หนุ่มใหญ่ร้องสื่อช่วย! ถูกสาวแสบเช่ารถไปจำนำต่อนายทุน

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - หนุ่มใหญ่ขอนแก่นโร่ร้องสื่อ หลังเกิดเหตุรถยนต์ส่วนตัวที่ให้เช่าถูกสาวแสบเช่ารถนำไปจำนำต่อนายทุนเงินกู้ ซุกในโรงสีข้าวที่ อ.กระนวน วอนตำรวจและสื่อมวลชนช่วยตามรถคืน

นายจิตรนาถ ภู่เด่นผา อายุ 42 ปี ชาวตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น นำหลักฐานภาพถ่ายรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์-เทา หมายเลขทะเบียน กน 9657 ขอนแก่น พร้อมเอกสาร หลักฐานต่างๆ ประกอบด้วย หนังสือสัญญาเช่ารถ, สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ของผู้เช่าและผู้ค้ำประกัน, ภาพถ่ายจากกูเกิลแมปที่ระบุพิกัดของรถยนต์ รวมทั้งสำเนาบันทึกการแจ้งความลงบันทึกประจำวันต่อตำรวจ สภ.บ้านเป็ด และสภ.กระนวน ร้องเรียนต่อสื่อมวลชน หลังจากถูกผู้ที่มาติดต่อเช่ารถยนต์นำรถไปจำนำต่อนายทุนรายหนึ่งในพื้นที่อำเภอกระนวนมานานเกือบ 1 เดือนแล้ว แต่ยังไร้วี่แววว่าจะได้รถคืน

นายจิตรนาถเล่าว่า ตนเพิ่งซื้อรถยนต์คันดังกล่าวเพื่อมาใช้งานในครอบครัวเมื่อประมาณ 4 เดือน แต่เนื่องจากมีปัญหารายได้จากการค้าขายจึงได้นำรถยนต์คันดังกล่าวมาเปิดให้เช่ารายวัน วันละ 1,000 บาท โดยประชาสัมพันธ์ผ่านทางเฟซบุ๊ก ซึ่งการให้เช่ามีเงื่อนไขว่าผู้เช่าต้องมาทำหนังสือสัญญาที่บ้านของตนเอง โดยใช้หลักฐานเป็นสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และใบขับขี่รถยนต์ และต้องมีผู้ค้ำประกันมาด้วย 1 คน พร้อมสำเนาบัตรประชาชนผู้ค้ำประกัน ในสัญญาผู้เช่าจะต้องชำระเงินก่อน พร้อมกับค่าประกันรถยนต์ 5,000 บาท ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่เปิดให้เช่ามีผู้ที่ต้องการใช้รถ มาติดต่อขอเช่าตามปกติ และเมื่อใช้งานครบตามกำหนดก็นำรถยนต์มาส่งคืน โดยไม่เคยเกิดปัญหาใด

กระทั่งเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา มีผู้เช่ารถรายหนึ่ง คือนางสาวพิชชา ชมภูราช อายุ 41 ปี ชาวตำบลบ้านฝาง อำเภอกระนวน และนางบุษยมาศ กรมนา อายุ 59 ปี ชาวตำบลภูเวียง อำเภอภูเวียง ซึ่งมาเป็นผู้ค้ำประกัน มาติดต่อขอเช่ารถที่บ้าน โดยนางสาวพิชชา ในฐานะผู้เช่า บอกกับตนว่าจะขอเช่ารถไปใช้งานระหว่างวันที่ 20-27 มีนาคม 2561 ซึ่งตนได้ทำสัญญาเช่าและรับชำระค่าเช่าตามปกติ ก่อนที่นางสาวพิชชาจะนำรถไป

จากนั้นอีก 2 วันถัดมาตนได้ตรวจสอบพิกัดที่อยู่ของรถยนต์ผ่านระบบ GPS ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องทำเป็นประจำ พบว่าสัญญาณ GPS ของรถยนต์อยู่บริเวณโรงสีข้าวแห่งหนึ่งริมถนนสายกระนวน-ห้วยเม็ก ตำบลหนองโก อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น ซึ่งครั้งแรกตนไม่เอะใจ แต่อีกวันถัดมาเมื่อตรวจสอบอีกก็พบว่ารถยนต์ยังคงจอดอยู่ที่ตำแหน่งเดิม ซึ่งตนคิดว่าน่าจะเป็นบ้านของผู้เช่ารถแล้วจอดไว้ไม่ได้ใช้งาน ตนจึงโทรศัพท์ไปสอบถามว่ารถยนต์มีปัญหาเรื่องการใช้งานหรือไม่ ซึ่งได้คำตอบจากนางสาวพิชชาว่ารถใช้งานได้ตามปกติ เพราะตนก็ขับไปๆ มาๆ สลับกับรถที่บ้านของตนเอง

หลังจากใกล้ครบกำหนดส่งรถคืน ช่วงเที่ยงวันที่ 26 มีนาคม ตนได้โทรศัพท์ไปแจ้งให้นางสาวพิชชาทราบเพื่อเตรียมนำรถยนต์มาคืนตามกำหนดวันพรุ่งนี้ ซึ่งนางสาวพิชชาบอกว่าจะนำรถมาคืนตามกำหนด แต่เมื่อถึงวันที่ 27 มีนาคมหญิงคนดังกล่าวก็ยังไม่นำรถยนต์มาส่งคืน ตนจึงโทรศัพท์ไปสอบถามก็ได้คำตอบว่าจำเป็นต้องใช้รถยนต์ไปอีก 4-5 วัน หญิงคนดังกล่าวจึงขอเช่ารถต่อ และโอนเงินค่าเช่ามาให้ทุกวัน วันละ 1,000 บาท จนถึงวันที่ 9 เมษายน

แต่หลังจากนั้นตนก็ไม่ได้รับเงินค่าเช่า และเมื่อโทรศัพท์ไปหาหญิงคนดังกล่าวเริ่มบ่ายเบี่ยงและถ่วงเวลาจะคืนรถเช่ามาให้ตน และหลายๆ ครั้งที่โทรศัพท์ไปก็ไม่รับสายหรือปิดเครื่อง ตนจึงลองเช็กสัญญาณ GPS ของรถยนต์ก็พบว่ายังจอดอยู่ที่บริเวณโรงสีข้าวแห่งหนึ่งในตำบลหนองโก อำเภอกระนวน จึงตัดสินใจเหมารถแท็กซี่จากอำเภอเมืองขอนแก่นไปยังจุดที่สัญญาณ GPS แสดงตำแหน่ง จึงพบว่าจุดที่ GPS แสดงพิกัดไม่ใช่บ้านของหญิงสาวผู้เช่ารถตามที่ตนเข้าใจมาตลอด และเมื่อสอบถามกับเจ้าของโรงสีได้รับแจ้งว่าไม่มีรถยนต์ที่ตนเองตามหา

ต่อมาวันที่ 16 เมษายนตนได้โทรศัพท์ไปหานางสาวพิชชาอีกครั้ง และได้พยายามสอบ ถามว่ารถยนต์อยู่ที่ใหน ก่อนที่นางสาวพิชชาจะยอมรับว่าได้นำรถยนต์ที่เช่ามาไปจำนำกับหญิงที่ชื่อ “ยายเรือง” นายทุนเงินกู้ในอำเภอกระนวน ซึ่งสอดคล้องกับที่ตนได้ค้นหาตำแหน่งรถยนต์จากสัญญาณ GPS เบื้องต้นผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.กระนวน และ สภ.บ้านเป็ด แล้ว แต่ยังไม่คืบหน้าใดๆ จึงตัดสินใจร้องต่อสื่อมวลชนเพื่อเตือนภัยและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือติดตามรถกลับคืนมา