xs
xsm
sm
md
lg

อ้าว..ให้กู้กองทุน ส.ป.ก.มาจ่าย แต่สุดท้ายทหารผ่านศึกได้ที่ทับเขตป่ารวมกว่า 200 ไร่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


พิษณุโลก - ผู้ตรวจการแผ่นดินจี้เร่งแก้ปัญหาที่จัดสรรทหารผ่านศึก หลังกู้เงินกองทุน ส.ป.ก.ไปซื้อที่ดินว่างเปล่า แต่สุดท้ายได้ ส.ป.ก.4-01 ทับซ้อนเขตป่าสงวนแห่งชาติฯ ชาติตระการกว่า 200 ไร่ แถมเรื้อรังมานับ 10 ปีไม่ได้รับการแก้ไข

วันนี้ (24 ม.ค.) พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน, พล.ท.วรากร เพิ่มพูน ที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน, นายสงัด ปัถวี รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่เร่งรัดสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดพิษณุโลกแก้ไขปัญหาการจัดสรรที่ดิน อ.ชาติตระการ ให้แก่ทหารผ่านศึก ทับซ้อนเขตป่ากว่า 200 ไร่ เพื่อคลี่คลายโดยเร็ว หลังยืดเยื้อนานกว่า 10 ปี

มีนายฐานุพงศ์ เจริญสุรภิรมย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก, นายนิพนธ์ ชนมนัส ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานการปฏิรูปที่ดิน, นายอุกฤษฏ์ อินทาภรณ์ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดพิษณุโลก, นายบุญลาภ สุกใส ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก, นายพยุง คุ้มสุพรรณ นายอำเภอชาติตระการ, นายสุรศักดิ์ พีรภูมิ ผอ.ส่วนจัดการที่ดินป่าไม้จังหวัดพิษณุโลก และผู้ร้องเรียนร่วมหารือ

พล.อ.วิทวัสเปิดเผยว่า การจัดสรรที่ดินให้แก่สมาชิกของสมาคมทหารผ่านศึกพิการแห่งประเทศไทยกว่า 360 ไร่เพื่อประกอบอาชีพเกษตรกรรม ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2538 ซึ่งสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กำหนดหลักเกณฑ์และคุณสมบัติแก่ผู้ขอรับการจัดสรร พร้อมเงื่อนไขในการให้กู้เงินจาก ส.ป.ก.พิษณุโลก มาชำระเป็นค่าชดเชยที่ดินและค่าปรับสภาพที่ดิน เนื่องจากสภาพพื้นที่ยังเป็นป่ารกไม่สามารถรังวัดได้ ก่อนออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) ให้ ทั้งนี้สัญญามีการกำหนดคืนเงินพร้อมดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 15 ปี

ต่อมาเมื่อกรมป่าไม้ร่วมกับ ส.ป.ก.ได้มีการตรวจสอบแนวเขตที่ดินระหว่างเขตปฏิรูปที่ดิน และเขตป่าสงวนแห่งชาติ พบว่ามีพื้นที่จัดสรรกว่า 200 ไร่ ทับซ้อนในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และต้องถูกเพิกถอน ส.ป.ก. 4-01 เพราะไม่ได้อยู่ในเขตพระราชกฤษฎีกาประกาศเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ขณะที่หน่วยงาน ส.ป.ก.ไม่ได้ผ่อนผัน หรือขยายเวลาการชำระเงินกู้ให้ชาวบ้านที่เดือดร้อน บางส่วนถูกฟ้องร้องดำเนินคดี บางส่วนยื่นเรื่องร้องเรียนมายังผู้ตรวจการแผ่นดิน

ดังนั้นจึงต้องเร่งแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้าน ซึ่งขณะนี้ได้ข้อสรุป 3 แนวทาง คือ 1) กรณีผู้ร้องเรียนมีความประสงค์รับการจัดสรรที่ดินเพื่อทำกิน ให้พิจารณาขยายเขตพื้นที่ ส.ป.ก. และเสนอเรื่องไปยังคณะรัฐมนตรีต่อไป 2) กรณีผู้ร้องเรียนมีความประสงค์ยกเลิกการจัดสรรที่ดิน ให้ยื่นคำร้องเพื่อขอรับเงินเยียวยาค่าเสียหายแทน และ 3) กรณีที่ดินแปลงอื่นๆ ที่เหลือ ให้ตรวจสอบการครอบครองที่ดินว่าเป็นผู้ถือครองเดิมหรือไม่ หากไม่ใช่ให้ดำเนินการเพิกถอนสิทธิและส่งมอบที่ดินคืนให้กรมป่าไม้




กำลังโหลดความคิดเห็น