xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าของไอเดียอาร์ตกลางทุ่งบุรีรัมย์เปิดใจ หวังสะท้อนวิถีชาวนาดั้งเดิมอู่ข้าวอู่น้ำของโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายสุจิน สังวาลมณีเนตร  อายุ 44 ปี  อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ เจ้าของไอเดียแสดงผลงานประติมากรรม หุ่นชาวนา ยุ้งฉางข้าวจำลอง ตั้งเรียงรายกลางทุ่งนา
บุรีรัมย์ - อาจารย์ ม.ราชภัฏบุรีรัมย์ เจ้าของไอเดียหุ่นชาวนาและยุ้งข้าวจำลองตั้งเรียงรายกลางทุ่งนากว่า 20 ไร่ ผู้คนแห่ชมเซลฟีกลายเป็นแลนด์อาร์ตแห่งใหม่ เผยนำผลงานศิลปะจัดแสดงบนผืนนาเพื่อสะท้อนความสำคัญของวิถีชีวิตชาวนาดั้งเดิมและเสมือนอู่ข้าวอู่น้ำของคนทั่วโลก

จากกรณีที่ประชาชนนักท่องเที่ยวที่ขับรถสัญจรบนถนนทางหลวงหมายเลข 226 สายบุรีรัมย์-สุรินทร์ เกิดความสงสัยว่าทำไมจึงมีหุ่นชาวนามากกว่า 100 ตัวยืนเรียงรายอยู่บนคันนาและตามจุดต่างๆ ในทุ่งนาริมถนนช่วงบริเวณบ้านสวายจีก ต.สวายจีก อ.เมืองบุรีรัมย์ เนื้อที่กว่า 20 ไร่ แถมยังมียุ้งข้าวจำลองตั้งเรียงรายอยู่ด้วย โดยหุ่นชาวนาบางตัวถือกระบุงใส่ข้าวและหวดนึ่งข้าวเหนียว ผู้คนที่ขับรถผ่านไปมาอดใจไม่ได้ที่จะลงไปดูพร้อมนำกล้องถ่ายรูป และโทรศัพท์มือถือไปเซลฟีกับบรรดาหุ่นชาวนา และยุ้งข้าว ท่ามกลางต้นข้าวเขียวขจีอย่างไม่ขาดสาย ทราบว่าเจ้าของไอเดียหุ่นชาวนา และยุ้งข้าวดังกล่าวคือ นายสุจิน สังวาลมณีเนตร อายุ 44 ปี อาจารย์สอนศิลปะ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ นั้น


ล่าสุด นายสุจิน สังวาลมณีเนตร เปิดเผยถึงแนวคิดในการทำหุ่นชาวนา และยุ้งข้าวจำลองมาตั้งเรียงรายอยู่กลางทุ่งนาว่า อยากนำผลงานประติมากรรมที่ตัวเองสร้างสรรค์ขึ้นมาจัดแสดง เพื่อสะท้อนให้ประชาชนคนรุ่นหลังได้เห็นความสำคัญของผืนแผ่นดิน โดยเฉพาะนาข้าว ที่เป็นเสมือน “อู่ข้าว อู่น้ำ” ของคนทั่วโลก ซึ่งเดิมทำนากันแบบเกษตรกรดั้งเดิม แต่ปัจจุบันเกิดการเปลี่ยนแปลงกลายเป็นอุตสาหกรรมการทำนา มีการค้าข้าว การส่งออก การใช้สารเคมีเร่งผลิต เพื่อมุ่งหวังเรื่องผลกำไรมากกว่า ทำให้วิถีชีวิตการทำนาแบบดั้งเดิมค่อยๆ เลือนหายไป

จึงเกิดไอเดียในการทำหุ่นชาวนา และยุ้งข้าวมาจัดแสดงบนผืนนาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้คนหันมาเห็นความสำคัญของวิถีชีวิตชาวนาแบบดั้งเดิมมากขึ้น ซึ่งผืนนาที่นำผลงานมาจัดแสดงเป็นที่นาของชาวบ้านสวายจีก

สำหรับวัสดุที่นำมาทำหุ่นชาวนา และยุ้งข้าวจะเน้นของที่ได้จากท้องถิ่น เช่น ขี้ควาย ดินปลวก แกลบ ผสมกับปูน ซึ่งนอกจากหุ่นชาวนา และยุ้งข้าวแล้ว จะนำประติมากรรมเมล็ดข้าวจำลองขนาดตั้งแต่ 3-5 เมตรมาจัดแสดงเพิ่มเติมด้วย และหลังช่วงฤดูเก็บเกี่ยวก็จะมีจัดมุมให้สำหรับผู้คนที่สนใจได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก หากหน่วยงานใดต้องการจะต่อยอดให้เป็นแลนด์มาร์กหรือแหล่งท่องเที่ยวถือเป็นสิ่งที่ดี ซึ่งหลังจากได้มีประชาชนนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาชมและถ่ายรูปผลงานที่จัดแสดงบนผืนนาแห่งนี้รู้สึกภูมิใจและหวังว่าจะทำให้คนหันมาเห็นความสำคัญของวิถีชีวิตชาวนามากขึ้นด้วย

ส่วนงบประมาณที่นำมาสร้างสรรค์ประติมากรรมบนผืนนาแห่งนี้ สืบเนื่องจากได้รับรางวัล “ทุนสร้างสรรค์ศิลป์พีรศรี” ประจำปี 2561 ซึ่งหากได้รับทุนมาอีกตนก็นำมาต่อยอดและสร้างสรรค์ผลงานอย่างต่อเนื่องต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น