หญิงไทยใจบุญ.. จิตอาสารับบริจาคช่วยส่งศพแรงงานบุรีรัมย์หนีทัวร์ผูกคอตายที่เกาหลีกลับไทย

บุรีรัมย์ - จัดหางานบุรีรัมย์ลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริง หาแนวทางช่วยเหลือครอบครัวหนุ่มแรงงานหนีทัวร์ท่องเที่ยวทำงานเกาหลีแล้วผูกคอตายข้างถนน เหตุถูกกดขี่สารพัด กินอยู่ยากลำบาก ทั้งทำงานไม่ได้เงินตามฝัน และญาติไม่มีเงินนำศพกลับบ้าน เผยหากสอบพบมีนายหน้าหลอกลวงเตรียมเอาผิดตามกฎหมาย ล่าสุดหญิงไทยใจบุญ จิตอาสารับบริจาคและติดต่อประสานงานจัดส่งศพกลับไทย 15 ก.พ.นี้

วันนี้ (13 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นายวันสิน บุญกลาง และ น.ส.ออม วงศ์จันทร์ สองสามีภรรยาชาว ต.ห้วยสำราญ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศเกาหลีโดยไม่ถูกต้องเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2560 ด้วยวิธีการซื้อแพกเกจทัวร์ท่องเที่ยวคนละ 20,000 บาท เมื่อไปถึงประเทศเกาหลีแล้วหนีทัวร์แอบไปทำงานเพื่อหวังจะได้เงินมาสร้างบ้าน และส่งลูกทั้ง 3 คนเรียน แต่สุดท้ายกลับไม่เป็นไปตามที่วาดฝันไว้ ต้องเผชิญชะตากรรมที่ยากลำบากสารพัด ทั้งถูกนายจ้างกดขี่ไม่จ่ายค่าแรงเพราะรู้ว่าเป็นแรงงานที่ลักลอบไปทำงานโดยผิดกฎหมาย กินอยู่หลับนอนลำบาก ผ่านไปเพียง 7 วัน น.ส.ออม ผู้เป็นภรรยาทนไม่ไหว สามีจึงตัดสินใจให้ซื้อตั๋วเดินทางกลับมาบ้านก่อน ส่วนสามียังทำงานที่เกาหลีต่อ กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมาทางสถานทูตเกาหลีได้โทรศัพท์มาแจ้งภรรยาว่า นายวันสิน สามีได้ผูกคอเสียชีวิตที่ริมถนนที่ประเทศเกาหลีแล้ว สร้างความเสียใจให้แก่คนในครอบครัวเป็นอย่างมาก ทั้งไม่มีเงินเป็นค่าใช้จ่ายที่จะส่งศพสามีกลับมาบำเพ็ญกุศลที่เมืองไทยได้นั้น

ล่าสุดทราบว่าได้มีผู้ใจบุญเป็นหญิงไทยที่มีสามีอยู่ประเทศเกาหลี ได้อาสาเป็นธุระในการเปิดรับบริจาคและติดต่อประสานงานในการจัดส่งศพกลับมาที่ประเทศไทยได้แล้ว ซึ่งทราบว่าจะส่งศพมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลาประมาณ 02.00 น. วันพฤหัสบดีที่ 15 ก.พ.นี้ ขณะนี้ น.ส.ออม ภรรยา ได้เดินทางไปเฝ้ารอรับศพสามีที่กรุงเทพฯ แล้ว

ส่วนบรรยากาศที่บ้านเลขที่ 138 หมู่ 6 ต.ห้วยสำราญ อ.กระสัง ทางญาติและเพื่อนบ้านได้จัดเตรียมสถานที่ไว้รอประกอบพิธีสวดพระอภิธรรมศพนายวันสิน ซึ่งขณะนี้ทางญาติยังไม่กำหนดว่าจะทำพิธีสวดพระอภิธรรมกี่วัน และจะฌาปนกิจวันไหน ต้องรอให้ศพกลับมาถึงบ้านแล้วจะปรึกษากันอีกครั้ง

ขณะที่ทางจัดหางานจังหวัดบุรีรัมย์ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปสอบถามข้อมูลจากญาติของนายวันสิน หนุ่มแรงงานที่ผูกคอเสียชีวิตที่เกาหลี ซึ่งเบื้องต้นได้ข้อมูลว่านายวันสิน และภรรยาได้ติดต่อกับนายหน้าผ่านเฟซบุ๊ก จากนั้นทั้งสองไปกู้เงิน ธ.ก.ส.เพื่อเป็นค่านายหน้าและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงาน ด้วยวิธีการซื้อแพกเกจทัวร์ท่องเที่ยว แต่เมื่อแอบไปทำงานกลับไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้จึงส่งภรรยาเดินทางกลับไทย ส่วนสามีทำงานต่อกระทั่งได้ผูกคอเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งทางญาติไม่ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เพียงต้องการนำศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเท่านั้น ทั้งนี้จะได้สอบสวนข้อมูลเพิ่มเติมหากพบว่าเป็นขบวนการหรือนายหน้าหลอกลวงไปจะดำเนินการเอาผิดบริษัทหรือนายหน้าตามกฎหมายด้วย

นายประเทือง ปิยะรัมย์ อายุ 56 ปี นักวิชาการชำนาญการ สำนักงานจัดหางานจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นการเดินทางไปทำงานโดยไม่ถูกต้องหรือไม่ผ่านกรมการจัดหางานตามระเบียบหลักเกณฑ์ของกรมการจัดหางานจึงไม่สามารถช่วยเหลือได้ แต่เบื้องต้นได้ประสานกับทาง พมจ.เพื่อช่วยเหลือเงินสงเคราะห์ค่าจัดการศพ ส่วนทางจัดหางานจะช่วยในเรื่องการจัดหาตำแหน่งงานให้ภรรยา หรือบุตรสาวของผู้เสียชีวิตให้มีอาชีพ มีรายได้เลี้ยงตัวเอง

จากกรณีดังกล่าวถือเป็นกรณีตัวอย่างที่อยากจะแจ้งเตือนแรงงานไทยที่คิดจะเดินทางไปทำงานต่างประเทศควรไปให้ถูกต้องหรือผ่านกรมการจัดหางาน เพราะหากเกิดปัญหาอะไรทางภาครัฐจะสามารถช่วยเหลือได้ เพราะกรมการจัดหางานจะมีกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศอยู่แล้ว

ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่าแรงจูงใจที่แรงงานไทยอยากจะไปทำงานประเทศเกาหลีเนื่องจากมีค่าแรงที่ค่อนข้างสูง และเดินทางไปง่ายกว่าประเทศอื่นๆ แต่มีหลายคนที่ถูกชักชวนหรือหลอกลวงไปด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง ทำให้เสี่ยงต่อการถูกเอาเปรียบในหลายๆ ด้าน ซึ่งข้อมูลปี 2560 มีแรงงานในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์เดินทางไปทำงานประเทศเกาหลีอย่างถูกต้อง จำนวน 599 คน