำอ.เมืองแพร่ ที่อยู่ในพื้นที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลร่องฟองได้เดินทางไปรวมตัวกันในย่านชุมชนของตำบลร่องฟอง เพื่อขับไล่นายก อบต.ร่องฟอง เนื่องจากชาวบ้านเชื่อว่าไม่อยู่ข้างประชาชนและยังเข้าข้างกลุ่มทุนที่เข้ามาสร้างโรงไฟฟ้า
โดยชาวบ้านได้ทำหนังสือถึงนายอำเภอเมืองแพร่ให้สั่งพักงานนายก อบต.ร่องฟอง ในช่วงที่มีข้อพิพาทระหว่างบริษัทโรงไฟฟ้าฯ กับชาวบ้านซึ่งล่าสุด นอภ.เมืองแพร่ รับปากตั้งกรรมการสอบนายก อบต.ร่องฟอง แล้ว
