xs
xsm
sm
md
lg

อีกสัปดาห์รู้ผล..ผบช.ภ.6 สั่งตั้ง กก.สอบคดีสาว 24 เป็นเหยื่อหรือร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.ต.ท.ทวิชชาติ พละศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6
พิษณุโลก/ตาก - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 สั่งตั้งกรรมการชุดใหญ่ตรวจสอบคดีสาว 24 ถูกฉกบัตรประชาชนเปิด 9 บัญชี 7 แบงก์ลวงเหยื่อโอนเงิน คาดอีก 1 สัปดาห์เปิดโปงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตัวจริงได้ ขณะที่พี่สาวยังติดใจพนักงานสอบสวนส่งหลักฐานไม่ครบ ทำติดคุกไม่ได้ประกัน 3 คืน 2 วัน

วันนี้ (10 ม.ค.) พล.ต.ท.ทวิชชาติ พละศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงกรณี น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ อายุ 24 ปี ถูกขโมยบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีธนาคาร 7 แห่ง รวม 9 บัญชี จนกลายเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง ก่อนที่ตำรวจ สภ.บ้านตาก จ.ตาก จับกุมและคุมตัวส่งศาลจังหวัดตาก

โดยบางคนสงสัยวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ารวดเร็วเกินไป และไม่มีการสอบก่อนหรือไม่ จนทำให้ น.ส.ณิชาต้องติดคุกไป 2 วัน 3 คืน ญาติต้องยื่นขอประกันถึง 3 ครั้ง กระทั่งศาลอุทธรณ์ภาค 6 ให้ประกันด้วยเงินสด 8 หมื่นบาท

ผบช.ภาค 6 กล่าวว่า ผู้ถูกกล่าวหารายหนึ่งเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถูกหลอกให้โอนเงินกว่า 300,000 บาทเข้าบัญชี น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ ต่อมาทราบว่ากระเป๋าสตางค์ และบัตรประชาชน น.ส.ณิชาหาย ซึ่งตำรวจ สภ.บ้านตาก ออกหมายเรียก น.ส.ณิชา 2 ครั้ง แต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อ

จากนั้นจึงได้ออกหมายจับ และ น.ส.ณิชาก็ได้มาแสดงตนที่สถานีตำรวจกองปราบปราม กทม. และตำรวจ สภ.บ้านตากนำรถไปรับตัวมาทันที เมื่อถึง สภ.บ้านตาก เวลา 23.00 น. จึงไม่สามารถประกันตัวได้ เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวให้ศาลฝากขังในวันรุ่งขึ้น เนื่องจากผู้ต้องหาไม่มีเงินประกันตัวจำนวน 80,000 บาท กระทั่งวันที่ 8 ม.ค. ผู้ต้องหามีเงินประกันตัวออกไปได้ ทำให้เกิดกระแสเชิงลบว่าตำรวจทำงานเร็วเกินไป ไม่มีการสอบสวนก่อน

พล.ต.ท.ทวิชชาติกล่าวต่อว่า ตนขอชี้แจงว่าพนักงานสอบสวน สภ.บ้านตากทำตามระเบียบทุกขั้นตอน ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องสมบูรณ์ และให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย โดยตนได้ย้ำให้พนักงานสอบสวนทำตามขั้นตอนอย่างเป็นธรรม ทั้งผู้เสียหาย และผู้ต้องหา

“ตอนนี้ผมได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนชุดใหญ่ มีรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก เป็นประธานในการสอบสวน หากตรวจสอบแล้ว น.ส.ณิชาไม่ได้กระทำผิดจริง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะถอนคดีนี้ได้”

แนวทางการสอบสวนขณะนี้ได้เรียกสอบพยาน และหลักฐานให้มากที่สุด โดยจะต้องสืบสวนไปอีกว่ามีการฝากเงินเข้าบัญชีที่เปิดจริง ต้องตามหาขบวนการว่าใครเป็นคนเบิกเงินไป ซึ่งมีภาพปรากฏ และติดตามเส้นทางการเงินที่ทิ้งหลักฐานไว้ จะทำให้ทราบได้ว่า ขบวนการนี้มีใครเกี่ยวข้องบ้าง

“คาดว่าอีก 1 สัปดาห์รู้ผลแน่นอน จากนั้นจึงมาเปิดโปงขบวนการแก็งคอลเซ็นเตอร์จนครบตัวบุคคล และสามารถหาข้อสรุปอีกครั้งว่า น.ส.ณิชาเกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่งอาจพ้นผิดก็เป็นไปได้ แต่ ณ วันนี้ยังตอบไม่ได้ ต้องสืบสวนเชิงลึกก่อน”

ด้าน พล.ต.ต.ปริญญา วิศิษฐฎากุล ผบก.ภ.จว.ตาก เปิดเผยว่า ตำรวจภูธรจังหวัดตาก ได้มีการประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย และแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งในส่วนของคำร้องผู้ต้องหา และสำนวนคดีที่เกี่ยวข้องกับผู้เสียหาย เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย โดยมี พ.ต.อ.ศักดิ์ดา สังขนิตย์ รอง ผบก.ภ.ตาก เป็นประธานสอบสวนเพิ่มเติม

พล.ต.ต.ปริญญากล่าวว่า ขณะนี้ได้ทำการสอบสวนธนาคารที่เกี่ยวข้องกับการเงินในพื้นที่ทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงธนาคารที่เกี่ยวข้องในกรุงเทพมหานคร 3 แห่ง ที่เกี่ยวเนื่องกับคดีในพื้นที่ รวมถึงการตรวจสอบภาพถ่ายของคนร้ายที่ปรากฏในธนาคารที่ น.ส.ณิชา นำมาเป็นหลักฐาน เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ว่าถูกคนร้ายนำบัตรประชาชนไปเปิดบัญชี และไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

หากบุคคลที่ปรากฏในภาพถ่าย หรือคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดในธนาคารไม่ใช่ น.ส.ณิชา ทางคณะพนักงานสอบสวนก็จะพิจารณายกฟ้อง น.ส.ณิชา และจะต้องหาตัวผู้กระทำความผิดตัวจริงที่ปรากฏในภาพถ่ายหรือคลิปวิดีโอมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผบก.ภ.ตากกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ น.ส.ณิชา และญาติ กล่าวหาว่าพนักงานสอบสวน สภ.บ้านตากเพิกเฉยต่อเอกสารที่ทาง น.ส.ณิชาได้มอบให้พนักงานสอบสวนเพื่อเป็นหลักฐานในการพิจารณาประกันตัวที่ศาลจังหวัดตากในการฝากขัง โดยทางญาติติดใจการทำงานของพนักงานสอบสวนว่าไม่ได้ให้ความเป็นธรรม ทำให้ไม่ได้รับการประกันตัวชั้นศาล

ในกรณีนี้ ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ปรากฏว่าพนักงานสอบสวนไม่มีความผิด เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยพนักงานสอบสวนได้ขออำนาจศาลฝากขังผู้ต้องหาตามที่ได้มีผู้เสียหายกล่าวโทษและมีหมายจับไป และบุคคลที่ถูกควบคุมตัวเป็นบุคคลตรงตามหมายจับของ สภ.บ้านตาก

ส่วนหลักฐานทั้งหมดที่ น.ส.ณิชาได้มอบให้นั้น พนักงานสอบสวนได้รับไว้พิจารณาและจะรวบรวมตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดเพื่อประกอบสำนวนคดี ซึ่งเป็นขั้นตอนต่อไป โดยพนักงานสอบสวนในคดีนี้ได้ปฏิบัติไปตามกรอบของกฎหมายทุกขั้นตอน

“กรณีที่กองบังคับการปราบปรามจะให้โอนคดีทั้งหมดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ สภ.บ้านตาก และ สภ.เมืองตากไปดำเนินการเองก็ยินดี ซึ่งจะได้มอบหลักฐานและสำนวนสอบสวนทั้งหมดให้ทางกองบังคับการปราบปรามไปทำเอง”

ด้านนางสาวปุญญาดา ก๊กมาศ พี่สาว น.ส.ณิชา บอกว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากพนักงานสอบสวน สภ.บ้านตากในวันที่ส่งตัวน้องณิชาขอฝากขังที่ศาลจังหวัดตาก เนื่องจากทราบว่าทางพนักงานสอบสวนไม่ได้มอบเอกสารให้ศาลพิจารณาครบถ้วน

“เอกสารที่น้องณิชาเตรียมไว้ประกอบด้วยใบแจ้งขอทำบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ ใบแจ้งขอยกเลิกบัญชีธนาคารทั้งหมด 7 แห่งรวม 9 บัญชี และภาพถ่ายของคนร้ายที่ไปขอเปิดบัญชีธนาคาร ซึ่งทางพนักงานสอบสวนไม่ได้ส่งให้ศาลพิจารณาอย่างครบถ้วน เป็นเหตุให้ไม่ได้รับการพิจารณาประกันตัวในชั้นศาล เชื่อว่าน้องณิชาเป็นผู้บริสุทธิ์ไม่ได้เป็นผู้ต้องหาเป็นผู้เสียหายมากกว่า เนื่องจากถูกคนร้ายที่ขโมยเอาบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีธนาคารทั้ง 7 แห่ง ร่วม 9 บัญชี ทำให้ได้รับความเดือดร้อน”

อนึ่ง น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ อายุ 24 ปี พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่ตกเป็นผู้ต้องหาฉ้อโกง อ้างว่า ถูกคนร้ายล้วงกระเป๋าสตางค์ขณะเดินทางไปทำงาน มีบัตรประจำตัวประชาชน บัตรเอทีเอ็ม เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2560 และในวันที่ 7 ตุลาคม 2560 ได้ไปขอแจ้งทำบัตรใหม่ในวันต่อมา จากนั้นทราบว่าคนร้ายได้นำบัตรประชาชนไปขอเปิดบัญชีธนาคารจำนวน 7 แห่งรวม 9 บัญชี หลอกให้เหยื่อโอนเงินเข้าบัญชีชื่อของ น.ส.ณิชา จากนั้นก็เบิกเงินหลบหนีไป

ซึ่งผู้เสียหายคือ นางการต์สินี ยะเมา เป็นชาวอำเภอสามเงา จังหวัดตาก ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.นิมิตร ฮวบน้อย พนักงานสอบสวน สภ.บ้านตาก อ.บ้านตาก และ สภ.เมืองตาก จ.ตาก ว่าถูกหลอกลวงให้โอนเงินเข้าบัญชีชื่อ น.ส.ณิชา ธนาคารออมสิน สาขาบ้านตาก ท้องที่ สภ.บ้านตาก จำนวน 4 ครั้ง รวมเป็นเงิน 305,000 บาท, เข้าบัญชีธนาคารทหารไทย และบัญชีธนาคารอื่นๆ ในท้องที่ สภ.เมืองตาก อีกเป็นเงิน 1,070,000 บาท



กำลังโหลดความคิดเห็น