xs
xsm
sm
md
lg

จ่อออกหมายจับ! ตร.เชื่อนักตุ๋นผัวเมียเป็นคนวงการพระเครื่อง พบเหยื่อเพิ่มที่ลพบุรี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


อุบลราชธานี - พบผู้เสียหายถูกสิบแปดมงกุฎตุ๋นเช่าพระเพิ่มรายที่ 3 ที่ลพบุรี สูญพระเครื่องราคากว่า 1 แสนบาท เหตุเกิดก่อนที่ระยอง และอุบลฯ ตำรวจเชื่อนักตุ๋นผัวเมียอยู่ในวงการพระเครื่อง เพราะเน้นหลอกเหยื่อเอาพระเครื่องท้องถิ่นที่มีราคาแพง

จากกรณีผัวเมียสิบแปดมงกุฎตระเวนหลอกเหยื่อไปทั่วประเทศ โดยอ้างเป็นลูกน้องนักการเมืองพรรคใหญ่ รู้จักคนใหญ่คนโตในบ้านเมือง ทำให้เหยื่อหลงเชื่อ สูญทั้งโทรศัพท์ราคาแพง สร้อยทองรูปพรรณ และพระเครื่องมีราคาไปกว่า 1 ล้านบาทนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ระบุว่า หลังออกหมายเรียกตัวผู้ต้องสงสัยผัวเมียไปแล้ว ภายใน 2 สัปดาห์ยังไม่ติดต่อมาพบกับพนักงานสอบสวนก็จะนำพยานหลักฐานที่รวบรวมไว้ทั้งหมด ขอศาลออกหมายจับตัว เพราะทราบว่าคนร้ายสองผัวเมียนี้ได้ไปก่อเหตุไว้ในหลายจังหวัด โดยเมื่อหลายเดือนก่อนก็ได้ไปหลอกเอาพระเครื่องจากคนในจังหวัดลพบุรี มูลค่ากว่า 1 แสนบาท

จึงเป็นไปได้ว่าคนร้ายมีความรู้เรื่องพระเครื่อง จึงเน้นหลอกต้มตุ๋นเอาพระเครื่องท้องถิ่นที่มีราคา เพื่อนำไปจำหน่ายให้กับคนในวงการเล่นพระเครื่อง ส่วนคนร้ายจะมีมากกว่าสองคนหรือไม่ ชั้นต้นยังพบว่ามีแค่เพียงสองคนนี้เท่านั้น

ด้านชุดสืบสวนที่ติดตามหาเบาะแสของคนร้ายเล่าว่า สำหรับพฤติกรรมของสิบแปดมงกุฎสองผัวเมียรายนี้ พบว่า มีการเตรียมการต้มตุ๋นเหยื่อมาอย่างดี โดยรถยนต์เก๋งออดี้รุ่นเก่า สีแดงอมน้ำตาล ทะเบียน พว 7170 กรุงเทพฯ คนร้ายได้ซื้อมาจากเต้นท์รถแห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี ในราคา 80,000 บาท เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยคนร้ายได้จ่ายเงินค่ารถคันนี้เป็นเงินสด

หลังมาใช้ก่อเหตุตุ๋นสองผัวเมียที่จังหวัดอุบลราชธานี และมีการนำทะเบียนรถไปเช็ก พบว่า ยังเป็นชื่อของเจ้าของรถคนเดิม โดยคนร้ายยังไม่โอนมาเป็นชื่อของตัวเอง

เมื่อสอบถามไปยังเต็นท์รถที่ขายรถคันดังกล่าวให้กับคนร้าย ก็ระบุรูปพรรณสัณฐานตรงกับชายอายุ 50-60 ปี ที่อ้างตัวเป็นผู้การพี นายตำรวจจากหน่วยปราบปรามยาเสพติด เพราะคนขายจำชายคนนี้ได้ เนื่องจากระหว่างมาซื้อรถมีการพูดจาใหญ่โต รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง รวมทั้งหัวหน้าพรรคการเมืองด้วยและเต็นท์ที่ขายรถได้มอบชุดโอนลอยทะเบียนรถยนต์ให้กับชายดังกล่าวไปแล้ว แต่จนถึงปัจจุบันคนร้ายไม่ยอมรับโอนรถ เพื่อต้องการปกปิดตัวตนที่แท้จริงของคนร้าย

นอกจากนี้ยังเชื่อว่า คนร้ายที่อ้างตัวเป็นผู้การพีน่าจะเป็นคนในวงการเพระเครื่อง เนื่องจากจุดประสงค์ระหว่างคุยกับเหยื่อทั้ง 2 ราย คือ ที่จังหวัดระยอง ที่อ้างต้องการขอซื้อที่ดิน และเหยื่อที่จังหวัดอุบลราชธานี ที่อ้างลงมาทำงานลับด้านติดตามจับยาเสพติด เมื่อสบโอกาสจะให้เหยื่อช่วยหาเช่าพระเครื่องท้องถิ่นราคาแพงมาให้ โดยคนร้ายสามารถบอกได้ว่าพระเครื่องรุ่นที่ต้องการมีการจัดสร้างโดยใช้มวลสารใดเป็นองค์ประกอบของพระ และมีการสร้างในรุ่นนี้จำนวนกี่องค์

โดยเหตุเกิดที่จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 61 ได้ให้เหยื่อติดต่อขอเช่าหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ จ.ระยอง ในราคากว่า 2 แสนบาท โดยคนร้ายขอให้ น.ส.คูณณิชา หรือมะเหมี่ยว รัตนพงษ์เกียรติ อายุ 40 ปี ซึ่งเสนอขายที่ดินของตัวเองในราคากว่า 75 ล้านบาท ให้กับคนร้าย จ่ายเงินให้กับเจ้าของพระไปก่อน แล้วคนร้ายจะโอนเงินมาคืนให้ที่หลัง

อย่างไรก็ตาม เมื่อเหยื่อไม่หลงเชื่อและปฏิเสธ ทำให้คนร้ายไม่ได้พระของหลวงปู่ทิม แต่หันมาหลอกเอาโทรศัพท์มือถือราคากว่า 23,000 บาทไปแทน

แต่ต่อมาคนร้ายได้มาหลอกนายศักดิ์ ซึ่งเป็นญาติกับ น.ส.คูณณิชา และเป็นนายหน้าพาคนร้ายมาขอซื้อที่ดินจาก น.ส.คูณณิชา ทำให้นายศักดิ์ สูญเสียสร้อยคอรูปพรรณหนัก 20 บาท และพระเครื่องเลี่ยมทองที่แขวนอยู่กับสร้อยไปจำนวน 6 องค์ มูลค่ากว่า 400,000 บาท เมื่อวันที่ 11 ก.ค.61

สำหรับผู้เสียหายในรายจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งได้ให้ความหวังจะให้เป็นสายข่าวแจ้งเบาะแสเรื่องยาเสพติด และจะมีรายได้จากสินบนรางวัลนำจับยาบ้าเม็ดละ 3 บาท ก็ได้หลอกให้ติดต่อหาพระเครื่องของหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน จ.ศรีสะเกษ จำนวน 14 องค์ มูลค่ากว่า 5 แสนบาท ก่อนเชิดพระเครื่องทั้งหมดหนีลอยนวลไปเมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา

โดยผู้เสียหายยังระบุด้วยว่า ระหว่างที่อยู่กับคนร้าย มักจะมีเสียงเรียกโทรศัพท์เข้ามาหาคนร้ายบ่อยครั้ง โดยที่หน้าโทรศัพท์ที่คนร้ายให้ผู้เสียหายดู จะปรากฏชื่อและใบหน้าของผู้โทรศัพท์เข้ามาหาเป็นของคนดังในวงการเมือง และวงการตำรวจระดับสูง


แต่ผู้เสียหายไม่ได้ยินว่าพูดคุยกันจริงหรือไม่ เพราะคนร้ายจะสวมหูฟังและทำทีพูดคุยเรื่องราวต่างๆ นานหลายสิบนาทีต่อครั้ง ทำให้เหยื่อเชื่อถือและหลงกลถูกหลอกในที่สุด ซึ่งหากคนในวงการพระเครื่องรู้จักชายคนดังกล่าวที่หลอกต้มตุ๋นสามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่ พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี หรือที่นายพูลสวัสดิ์ ดุจดา ผู้เสียหายที่หมายเลขโทรศัพท์ 09-5892-1113 จะได้รางวัลนำจับจำนวน 50,000 บาทด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น