xs
xsm
sm
md
lg

สลด! ช้างพลายงาคู่ตายไม่ทราบสาเหตุในป่าอุทยานกุยบุรี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ประจวบคีรีขันธ์ - สลด! พบซากช้างพลายงาคู่ขนาดใหญ่ ตายในป่าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เร่งประสานสัตวแพทย์พิสูจน์ซาก

วันนี้ (12 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบซากช้างป่าล้มในพื้นที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งพบว่าเป็นช้างป่าขนาดใหญ่ มีงาทั้ง 2 ข้าง หรือช้างพลาย นอนเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ

เบื้องต้น ตรวจสอบพบจุดที่ช้างป่าตายอยู่ในป่าบ้านพุบอน ต.หาดขาม นายนิธิ อาจสมรรถ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี นายวัฒนา พรประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี และฝ่ายปกครองอำเภอกุยบุรี นำกำลังเดินทางเข้าไปตรวจสอบจุดที่พบซากช้างป่า พร้อมประสานสัตวแพทย์เข้าพิสูจน์ซากช้างป่าตัวดังกล่าวแล้ว

อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ทีมสัตวแพทย์จากศูนย์เพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทราย จะเดินทางไปยังที่เกิดเหตุเพื่อผ่าพิสูจน์ซากช้างป่าหาสาเหตุการตายอีกครั้ง

ต่อมา นายกาญจนพันธุ์ กำแหง หน.อุทยานแห่งชาติกุยบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ และหน่วยงานเกี่ยวข้องเดินทางไปยังจุดที่รับแจ้งพบซากช้างป่าล้มในลำห้วย

เบื้องต้น จากการตรวจสอบของนายสัตวแพทย์สาโรจน์ จันทร์ลาด หน.ฝ่ายสุขภาพสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พบว่า เป็นช้างป่าเพศผู้ (ช้างพลาย) อายุไม่น้อยกว่า 20 ปี มีงายาวสวยงามพ้นออกมาจากโพรงปากประมาณ 40-50 เซนติเมตร ทั้ง 2 ข้าง หางสั้น ล้มตะแคงซ้ายอยู่ในร่องลำห้วย เริ่มส่งกลิ่นเหม็น ล้มมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 ชั่วโมง

ซึ่งการตรวจสอบตัวช้างป่าด้านซีกขวายังไม่พบร่องรอยบาดแผลแต่อย่างใด ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นการล้มที่ผิดธรรมชาติ โดยมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะได้รับสารพิษ แต่จะเป็นสารอะไรนั้นต้องรอทีมสัตวแพทย์จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 เพชรบุรี มาตรวจสอบในวันพรุ่งนี้ และผ่าพิสูจน์เก็บตัวอย่างอวัยวะไปตรวจสอบในห้องปฏิบัติการเพื่อหาสาเหตุการล้มอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน นายศรีสวัสดิ์ บุญมา กำนันตำบลหาดขาม กล่าวว่า ในพื้นที่ป่ากุยบุรี ไม่เคยพบปัญหาช้างป่าล้มผิดธรรมชาติมานานหลายปีแล้ว ส่วนกรณีช้างป่าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ออกมากินพืชผลทางการเกษตรในพื้นที่บ้านพุบอน ไม่ค่อยพบความเสียหายจากช้างป่า ในครั้งนี้ช้างป่ามีงาสวยงามมาล้มในพื้นที่รู้สึกเสียใจ และคงต้องรอผลผ่าพิสูจน์ และการพลิกซากช้างป่าอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม นายนิธิ อาจสมรรถ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 เพชรบุรี นายวัฒนา พรประเสริฐ ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ ได้เดินทางเข้าพื้นที่แต่เนื่องจากว่าเริ่มมืดแล้ว และเป็นป่ารก และกล่าวว่า ซึ่งจุดที่ช้างป่าล้ม เบื้องต้น หากหลังผ่าพิสูจน์ และถอดเอางาออกแล้วอาจไม่สามารถขุดหลุบฝังกลบได้ เนื่องจากรถแบ็กโฮไม่สามารถเข้าไปได้ อาจต้องใช้วิธีการนำยางรถยนต์มาทำการเผาซากแทน ในวันนี้ยังระบุไม่ได้ว่าช้างป่าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ตัวที่ล้มครั้งนี้เกิดจากสาเหตุอะไร ต้องรอการผ่าพิสูจน์ และพลิกซากช้างป่าอีกด้านในวันพรุ่งนี้




กำลังโหลดความคิดเห็น