xs
xsm
sm
md
lg

ผกก.วังชิ้นเร่งสางคดีคนร้ายเผารถ-ยิงกุฏิพระนักพัฒนา ฝนตกกลบร่องรอย เจอแต่หัวกระสุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


แพร่ - พระนักพัฒนาชื่อดังยันเดินหน้าช่วยญาติโยมต่อแม้ถูกมือปืนบุกเผารถ ลอบยิงกุฏิกลางดึก ล่าสุด ผกก.สภ.วังชิ้น ลงพื้นที่จี้ติดทีมคลี่คลายคดี พบแต่หัวกระสุน 9 มม.รับฝนตกกลบร่องรอยคนร้าย

วันนี้ (4 ก.ย.) พ.ต.อ.วรพล พลมณี ผกก.สภ.วังชิ้น จ.แพร่ ได้ลงพื้นที่ควบคุมการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดีคนร้ายบุกยิงกุฏิ วางเพลิงเผารถยนต์ พระฐาปนพงษ์ ฐานิษโร รักษาการเจ้าอาวาสวัดปางมะโอ ต.แม่พุง อ.วังชิ้น กลางดึกคืนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีไปอย่างไร้ร่องรอย

พ.ต.อ.วรพล ระบุว่า ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ให้ความสนใจเรื่องนี้มาก เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ เป็นคดีสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการให้เห็นผลโดยเร็ว จึงได้เดินทางมาดูการทำงานของตำรวจชุดสืบสวน สภ.วังชิ้น และหน่วยพิสูจน์หลักฐาน จากสำนักงานตำรวจภูธร จังหวัดแพร่

หลังได้ร่วมตรวจหาหัวกระสุนที่ยิงเข้ามาจนครบทั้ง 4 นัด พบเป็นหัวกระสุนขนาด 9 มม. แต่ไม่พบปลอกกระสุน เชื่อว่าอาวุธปืนน่าจะเป็นปืนพก .38 มากกว่าปืน 9 มม.

ขณะที่ตำรวจจากหน่วยพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ จะเก็บร่องรอยรายละเอียดบริเวณรถที่ถูกเผา รวมทั้งรอยนิ้วมือแฝงบริเวณตัวถังรถ ซึ่งน่าจะเป็นของคนร้าย พร้อมเข้าตรวจสอบวิถีกระสุนบริเวณกุฏิเจ้าอาวาสวัดปางมะโอ ด้านตำรวจชุดสืบได้ตรวจบริเวณโดยรอบ และสอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์หลังเกิดเหตุแล้ว และพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้นิมนต์พระฐาปนพงษ์ ฐานิสโร ไปให้ปากคำที่ สภ.วังชิ้น เพื่อหาเบาะแสนำไปถึงตัวคนร้ายได้เร็วขึ้น

พ.ต.อ.วรพล กล่าวว่า เป็นเรื่องยากมากในการสอบสวน เนื่องจากช่วงเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืนมีฝนตก เมื่อมีการใช้อาวุธแล้ว ช่วงหลบหนีไม่มีเสียงยานพาหนะใดๆ ที่เกิดเหตุก็ไม่มีปลอกกระสุน ทำให้การสืบค้นอาวุธปืนเป็นไปได้ยาก แต่ยังโชคดีอยู่บ้างที่ได้หัวกระสุนที่ตกอยู่ในกุฏิ และทะลุออกไปนอกกุฏิครบทั้ง 4 หัว

ส่วนปมของการก่อเหตุครั้งนี้น่าจะมาจากความขัดแย้งส่วนตัว เนื่องจากพระเจ้าอาวาสเป็นพระนักพัฒนา ซึ่งการพัฒนาอาจส่งผลกระทบต่อบุคคลหลายฝ่ายที่ยังคงต้องการผลประโยชน์ก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนยังไม่ปักใจเชื่อในประเด็นใดประเด็นหนึ่งเป็นพิเศษ แต่จะต้องรอผลการสืบสวนซึ่งคงใช้เวลาอีกไม่นาน

ด้าน พระฐาปนพงศ์ ฐานิสสโร กล่าวว่า ไม่หวั่นไหวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะยังคงยืนหยัดทำงานต่อไปเพื่อแก้ปัญหาให้ศรัทธาวัดปางมะโอ และพัฒนาให้พื้นที่เป็นเกษตรอินทรีย์

ส่วนกรณีที่ นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเดินทางมาเป็นประธานเปิดโครงการผลไม้อินทรีย์ที่วัดปางมะโอ วันที่ 14 ก.ย.ที่จะถึงนี้นั้น ทางทีมที่ปรึกษาของ รมช.เกษตรและสหกรณ์รับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และยืนยันว่าจะยังคงเดินทางมาร่วมงานแก้ปัญหาที่ดินให้พี่น้องประชาชน และพัฒนาระบบเกษตรกรรมให้เป็นเกษตรอินทรีย์ตามที่ประชาชนต้องการอย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเครือข่ายภาคประชาชนองค์กรพัฒนาเอกชนในจังหวัดแพร่ และกลุ่มพีมูฟที่ปฏิบัติการแก้ปัญหาที่ดินในภาคเหนือ ต่างให้ความสำคัญต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมืองเร่งหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็ว เพราะเชื่อว่ากลุ่มที่ปฏิบัติการร้ายดังกล่าวคือกลุ่มที่เสียผลประโยชน์จากการพัฒนาสวนป่าไม้สัก พัฒนาที่ดิน และการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ โดยเฉพาะกลุ่มที่ลักลอบตัดไม้สวนป่าออกจำหน่าย


กำลังโหลดความคิดเห็น